ศาลฎีกาลงดาบเชือด “ปารีณา” พ้น ส.ส. ปิดฉากชีวิตนักการเมือง เซ่นคดีฟาร์มไก่รุกป่าสงวน สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ชี้ชัดเป็น ส.ส.ครอบครองที่ดินปฏิรูปทั้งที่รู้ไม่มีคุณสมบัติ ทำเสื่อมเสียเกียรติและมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง “เอ๋” ตัวชาเสียงสั่น น้อมรับทราบคำพิพากษา ครวญไม่มีสภาฯให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว พปชร.เตรียมคนพร้อมลงเลือกตั้งซ่อมรักษาเก้าอี้ “วิษณุ” ชี้เป็นบรรทัดฐานแรกคดีฝ่าฝืนจริยธรรม “บิ๊กตู่” ยันวิวาทะ “วราวุธ-มนัญญา” จบจริง โกรธกันไม่ได้ อย่าขยายเป็นเรื่องใหญ่โต กมธ.กฎหมายลูกไม่ห่วง “ระวี” ยื่นศาล รธน.ล้มบัตร 2 ใบ ลงมติไม่เปิดล็อกผู้ถูกตัดสิทธิการเมืองจัดตั้งพรรค ยืนตามเดิมค่าสมาชิกพรรคตลอดชีพ 200 บาท รายปี 20 บาท
ศาลฎีกาพิพากษาคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนทำฟาร์มไก่ที่ จ.ราชบุรี มีความผิดฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีคำสั่งให้พ้นจาก ส.ส.นับจากวันที่ 25 มี.ค.64 ที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป
ศาลฟัน “ปารีณา” ผิดจริยธรรมพ้น ส.ส.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 เม.ย.ที่ศาลฎีกา ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ ที่ คมจ.1/2564 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้คัดค้าน ขอให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองกรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี 29 แปลง กว่า 50 ไร่ ทั้งที่ไม่ใช่เกษตรกร กับทรัพย์สิน 163 ล้านบาท ขาดคุณสมบัติที่จะได้ที่ดินปฏิรูป อันเป็นการฝ่าฝืนต่อจริยธรรมและขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ศาลพิเคราะห์ความว่าสถานะผู้คัดค้านมีรายได้จากการเป็น ส.ส. 4 สมัย ใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่ในรัฐสภา ไม่ใช่เกษตรกรอาชีพ มีกรรมสิทธิ์ ที่ดินของตัวเองหลาย 10 แปลง และมีที่อยู่อาศัยคนละพื้นที่กับที่ดินพิพาท การครอบครองที่ดินเขตปฏิรูปโดยทราบว่าไม่มีคุณสมบัติและไม่มีเอกสารสิทธิ ส.ส.ย่อมไม่ควรปฏิบัติเสื่อมเสียเกียรติและมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงข้อ 17 ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ แม้ต่อมาจะส่งคืนที่ดินทั้งหมดก็ไม่ทำให้การฝ่าฝืนจริยธรรมฯที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นไม่เกิดขึ้นได้ ส่วนที่ผู้คัดค้านอ้างว่านำรายได้จากการทำเกษตรในที่ดินเขตปฏิรูปมาเลี้ยงดูบิดา เห็นว่าการเลี้ยงดูบิดาต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และคนทั่วไปก็มีหน้าที่ไม่ต่างจากผู้คัดค้าน
...

เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดไป
ศาลพิพากษาว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่ 25 มี.ค.64 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตลอดไป มีผลให้ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ส.ว. ผู้บริหารท้องถิ่น และดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 วรรคสี่ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา 81, 87 และมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ข้อ 3 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง ทั้งนี้ คำพิพากษาให้มีผลทันที และให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
ทนายเทียบผู้กล้าตายคาสนามรบ
นายทิวา การกระสัง ทนายความ กล่าวภายหลังศาลฎีกาพิพากษาว่ายอมรับผลของคำพิพากษา แต่ยืนยันว่า น.ส.ปารีณาไม่ได้บุกรุกที่ป่าสงวนตั้งแต่แรก แต่รับที่ดินต่อจากบิดา การตัดสินวันนี้ไม่สามารถทำให้ น.ส.ปารีณาเป็นนักการเมืองได้ ถือเป็นราษฎรแล้ว ที่ระบุว่ามีการตัดสิทธิทางการเมืองตลอดไป ต้องดูว่าคำว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคุณสมบัติอะไร เช่น เป็นผู้มีคุณสมบัติการเลือกตั้ง หากถูกตัดสิทธิลง ส.ส. ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ น.ส.ปารีณามีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกครั้ง ขณะนี้ได้ไปพักผ่อนเช่นเดียวกับนายสิระ เจนจาคะ อยากให้รู้ว่าที่ผ่านมา น.ส.ปารีณาโดนมาเยอะ นี่คือผลของผู้กล้าที่ตายกลางสนามรบเป็นเรื่องปกติ แต่วีรบุรุษไม่เคยตายกลางสนามรบ นี่คือการเมืองไทย น.ส.ปารีณาได้เตรียมการทำฟาร์มไก่ใหม่ เรื่องคดีต้องว่าตามกฎหมาย หากทำได้จะลองยื่นอุทธรณ์ดู เพราะคดีอาญาทางการเมืองทั่วไปยื่นอุทธรณ์ได้ แต่กรณีผิดจริยธรรมเป็นการพิพากษาคดีแรกต้องศึกษาข้อกฎหมายก่อนว่าจะใช้ระเบียบเดียวกันหรือไม่
“เอ๋” ตัวชาเสียงสั่นไม่เหลืออะไรแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากศาลมีคำพิพากษา ในไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มี ส.ส.ทยอยส่งข้อความเข้าไปให้กำลังใจ น.ส.ปารีณา กระทั่งเวลา 10.21 น. น.ส.ปารีณาดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรค พปชร. ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อสัมภาษณ์ น.ส.ปารีณา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งเวลา 13.45 น. น.ส.ปารีณา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ทราบคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว น้อมรับทุกกรณี แต่ขอเวลาทำใจก่อนจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ขณะนี้ไม่พร้อมที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้ยังไม่เจอใคร ยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ตัวชา กำลังทำใจอย่างเดียว ไม่ต้องทำพื้นที่แล้ว เพราะเหมือนคนตกงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสภาฯให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว”
“ชัยวุฒิ” ให้กำลังใจ “เอ๋” เชื่อไม่มีเจตนา
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พรรคเคารพคำตัดสินของศาล เราเชื่อว่า น.ส.ปารีณายอมรับคำตัดสินของศาลเช่นเดียวกัน พวกเราทุกคนเห็นใจเป็นกำลังใจให้ น.ส.ปารีณา ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมา เป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ ตั้งใจทำเพื่อประชาชน เชื่อว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำความผิด
พปชร.ส่งคน ลต.ซ่อมรักษาแชมป์
นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าภาค 7 (กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี และเพชรบุรี) พรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.ราชบุรีแทน น.ส.ปารีณาว่า ยืนยันพรรคพลังประชารัฐจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.แน่นอน เพื่อรักษาพื้นที่ในฐานะแชมป์เก่า แต่ต้องรอนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังในฐานะเลขาธิการพรรค เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาก่อน ส่วนตัวผู้สมัคร ส.ส.เท่าที่ทราบมีการเตรียมเอาไว้แล้ว ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ในเรื่องนี้

“อีโต้” ห่วง “แรมโบ้” โป๊ะแตกคิวต่อไป
นายธีระชัย แสนแก้ว ฉายาอีโต้สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีของ น.ส.ปารีณาเป็นตัวอย่างของนักการเมืองที่อยู่รอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม จำนวนมากที่สุดท้ายโป๊ะแตก เป็นบทเรียนสำคัญให้อีกหลายคนที่ยังคิดจะใช้อำนาจ อ้างความเดือดร้อนและปัญหาของประชาชนมาเป็นประโยชน์กับตัวเอง กรณี น.ส.ปารีณา น่าสนใจสำหรับพวกที่ทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์ประยุทธ์ ก่อนหน้านี้นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.เพิ่งต้องพ้นจากตำแหน่งไป น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าคิวต่อไปจะเป็นนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯหรือแรมโบ้อีสาน องครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ คนสำคัญขณะนี้หรือไม่ ยิ่งมีเรื่องเงินใช้สู้กับโรงแป้ง หรือที่ใช้ในการเลือกตั้งยิ่งน่าเป็นห่วง
“วิษณุ” ชี้คดี “เอ๋” บรรทัดฐานจริยธรรม
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาพิพากษา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ พ้น ตำแหน่ง ส.ส.เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิตและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงกรณีบุกรุกพื้นที่ป่า จ.ราชบุรีและเจตนาไม่คืนที่ดินเขตปฏิรูปว่า ทราบจากข่าวคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานในคดีกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อไป เพราะศาลตัดสินตามข้อกฎหมาย ถ้ามีคดีคล้ายคลึงกันเกิดขึ้นมีโอกาสจะรับโทษอย่างเดียวกัน เมื่อถามว่าบางฝ่ายเห็นว่าศาลไม่ควรจะตัดสินโดยใช้เรื่องจริยธรรม เพราะควรตัดสินเกี่ยวคดีอาญาและคดีแพ่ง นายวิษณุกล่าวว่า พูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะกฎหมายเป็นคนให้ศาลตัดสิน เมื่อถามว่ากังวลว่าจะเกิดแรงต้านจากสังคมหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่มีความเห็น” เมื่อถามว่า หากจะแก้โทษตลอดชีวิตต้องแก้รัฐธรรมนูญเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ คงต้องไปว่ากันในอนาคต ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
กกต.จัด ลต.แทนตำแหน่งว่างใน 45 วัน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี เขต 3 ว่า ขั้นตอนต่อไป กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง (วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา) และ ครม.จะทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อ พ.ร.ฎ.มีผลใช้บังคับแล้ว กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัครเลือกตั้งต่อไป
สภาฯงดจ่ายเงินเดือนตั้งแต่ มี.ค.64
นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกามีคำสั่งให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวไม่ส่งผลให้ น.ส.ปารีณาต้องจ่ายเงินเดือนคืนสภาฯ เนื่องจากทางสำนักเลขาธิการสภาฯไม่ได้จ่ายเงินเดือนและเงินอื่นๆให้ น.ส.ปารีณาตั้งแต่ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 25 มี.ค.2564 แล้ว สภาฯปฏิบัติตามคำสั่งศาลมาตลอด
“ปิยบุตร” ชี้ไม่ควรดีใจซัดพิษภัย รธน.60
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่ารัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้กรณีนักการเมืองละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงไปให้ศาลฎีกาตัดสิน และมีโทษประหารชีวิตทางการเมือง เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง 1.มาตรฐานจริยธรรมเป็นเรื่องจริยธรรม จรรยาบรรณ เป็นเรื่องภายในองค์กร ต้องให้แต่ละองค์กรกำหนดและชี้ขาดกันเอง หน่วยงานอื่นๆก็ทำกันเอง ลงโทษกันเอง 2.มาตรฐานทางจริยธรรมไม่ใช่เรื่องเกณฑ์ทางกฎหมาย ไม่ใช่ถูกหรือผิดกฎหมาย แต่เป็นเรื่องความเหมาะสม จึงไม่ควรให้ศาลชี้ขาดลงโทษ ศาลเกี่ยวข้องได้แบบรีวิวทบทวน เช่น ข้าราชการถูกลงโทษทางวินัย อาจฟ้องศาลให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษได้ เป็นการตรวจสอบว่าคำสั่งลงโทษชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่กรณีนักการเมืองกลับนำมาตรฐานจริยธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระออกมาปรับใช้และยังให้ ป.ป.ช.มาชี้มูลส่งให้ศาลฎีกาชี้ขาด 3.โทษสูง การตัดสิทธิสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิตไม่ควรมี นี่คือการทำลายสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง ประหารชีวิตทางการเมือง รัฐธรรมนูญ 2560 เอามาใช้สองกรณี คือติดคุกเพราะคอร์รัปชันและละเมิดจริยธรรมร้ายแรง ผู้ร่างโฆษณาว่านี่คือ “รธน.ปราบโกง” แต่จริงๆแล้วโกงยังมีและเพิ่มขึ้น ช่องทางนี้เอาไว้เล่นงานนักการเมืองไปมา จึงไม่เห็นด้วยกับกรณีศาลฎีกาตัดสินคุณปารีณาและเสนอว่าเราไม่ควรดีใจกับเรื่องแบบนี้ ตรงกันข้ามควรรณรงค์ชี้ปัญหาพิษภัยรัฐธรรมนูญ 2560 และต่อสู้กับนิติสงคราม

“บิ๊กตู่” ยัน “วราวุธ-มนัญญา” จบแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในที่ประชุม ครม.วันที่ 5 เม.ย.ว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่มีการพูดจากัน ตนต้องการเดินหน้าไปสู่การประชุมวาระอื่นๆ แต่พูดกันไม่จบเสียที เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเรื่องถุงพลาสติก มีมาตรการลดใช้ถุงพลาสติก ทำให้ภาคเอกชนต่างๆสนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาลไม่แจกถุงพลาสติก รัฐบาลสร้างความเข้าใจขอให้ทุกคนนำถุงผ้าไปใช้ แต่ถ้าต้องการใช้ถุงพลาสติกอีกก็ต้องซื้อ เพราะทุกอย่างมีต้นทุน พูดคุยเข้าใจกันแล้ว หัวหน้าพรรคคุยกันแล้ว ทั้งสองท่านก็คุยกันแล้วแค่นั้นเอง ในฐานะประธานการประชุม ครม. จำเป็นต้องให้หยุดพูดเพื่อไปเรื่องอื่น มีอีกหลายเรื่อง โกรธกันไม่ได้อยู่แล้ว อย่าขยายให้เป็นเรื่องใหญ่โต
ลดคนร่วมทำบุญทำเนียบฯ 12 เม.ย.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการปรับลดพิธีการและจำนวนผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์ที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 12 เม.ย. ทั้ง ส.ส. ส.ว. พรรคการเมือง และหัวหน้าส่วนราชการ ว่า ก่อนหน้านี้หารือกันใน ครม.และพรรคร่วมรัฐบาล ถือโอกาสมาเจอกันสักที แต่ดูแล้วสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ไม่ควรให้ยกเลิกไปแล้ว ให้เป็นเรื่องแต่ละฝ่าย แต่ละหน่วยงานไปจัดกันเอง แต่ถ้าส่วนตัวใครอยากจะมาก็มาได้ แต่ต้องผ่านการคัดกรอง หากมาเป็นคณะใหญ่ๆหรือมาเป็นพรรค ไม่เหมาะ ได้เรียนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯและประธานวุฒิสภา ไปแล้ว เดิมเขามุ่งหวังให้เห็นภาพอำนาจ 3 ฝ่าย คือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ สามัคคีกันมารดน้ำอวยชัยให้พร แต่สถานการณ์ไม่เหมาะ อย่าทำเลย สิ่งที่ห่วง อยากเตือนการเดินทางช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะการใช้รถใช้ถนน ยอดอุบัติเหตุการสูญเสียมากขึ้น หรือลดลงเพียงเล็กน้อย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าฝ่าฝืนกฎหมายจะทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุ ยอมรับวันนี้ปัญหาเกิดขึ้นมากโดยเฉพาะเศรษฐกิจ ถ้าไม่มีโควิดคงจะดีกว่านี้ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ทุกประเทศเจอเหมือนกัน
“ชัยวุฒิ” ยันวิวาทะไม่ลามซักฟอก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ระหว่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ กับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการพูดคุยเรื่องปัญหาของประชาชน ไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ นายกฯเคลียร์จบหมดแล้ว มั่นใจจะไม่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกแยกก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นความตั้งใจทำงานจริงๆ น.ส.มนัญญากับนายวราวุธรู้จักกันดีเคยอยู่พรรคชาติไทยด้วยกัน รักกัน คุยกันได้

“วิษณุ” รอฟังศาลรับคำร้องหรือไม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นตรงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไม่แน่ใจว่าศาลจะรับหรือไม่ แต่อาจจะได้ก็ได้อยู่ที่ศาล ยังไม่เข้าใจว่า นพ.ระวีจะยื่นประเด็นอะไร กรณีเช่นนี้ต้องยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน แต่เมื่อผู้ตรวจการไม่รับเรื่องแล้ว เหมือนคดีอื่นที่ต้องผ่านอัยการ ถ้าอัยการไม่รับแล้วสามารถยื่นโดยตรงได้ ส่วนศาลจะรับหรือไม่ก็ได้ นพ.ระวีเป็นผู้มีส่วนได้เสียจริง แต่หากศาลรับไว้พิจารณาไม่กระทบการพิจารณากฎหมายลูกในสภาฯสะดุด มีหลายคดีที่ร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องที่ดำเนินการอยู่ดำเนินการต่อไป แล้วไปเจอกันตรงไหนสักที่ เมื่อถามย้ำว่าสุดท้ายหากศาลวินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาขัดรัฐธรรมนูญจะเกิดอะไรขึ้น นายวิษณุกล่าวว่า “ก็จบเลิกกระบวนความ แต่คงไม่กลับทุกอย่างไปอัตโนมัติ ศาลต้องพูดอะไรออกมาให้ยืดยาวว่าจะให้ทำอย่างไร เพราะเดี๋ยวนี้เวลามีคำสั่ง จะอธิบายเหตุผลตามมาว่าจะต้องทำอะไรต่อ”
กมธ.ไม่ห่วง “ระวี” ยื่นคว่ำบัตร 2 ใบ
ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์กรณี นพ.ระวีเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคว่ำการแก้รัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ จะไม่กระทบต่อการพิจารณาของ กมธ. เห็นใจพรรคเล็กสถานการณ์เปลี่ยนไป นพ.ระวีคงอยากรักษาสถานภาพตนเอง ต่อสู้ก่อตั้งพรรคเล็กมา ขึ้นอยู่กับความเห็นศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นจัดทำไพรมารีโหวตที่รัฐธรรมนูญเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่แง่การปฏิบัติของแต่ละพรรคเห็นตรงกันว่ามีปัญหา การทำไพรมารีโหวตถ้าสะท้อนความต้องการคนในเขตเลือกตั้ง จะเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แต่ถ้าทำให้ครบเงื่อนไขตามกฎหมาย อาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในรัฐธรรมนูญ ถ้าเขียนเข้มเกินไปจนพรรคการเมืองทำไม่ได้จะเป็นช่องว่างให้เกิดข้อบกพร่องในการทำผิดกฎหมาย
ไม่เปิดล็อกคนถูกตัดสิทธิฯตั้งพรรค
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายสาธิต เป็นประธานการประชุมคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรค การเมือง ภายหลังการประชุม นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรค พปชร.ในฐานะโฆษก กมธ. แถลงผลการประชุมว่า กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง กมธ.มีมติไม่เห็นด้วยกับร่างของนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรค พปชร.ในฐานะรองประธาน กมธ.เสนอให้ ส.ว.ที่พ้นตำแหน่งไม่ถึง 2 ปี และบุคคลที่เคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง เช่น กลุ่มการเมือง กปปส. ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองได้ ด้วยคะแนน 24 ต่อ 19 เสียง งดออกเสียง 2 จากองค์ประชุมทั้งหมด 45 คน ให้กลับไปใช้เนื้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ฉบับปัจจุบันที่ห้าม ส.ว.ที่พ้นตำแหน่งไม่ถึง 2 ปีและผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองเช่นเดิม
ยืนค่าสมาชิกตลอดชีพ 200 บาท
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์และโฆษก กมธ. กล่าวว่า กมธ.ยังพิจารณาค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบรายปีและตลอดชีพ ควรแก้ไขค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบรายปีและตลอดชีพหรือไม่ ที่ประชุมมีมติให้คงความในมาตรา 3 และมาตรา 4 ของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองไว้ตามเดิม คือค่าสมาชิกพรรคการเมืองรายปี 20 บาท และแบบตลอดชีพ 200 บาท ส่วนเรื่องไพรมารีโหวตในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองและสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อว่าจะใช้ 100 หรือ 500 หาร กมธ.จะกลับมาประชุมอีกครั้งวันที่ 20 เม.ย. เนื่องจากสัปดาห์หน้าเป็นวันหยุดสงกรานต์ ไม่มีการประชุม

ยื่นซักฟอกรอหยั่งเชิงถกงบวาระ 1
ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในเดือน พ.ค.ว่า มติฝ่ายค้านจะพยายามยื่นให้เร็วที่สุด หลังเปิดประชุมสภาวันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป ต้องรอดูจังหวะการพิจารณากฎหมายสำคัญ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองจะเข้าสภาช่วงใด และร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2566 ที่จะเข้าสภาวาระรับหลักการวันที่ 1-2 มิ.ย. คาบเกี่ยวพอสมควร ต้องนำมากำหนดช่วงเวลายื่น เพื่อไม่ให้ไปขัดขวางกฎหมายสำคัญให้เนิ่นช้าไป คงไม่สามารถอภิปรายได้ก่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯวาระรับหลักการ แต่ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมตลอด มั่นใจรัฐบาลจะอยู่ไม่ครบเทอม เชื่อว่าอาจยุบสภาก่อน นอกจากนี้ยังมีเรื่องวาระครบ 8 ปีของนายกฯวันที่ 23 ส.ค. ทำให้อาจตัดสินใจยุบสภาก่อน แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านมั่นใจการอภิปรายจะเกิดก่อนวันที่ 23 ส.ค. แต่จะยื่นช่วงใดต้องดูอีกที ฝ่ายค้านจะทดสอบเบื้องต้นคือการพิจารณางบฯปี 2566 จะติดตามวาระรับหลักการจะมีประเด็นใดหรือไม่ หากมีร่องรอยไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ ส.ส. ที่สนับสนุนรัฐบาล ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงนั้น
ชวนรับรัฐสภายังต้องซ่อมตลอด
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานพิธีประกาศเจตจำนงรัฐสภาร่วมใจ มุ่งสู่การเป็นสำนักงานสีเขียวอย่างยั่งยืน มีผู้เข้าร่วมงาน อาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ผู้นำฝ่ายค้าน ตลอดจน ส.ส. ส.ว. ข้าราชการสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการสำนักงานวุฒิสภา โดยนายชวนมอบนโยบายว่า โครงการนี้ทำให้รัฐสภาปราศจากมลพิษ ทำให้สิ่งแวดล้อมอยู่ในมาตรฐานที่ยอมรับ โดยเฉพาะอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ยังมีปัญหาฝนตกน้ำรั่ว ยังต้องปรับปรุงตลอดเวลา ด้านพลังงานพยายามจะใช้สภาฯคุ้มค่าและประหยัดมาตั้งแต่ก่อนน้ำมันขึ้นราคา นำร่องเปิดแอร์จากเดิมเวลา 05.00 น. เป็น 07.00 น. ปิดแอร์เวลา 18.30 น. จากเดิม 20.00 น. ให้ปิดไฟปิดแอร์ห้องไม่ได้ใช้งาน ประหยัดค่าไฟได้นับล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้มีแนวคิดจัดสร้างที่พักให้ข้าราชการรัฐสภา 800 หน่วย ขอที่ดินกรมธนารักษ์ 9 ไร่ นายกฯ อนุมัติแล้ว จะเริ่มตั้งงบฯเป็นเชื้อไว้ตั้งแต่ปีนี้ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเท่าใด ต้องออกแบบเสร็จก่อน
เตือนระวังตั้งคนนอกนั่ง กมธ.
นายชวนให้สัมภาษณ์กรณีมีคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองหลายคนติดเชื้อโควิด จนอาจต้องขอขยายเวลาพิจารณาออกไปว่า ที่ผ่านมามี กมธ.หลายคณะขอมาประจำ แต่ กมธ.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ประชุมกัน มีเพียงบางคณะที่มีข้อกำหนดเวลาเร่งรัดอยู่ สิ่งที่ต้องเตือนกันคือคนนอกที่มาเป็นกมธ.ได้ทำหนังสือถึงนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกมธ.กิจการสภาฯ ให้ระมัดระวังพฤติกรรมคนนอกที่ กมธ.นำมาเป็นที่ปรึกษา มีการร้องเรียนมาเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ จึงขอให้นายอนันต์แจ้ง กมธ.ทุกคณะให้ระมัดระวังการตั้งที่ปรึกษาหรือคนนอกมาทำงาน ถ้ามีพฤติกรรมไม่สุจริตจะทำให้ภาพ กมธ.นั้นเสียหาย ยังไม่กล้าเอ่ยชื่อแต่มีคนรายงานมา เป็นการเรียกร้องรับผลประโยชน์ทั่วไป ขอให้แจ้ง กมธ.นั้นติดตามดูด้วย