การถกเถียงระหว่างกฎหมายที่ต้อง ยืนตรงในโรงภาพยนตร์ หรือการยกเลิก หรือ ล้มล้าง หรือ ปฏิรูป เป็นบริบทสำคัญที่ คนไทยทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมและรับผิดชอบ กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยต่อไปนี้ ไม่ว่าจะบวกหรือลบก็ตาม
ที่ควรระมัดระวังคือการแสดงความคิดเห็นและอ้างอิงจะต้องไม่เป็นการยั่วยุ ปลุกระดม หรือทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในแผ่นดิน โดยเฉพาะหลักการที่ต้องยึดติดคือ การเปลี่ยนแปลง จะต้องไม่ดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก แยกแผ่นดิน เป็นคำพูดที่พูดกันมาหลายยุคหลายสมัย หรือบางครั้งจะดูล้าสมัยก็ตามที แต่ในที่สุดแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตามเราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ได้
และที่ควรจะต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ คือ คำวินิจฉัยของศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้ง จากคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษา และถ้ามีปฏิกิริยาไม่ยอมรับต่อคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาเสียแล้ว ก็แสดงว่า บ้านเมืองกำลังจะไม่มีขื่อแป ถ้าบ้านเมืองใดไม่มีขื่อแป บ้านเมืองนั้นก็จะไม่สงบ นึกถึงภาพการปฏิวัติระบอบการปกครองประเทศต่างๆที่แยกเป็นเหนือ-ใต้ สิ่งที่สูญเสียไปแม้สงครามจะสงบแล้วก็ตาม
คือความเป็นชาติแล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
เด็กทะเลาะกัน มีความเห็นที่แตกต่างจาก ผู้ใหญ่ ก็ยังต้องใช้เวลา กว่าจะสุกงอมคงต้องอีกหลายรุ่น แต่ ผู้ใหญ่ ที่มีเพาเวอร์ สามารถชี้นำคนในสังคม คำพูดเพียงไม่กี่คำ ปฏิรูปหรือล้มล้าง ก็สามารถที่จะใช้เป็นสารตั้งต้น ในการทำให้คนไทยลุกขึ้นมาฆ่าฟันกันเองได้
แสดงให้เห็นถึงความล้าหลังของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย
ที่ควรระมัดระวังอีกเรื่องคือเราสามารถแสดงความเห็นความคิดต่อระบอบการปกครองได้มากน้อยแค่ไหน ระหว่างหลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ ควรจะสร้างความสมดุลระหว่างกัน หรือเว้นช่องว่างเอาไว้ ในระดับไหน
...
โดยเฉพาะนักวิชาการ อาจารย์ และบุคลากรที่เกี่ยวกับกฎหมาย
การเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีทั้ง หลักนิติศาสตร์ และ หลักรัฐศาสตร์ ที่จะขัดกันเองสำหรับ การปกครองในระบอบประชาธิปไตย การจะออกมาวิจารณ์หรือแตะต้อง จะสามารถทำได้แค่ไหน หรือทำไม่ได้เลยหรือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลผูกพันกับหลักกฎหมายทั่วไปและการเมืองการปกครองอย่างไร
ไม่สามารถกำหนดเป็นหลักเกณฑ์และมาตรฐานได้อยู่ดี
เพราะดีไม่ดีจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงกว่าเดิม เนื่องจากเป็นเรื่องของ จารีตประเพณี กับ การปฏิบัติทางสังคม เช่นการยืนตรงในโรงภาพยนตร์ เป็นต้น
เรายังอาจจะยังไม่เข้าถึง ระหว่างกฎหมาย จารีตประเพณีกับ กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรดีพอ เพราะเราเคยชินกับการยอมรับทางสังคม เมื่อถึงวันที่จะมีการโต้แย้งการไม่ยอมรับกลายเป็นเรื่องประหลาดและรับไม่ได้
ก็อย่าไปถามถึงเหตุผลและหลักการให้เมื่อยตุ้ม.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th