เป็นข่าวใหญ่ทางการเมืองของประเทศไทย เมื่อพรรคเล็กที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเรียกไปกล่อมที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯในกรมทหาร เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรบอกให้พรรคเล็กอยู่ช่วยรัฐบาลทำงานต่อไปถึงช่วงการประชุมเอเปก หลังการประชุมเอเปกในเดือนพฤศจิกายนแล้วจะยุบสภา และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปีใหม่ หรือเลยปีใหม่ไปเล็กน้อย เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน
ผมอ่านข่าวแล้วก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นงามทีเดียว ประชาชนจะได้เลือกตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้เลือกตั้งผู้แทนใหม่ทั้งประเทศ เบื่อ ส.ส.ชุดนี้เต็มที การเลือกตั้งอาจช่วยผ่อนคลายความอึดอัดของประชาชน จากสารพัดความทุกข์ที่เกิดจากการบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้ก็ได้
ความจริง การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เป็นเรื่องปกติธรรมดาในประเทศประชาธิปไตย แต่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยไม่ถึงครึ่งใบ ก็เลยรู้สึกเป็นเรื่องตื่นเต้น พล.อ.ประวิตร ยอมรับว่า ได้พูดเรื่องการยุบสภากับพรรคเล็ก เพราะเห็นว่าหลังการประชุมเอเปกแล้วรัฐบาลก็จะว่าง ถ้าจะยุบสภาในช่วงนั้นก็ยุบได้ ส่วนจะยุบหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นความคิดเห็นของตนที่มองว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีความเหมาะสม ไม่ต้องดูเรื่องความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
ผมขอแสดงความชื่นชม พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เริ่มเข้าใจขบวนการประชาธิปไตย ยอมรับการยุบสภาเป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่ดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เข้าใจและคิดไม่เหมือน พล.อ.ประวิตร ที่อุ้ม พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบนักข่าวเรื่องที่ พล.อ.ประวิตร เสนอให้ยุบสภาหลังประชุมเอเปกว่าเป็นเรื่องของ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประวิตรได้มาคุยกับตนแล้ว ท่านพูดในมุมของท่าน แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของนายกฯ ส่วนจะยุบสภาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เป็นเรื่องของนายกฯตัดสินใจ นายกฯก็เก็บไว้ก่อนสิ จะบอกก่อนทำไม
...
นักข่าวถามว่า แสดงว่านายกฯมีวันยุบสภาในใจแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า สถานการณ์เป็นตัวกำหนด อยากให้ทุกคนคำนึงถึงว่าอะไรสำคัญกว่า ประเทศชาติมีปัญหาสำคัญไหม ประชาชนเดือดร้อนสำคัญไหม ควรจะสำคัญกว่าอย่างอื่นไหม เราจะแตกแยกไปถึงไหน
ฟัง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบนักข่าวแล้วก็อดนึกถึง ผู้นำตลกบางประเทศ ไม่ได้ นักการเมืองที่ยึดติดในอำนาจมักจะอ้างประชาชนเพื่อตัวเอง อ้างความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อไป ทั้งที่ครองอำนาจมายาวนานถึง 8 ปี ไม่เพียงแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ ความเดือดร้อนของประชาชนกลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเกือบ 90% ของจีดีพี ซึ่งเป็นความทุกข์ของประชาชน รายได้กลับไม่เพิ่มขึ้น ซ้ำค่าครองชีพแพงขึ้นอีกต่างหาก ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศหดหาย เดือดร้อนกันทุกธุรกิจ ตั้งแต่แม่ค้าข้าวแกงไปจนถึงบริษัทน้อยใหญ่
วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์เชิญพรรคเล็กไปร่วมกินข้าวเป็นมื้อแรกที่สโมสรหรูราชพฤกษ์ หลังจากที่ร่วมรัฐบาลกันมา 3 ปีกว่า นายกฯบอกว่า ไม่มีนัยสำคัญอะไร เป็นการพูดคุยกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส.ส.คงไม่ลืมภาพชี้นิ้วกราดในสภา
แต่เป็นที่รู้กันว่า การประชุมรัฐสภาเดือนพฤษภาคมนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งท้าย จะอภิปรายดุเดือดแค่ไหนไม่รู้ แต่มีข่าวว่า คะแนนไว้วางใจนายกฯอาจแปรผัน จากพรรคการเมืองขนาดเล็ก ซึ่ง อาจส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ตกเก้าอี้นายกฯได้ เลยเป็นที่มาของงานเลี้ยงในวันนี้ ไม่รู้ว่าเลี้ยงเพื่อประชาชนหรือเพื่อใคร แต่สิ่งที่ประชาชนอยากได้คือ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ยิ่งเร็วยิ่งดี.
“ลม เปลี่ยนทิศ”