“เสือ 1” โผล่จากถ้ำในรอบเดือนเศษ ก็คงไม่ใช่เพราะคิดถึงนักข่าว ถึงออกมาจ๊ะจ๋าทักทาย ยังจำกันได้มั้ย และคงไม่ใช่เชื่อฟังอดีตนายกฯคนใดที่กระตุกให้เลิกเป็นผู้นำเวิร์ก ฟรอม โฮม
แต่เพราะอันที่จริงมันก็เป็นหน้าที่อยู่แล้วที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม แม่ทัพรับมหาศึกเชื้อโรคโควิด-19 จะต้องทำ
ผู้นำออกลงพื้นที่จริง ตรวจเยี่ยมระบบการดูแลและติดตามผู้ป่วยโควิด-19 โฮม ไอโซเลชัน ของจุฬาฯ และมีโปรแกรมต่อที่ รพ.พระมงกุฎฯ รวมถึง รพ.สนาม สมุทรปราการ พอจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
หากคิดจะฟื้นแต้มที่หดวูบ เพราะวันนี้มีอีกหลายเรื่องที่รอให้ “นายกรัฐมนตรี” ใช้อำนาจเคาะ เคลียร์ จัดการทั้งเรื่องวัคซีน คิวจัดหายังมีวาระเคลือบแคลง ชนิดมั่วกันไม่จบ การกระจายวัคซีนแม้เริ่มดีขึ้น แต่ยังมีรายการเม้ม อม กั๊ก จิ๊ก โผล่มาเป็นระยะๆ รวมทั้งที่กลิ่นทะแม่งๆมาเป็นระยะกับการจัดซื้อจัดหา ยา เวชภัณฑ์ รับศึกโควิด ล่าสุดชุดตรวจเร็ว “แอนติเจน เทสต์ คิต” หรือเอทีเค ล่าสุดผู้นำเคาะ “ข้อสั่งการนายกฯ” ไปแล้ว
“ต้องได้มาตรฐานไทย” และ “องค์การอนามัยโลก WHO การันตี” แต่เหมือนผายลมยังไม่ทันหายเหม็น องค์การเภสัชกรรม ออกมาสวนทันควัน ยืนยันการประมูลจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค ยกเหตุผลผ่านการตรวจสอบตามเงื่อนไขเรียบร้อย
ขณะที่บริษัทเอกชนก็ยืนยันเงื่อนไขประมูลไม่ได้กำหนดต้อง “WHO รับรอง” ลองของ “ประกาศิตผู้นำ” เหมือนที่ผ่านมาเครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข ได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง
กรม กอง หน่วยงานอย่างสำนักงาน อย.–องค์การเภสัช สถาบันวัคซีน ฯลฯ ใต้ร่มเงาของ “2 น.หนู” ทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข และผู้กำกับ “น.หนู” อีกราย เลยกล้าหือกล้าสวน ดื้อแพ่งต่อคำสั่งผู้นำกันหมด
...
ขณะที่ “บิ๊กตู่” เองก็ทำเอากองเชียร์หงายหลัง เห็นทำขึงขังฮึ่มๆ ได้เป็นพักๆแล้วก็ถอยกรูด ซิงเกิลคอมมานด์เหลว หวั่นเกมพรรคร่วมรัฐบาล “ขู่ถอนตัว” กลัวนั่งร้านพัง ห่วงอำนาจจะหลุดมือจนเกินไป
บทตบๆจูบๆถึงยังดำรงอยู่ แล้วหันไปอีกฝั่งฟากก็ไม่ต่าง พรรคร่วมฝ่ายค้าน 2 ค่ายหลัก กำลังสวนหมัดกันสนุก
เพื่อไทย-ก้าวไกล ระหองระแหงมาตั้งแต่คิวเพื่อไทย “ตบเกรียน” สอนหน้าใหม่ ในศึกซักฟอกรอบแรก เสือ สิงห์ กระทิงแรดเค้าเล่นกันยังไง ทำเอาคนค่ายสีส้มเหวอรับประทาน
จากนั้นจนวันนี้ ตั้งแต่คิวงบฯ รายการตีเช็คเปล่า โปรแกรมแก้รัฐธรรมนูญ จนกระทั่งศึกซักฟอกรอบใหม่เวียนมา คนค่ายสีส้มได้เรียนรู้บทเรียนกลเกมอำนาจ ไม่ใช่แค่ไม่ให้ตบเกรียน แต่มีสวนหมัด
“ส้มหวาน” กลายเป็น “สมเปรี้ยวซ่า” มีข่าวแกนนำเพื่อไทยตัวเบ้งนัดเคลียร์ใจแกนนำค่ายสีส้ม ก็ไม่น่าจบ เพราะแนวรบกันเองด้านอื่นๆก็ยังระอุเดือด ตั้งแต่เกมชิงมวลชน ม็อบเด็ก เสื้อส้ม เสื้อแดง หนำซ้ำ “ทักษิณ ชินวัตร” ในบท “พี่โทนี่สอนน้อง” ติวการอภิปรายฯต้องมีหลักฐาน ต้องมียุทธศาสตร์ ต้องใจเย็น “ไม่ใช่ด่าอย่างเดียวแล้วจะได้ประชาธิปไตย” ตบเกรียนซ้ำ “อย่าทำเป็นเด็ก โตแล้ว”
เลยโดนตอกคืนเจ็บจี๊ด โดยกองเชียร์เครือสีส้ม สวนเปรี้ยงคนเดือนตุลาฯรอบตัวนายใหญ่ และทักษิณเอง มักคิดว่าตัวเองฉลาดหลักแหลมมากกว่าใคร “ทั้งที่ตัวเองทิ้งไพ่โง่มาจะ 20 ปีแล้ว”
เหตุการณ์ แตกทั้งสองฝั่ง พรรคร่วมรัฐบาลเปิดศึกชิงการนำ ล่อกันเป็นช็อตๆ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านโซ้ยกันมันส์หยด น่าจะดำเนินต่อไปจากนี้ต่อเนื่องแทบทุกคิวในภาวะฐานเสียงทับซ้อนที่ต้องช่วงชิง
เพียงแต่ว่า ความเห็นต่างคือประชาธิปไตยก็จริง ป่วนในฝั่งฝ่ายค้านก็ยังพอทำเนา แต่รอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้เป็นสิ่งที่ผู้นำต้องเร่งแก้ไข
เพราะเห็นชัดว่ากระทบการบริหารในภาวะวิกฤติโรคระบาด หากผู้นำยังปล่อยให้โดนขี่โดนข่ม จนอำนาจพร่อง พรรคร่วมรัฐบาลขู่เอาๆ ข้าราชการไม่สนคำสั่งนายกฯ ปัญหาก็จะวนลูปเดิมๆกับภารกิจหนักรัฐบาลในห้วงความเป็นความตายของประชาชน
ผลสัมฤทธิ์อันใดที่ตั้งไว้ก็จะไม่บังเกิด สิ่งนี้กองเชียร์ลุงย่อมไม่ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง.
ทีมข่าวการเมือง