หนึ่งใน “หลายชีวิตในพงศาวดารจีน” (สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พิมพ์ พ.ศ.2526) ล.เสถียรสุต เขียนถึงชื่อ จือซ้ง ระบุว่าเป็น นักปกครองที่ดีที่สุด

ว่ากันว่าจือซ้งเป็นราชวงศ์จีนแคว้นแต้ แคว้นเล็กๆ ปลายสมัยราชวงศ์จิว ช่วงเวลานั้น เจ้าแคว้นต่างปกครองกันเอง ยังไม่รบรุกรานกันและกันนัก

เล่ากันอีกว่า ตอนจือซ้งเป็นหนุ่ม การปกครองแคว้นแต้เสื่อมโทรมมาก วัยรุ่นไม่นำพาการศึกษา ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเที่ยวเตร่ และวิวาทกันด้วยเรื่องรักๆใคร่ๆ

ต่อมาเกิดเรื่องรบกันในหมู่ราชวงศ์ สองฝ่ายต่างก็เข้าหาจือซ้ง ขอร้องให้เป็นพวก แต่จือซ้งไม่เอาด้วย

แต่ก็ทนดูคนที่สู้รบบาดเจ็บไม่ไหว จึงเข้าไปดูแลรักษาทั้งสองฝ่าย แต่เน้นหนักไปช่วยราษฎรที่เดือดร้อนจากสงครามกลางเมืองมากกว่า

ไม่นาน ราชวงศ์สองฝ่ายละอายใจ เลิกรบกันไปเอง แล้วหันมาขอร้องให้จือซ้งเป็นเสนาบดีนคร ซึ่งมีอำนาจบริหารเท่ากับอัครมหาเสนาบดีในส่วนกลาง

มีบันทึกประวัติศาสตร์ชัดเจน จือซ้งบริหารบ้านเมืองได้หนึ่งปี พวกวัยรุ่นก็เลิกเที่ยวเตร่ ปีที่สอง ไม่มีการฉ้อโกงทางการค้า ปีที่สามทุกบ้านเรือนไม่ต้องปิดประตูนอนตอนกลางคืน เพราะไม่มีขโมย

ปีที่สี่ ชาวนาไม่ต้องหอบหิ้วเครื่องทำนากลับบ้าน ทิ้งไว้ที่นาโดยไม่มีใครมาหยิบยืมไปใช้

ระหว่างเวลาที่่จือซ้งอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ทุกคนเข้าพบได้โดยไม่มีใครกีดกัน งานหลักที่ถือเป็นงานหนักของเขาคือการอบรมสั่งสอนผู้คน 26 ปี บนเก้าอี้ผู้นำ จือซ้งลงโทษประหารไป 3 คน ลงโทษอาญา 2 คน

เป็นคนแรกที่ใช้การสื่อสาร เป็นหัวใจการปกครอง ออกหนังสือพิมพ์ ตีพิมพ์กฎหมาย คำสั่งของทางการ ทั้งยังรายงานข่าวทั่วไป ถือเป็นต้นแบบหนังสือราชกิจจานุเบกษาที่แพร่หลายใช้กันไปทั่ว และใช้กันต่อๆมา

...

แต่นครเล็กๆที่แสนจะสงบสุขอย่างแคว้นแต้ ก็มักถูกแคว้นใหญ่ใกล้เคียงรุกราน จือซ้งวางวิเทโศบาย วางตำแหน่งแคว้นเป็นกลาง ไม่เข้าข้างแคว้นใด ทุกแคว้นต่างเคารพยำเกรง

วางนโยบายตั้งรับศึกนอกได้มั่นคงแล้ว ศึกใน ปัญหาระหว่างผู้นำคือจือซ้ง กับเจ้ากั๊ง เจ้าผู้ครองแคว้นแต้ก็ไม่มี เจ้าแคว้นเชื่อถือและไว้ใจเขามาก ไม่เคยก้าวก่ายงานบริหารของเขาเลย

ผลงานเด่นที่สุดของจือซ้ง คือการศึกษา เขาสร้างโรงเรียนทุกอำเภอ นักศึกษาสามารถวิจารณ์การปกครองได้

งานประจำจือซ้ง คือการไปนอนค้างในโรงเรียน นอกจากถกปัญหาการเมือง แล้วยังเล่นดนตรีกับนักเรียน

เจ้านคร และนักปกครองสมัยราชวงศ์จีน ยกย่องและให้เกียรติจือซ้งมาก กระทั่งขงจื๊อ ก็ยังยอมรับว่า จือซ้งคือนักปกครองที่ดีที่สุดของจีน

ผมอ่านเรื่องจือซ้งแล้วชื่นใจยิ้มได้ แต่ตอนไปเดินงานหนังสือสถานีกลางบางซื่อ เพื่อนพาไปดูบูธหนังสือสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ที่เคยมีข่าวคุณธนาธรเคยร่วมงาน ถูกคนในเครื่องแบบไปเตือนให้เลิกใช้ถ้อยคำโฆษณาหนังสือ เขาว่า “หมิ่นเหม่”

ผมก็ยิ้มไม่ออก นึกเป็นห่วงบ้านเมืองขึ้นมา

เด็กๆเจอไปหนักแล้ว ผู้ใหญ่ระดับอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ก็เพิ่งเจอ 4 คนหัวเกรียนไปถ่ายรูปถึงหน้าห้องในคอนโดฯย่านปิ่นเกล้า

นายกฯประยุทธ์ครับ เรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้ ในช่วงหาเสียง เป็นงานช่วยหาเสียงให้พรรคการเมืองอื่นเขา

อีกข้อ ถ้าอยากให้บ้านเมืองเรียบร้อยเหมือนบ้านเมืองจือซ้ง ก็น่าจะเรียกตำรวจไปทัก ไปตักเตือนเสียบ้าง...บ้านเมืองที่ร้อนๆอยู่แล้ว ด้วยเรื่องหลายๆเรื่อง ทำไมต้องไปสุมไฟให้มันร้อนขึ้นไปอีก.

กิเลน ประลองเชิง