การเมืองไทยที่กลายเป็นโลกคู่ขนานกัน
ขั้วอำนาจชุดปัจจุบัน นำโดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพลังประชารัฐ
เพิ่งจะนัดหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในระดับคีย์แมน ล้อมวงหม่ำมื้อค่ำดับกระแสเกาเหลา เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน
ภาพที่ฉายออกมา บรรยากาศสุดแสนจะชื่นมื่นก่อนหน้านั้นก็มีซีนหวานของ “พี่ใหญ่–น้องเล็ก” เสิร์ฟเมนูกุ้งทอดกระเทียมกันมาแล้ว
ดูๆไปแล้วฉากเมโลดราม่าการเมือง เหมือนฉากละครซาดิสต์ โอเว่อร์แอ็กชัน ตบจูบๆ แต่ก็อยู่กันจนก้นหม้อดำเขรอะ
สลับมาอีกขั้วการเมือง “2 อดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชิน” “ทักษิณ–ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็บินโฉบมาสิงคโปร์ภารกิจหลักๆคือการตรวจสุขภาพประจำปี
ปกติทุกปีจะมี ส.ส.และแกนนำเพื่อไทยบินไปหาไปร่วมกินข้าว อัปเดตข่าวสารบ้านเมืองกันคึกคัก
แต่ปีนี้ด้วยสถานการณ์โควิดที่กลับมาแพร่ระบาดหนักรอบใหม่ ทำให้ไม่สะดวกในเรื่องของเอกสารและขั้นตอนในการเดินทางไปหา
ทำให้ภาพวงข้าวของอดีตนายกฯดูจะกร่อยไปหน่อย
มีเพียง “เกรียง กัลป์ตินันท์” แกนนำเพื่อไทยดูแล ส.ส.อีสาน กับ “เสี่ยกุ่ย” ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ประธาน ส.ส.อีสาน สองขุนพลเมืองอุบลฯ
นำ ส.ส.อีสานไม่กี่คนไปล้อมหน้าล้อมหลัง “นายใหญ่” เท่านั้น
ถือเป็นการขยับเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังนิ่งไปพักใหญ่จากพิษโควิด
คราวนี้ถือว่าโฉบมาใกล้ไทยที่สุด ทางหนึ่งก็เปิดช่องให้ ส.ส.และแกนนำบินไปพบได้ง่ายขึ้นเพื่ออัปเดตสถานการณ์
อีกทางก็เป็นการกดดันกลุ่ม 3 ป. ที่ระยะหลังๆรอยร้าวยิ่งปริแยกมากขึ้น
...
มีรายงานว่า เนื้อหาบนโต๊ะอาหาร มีการหารือถึงการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ในภาคอีสานเป็นหลัก
หลังจากโดนพลังดูดภูมิใจไทย ที่ดูด ส.ส.อีสานให้ย้ายขั้วไปหลายพื้นที่
การขยับท่าทีของ “ทักษิณ–ยิ่งลักษณ์” ครั้งนี้น่าจะเป็นการตอกย้ำ ให้ความมั่นใจต่อหน้าทีม “ขุนศึกที่ราบสูง” ขุนพลแดนอีสาน
ว่า “นายใหญ่–นายหญิง (น้อย)” ยังไม่รามือจากกระดานอำนาจไปง่ายๆ
หวังหยุดเลือดไม่ให้ไหลออก เพราะคู่แข่งเปิดหัวดูดพลังไฮเพาเวอร์ พร้อมอัดออปชันเต็มสูบ
ต้องบอกว่าวันนี้คู่ต่อสู้สะสมเสบียงกรังตุนกระสุนดินดำไว้จนล้นคลังแสงมาใช้สู้กับความแรงของแชมป์เก่า ที่กระแส “ทักษิณ” ยังคงครองใจชาวรากหญ้า ครอบคลุมอยู่ทุกหัวระแหง
ช่วงนี้ถือว่าเป็นวาระท้ายปลาย “รัฐบาลประยุทธ์ 2” แล้วถ้าจะนับเวลาแบบเอาใจ “นายกฯตู่” สุดๆก็เหลือแค่ปีเศษ
เป็นช่วงเวลาเคาต์ดาวน์ไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ และอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
เราคงได้เห็นเจ้าพ่อนักการตลาดการเมืองผุดอีเวนต์ปลุกกระแสกันถี่ขึ้น
แต่คนที่จะอกแตกก่อนเพื่อน คงเป็น “ลุงตู่”.
เพลิงสุริยะ