“ประยุทธ์” โอดญัตติเชือดโหดจัด ข้อกล่าวหา รุนแรงไป ถามลั่น ครม.ใครเคยเจอแบบนี้ไหม สั่ง 5 รมต.งัดข้อเท็จจริงสู้ ท่องคาถาบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องกลัว “ธนกร” ขออภิปรายเนื้อๆ อย่าเอาแต่ข่าวมาตัดแปะ “ไพบูลย์” มั่นใจ “บิ๊กตู่-สุชาติ-ชัยวุฒิ” สอบผ่านไร้ปัญหา พท.-กก.ร้าวไม่เลิก ปมครหาล็อบบี้ตัดทิ้งชื่อ “ประวิตร-ธรรมนัส” ด้าน “สุทิน” คาใจเขม่นกันถี่ผิดสังเกต “ภูมิธรรม” ซัด “ชัยธวัช” ไม่แมน พูดเอาดีใส่ตัว ทำลายด้อยค่ามิตร ผุดดราม่าท้าดวลผ่านสื่อ เลขาฯก้าวไกลรับคนรำคาญ 2 พรรคฟัดกันเอง โบ้ยไม่ได้เริ่มก่อน อยากเคลียร์จัดให้จะได้กอดคอลุยงานกันต่อ ครม.ไฟเขียว “บุญชอบ” ข้ามห้วยนั่งปลัดกระทรวงแรงงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงกับโอดครวญญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านใช้ถ้อยคำรุนแรงเกินไป พร้อมสั่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายฯ เตรียมข้อมูล เพื่อชี้แจงตอบข้อกล่าวหาโดยย้ำให้สู้ด้วยข้อเท็จจริง

...
“ประยุทธ์” สั่ง รมต.ทำการบ้านซักฟอก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต่อมาเวลา 14.30 น. นายกฯมอบหมายให้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯแถลงการณ์เตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบในมุมต่างๆในการทำงานของรัฐบาลว่า สิ่งที่ผ่านมาอาจเกิดความเข้าใจผิดจากการไม่ได้ชี้แจงให้ครบถ้วน ดังนั้น เป็นจังหวะและโอกาสที่ดีจะใช้เวทีอภิปรายสื่อสารประชาชน โดยเฉพาะ ส.ส. ได้รับทราบถึงการทำงานที่ผ่านมาด้วย
โอดญัตติแรงไปใครเคยเจอแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้กล่าวถึงการประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และญัตติฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 6 คน ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง สู้ด้วยข้อเท็จจริง เราตั้งใจทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล ฝาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ต้องทำความเข้าใจข้อมูลการทำงานของรัฐบาล ขอให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ด้วย ข้อกล่าวหาในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ผมว่าแรงไปไหม หัวข้ออภิปราย มีใครเคยมีไหม แบบนี้”
“ธนกร”ขอซักฟอกเนื้อๆไม่ตัดแปะ
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิฝ่ายค้านทำได้ แต่อยากให้อภิปรายเนื้อๆ ไม่ใช่ใช้ข้อมูลที่เสนอตามสื่อสารมวลชนมาตัดแปะ จะเสียเวลาเปล่าประโยชน์ เมื่อกล่าวหาควรนำหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมาแสดงด้วย ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคพร้อมชี้แจงและมั่นใจว่าจะชี้แจงให้ประชาชนที่กำลังสับสนจากการบิดเบือนข้อมูลต่างๆของคนบางกลุ่มได้เข้าใจข้อเท็จจริงมากขึ้น กรณีวัคซีนที่ฝ่ายค้านจ้องโจมตีมาตลอด ทั่วโลกประสบปัญหาเดียวกัน เพราะวัคซีนไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทันที ทำให้มีทั้งวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ฟรีและวัคซีนทางเลือกของภาคเอกชน และวัคซีนทุกยี่ห้อที่ใช้ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพแน่นอน ฝ่ายค้านมาช่วยกันหาทางออกดีกว่าเอาแต่วิจารณ์รายวัน

“ไพบูลย์” ไม่ห่วง “บิ๊กตู่-สุชาติ-ชัยวุฒิ”
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชารัฐที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าตนมั่นใจทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถตอบข้อกล่าวว่าหาได้และเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจง เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เมื่อถามว่านายชัยวุฒิได้ขอความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ เพราะเป็นครั้งแรกถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายไพบูลย์ ตอบว่า นายชัยวุฒิพร้อมที่จะตอบ ก่อนทำอะไรเขาก็ดูข้อกฎหมายอยู่แล้ว กระบวนการทำงานในสภาฝ่ายค้านและผู้ที่เป็นรัฐมนตรีทุกคนต้องเตรียมพร้อม โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีความพร้อมอยู่แล้วไม่มีปัญหา
พท.โวย กก.ไม่จบชื่อ “ป้อม-ธรรมนัส”
เมื่อเวลา 11.20 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลระบุไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้กระบวนการหารือร่วมกันตัดสินใจ แต่ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า หลักฐานไม่เพียงพอจึงให้ตกไป ให้น้ำหนักไปเรื่องโควิด เศรษฐกิจ รายชื่อที่ไม่ถูกอภิปรายเพิ่งอภิปรายไปไม่นาน ไม่มีหลักฐานใหม่ ไม่ได้อยู่ในตัวละครโควิด ที่ประชุมจึงไม่เอาไม่ใช่ตัดเฉพาะ พล.อ.ประวิตรคนเดียว แต่พรรคก้าวไกลอาจมุ่งมั่นตั้งใจจะอภิปราย เมื่อกระบวนการกลุ่มเห็นเช่นนี้จะยอมรับหรือไม่ยอมรับเลยมีปัญหา ถ้าเสนอชื่อโดยไม่มีกรอบจำกัดจะกระทบภาพรวม แต่กระบวนการกลุ่มจะแก้ปัญหาทำความเข้าใจได้ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามเคยเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร แต่ตกตั้งแต่ในพรรค ยืนยันไม่มีดีลลับ
ข้องใจผิดสังเกตเขม่นกันไม่เลิก
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ล็อบบี้ให้ถอนชื่อ นายสุทินตอบว่า เป็นธรรมดาที่จะล็อบบี้ ไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล เขาโทร.มาพรรคเพื่อไทย โทร.มาหาตน แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการกลุ่มตัดสิน ไม่ใช่เพราะใครล็อบบี้ กระแสข่าวไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส ในอนาคตถ้า พล.อ.ประยุทธ์ลาออก พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยจะจับมือตั้งรัฐบาล สร้างวิมานที่ยากมาก ยังไม่มีใครคิดสูตรนี้ กระเหี้ยนกระหืออยากเป็นรัฐบาลไม่ลืมหูลืมตาด้วยวิธีเช่นนี้ไม่คุ้ม ไปร่วมรัฐบาลกับคนที่สังคมไม่ยอมรับเท่ากับฆ่าตัวตาย โอกาสพรรคเพื่อไทยยังมีอีกเยอะ ร.อ.ธรรมนัสมีคนอยากอภิปรายเยอะ แต่สุดท้ายไม่มีใครเสนอชื่อ เมื่อถามว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจึงมีเรื่องบาดหมางกันไม่หยุด นายสุทินตอบว่า กำลังคิดอยู่ว่ามีแรงจูงใจอะไร ทำให้เกิดปัญหากันเรื่อยๆ ระยะหลังจะมีปัญหาแบบนี้เรื่อย จนเริ่มผิดสังเกต

“ภูมิธรรม” ซัดเลขาฯ กก.ไม่แมน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯและรัฐมนตรีรวม 6 คน ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร แต่ภายหลังนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุพรรคก้าวไกลได้เสนอรายชื่อ พล.อ.ประวิตรไป แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เพิ่มในญัตติ เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 ส.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษา ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ทวีตข้อความระบุ “เลขาฯก้าวไกลต้องเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ อย่าใช้วิธีเล่าคลาดเคลื่อนข้อเท็จจริงฝ่ายเดียว คงทำงานกันยาก โยนให้เราคุยกับคนอื่นและยืนยันเอาตามมติพรรคร่วมฯ การพูดนอกห้องประชุมถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ อย่าใช้วิธีนี้กับมิตร เมื่อเช้าหารือ คุณก็หลบ ถ้าทำงานการเมืองแบบเสนอความเห็นแล้วแพ้ในที่ประชุม ก็ออกมาแสดงความเห็นกับแฟนคลับ พูดเอาดีใส่ตน ทำลายคนอื่น อย่างนี้ทำงานร่วมกันยาก ไม่เข้าใจทุกคนกำลังจะตรวจสอบอภิปรายความล้มเหลวรัฐบาล ทำไมเปลี่ยนประเด็นมาด้อยค่าพรรคเพื่อไทย คิดอะไรอยู่
เตือนสติให้เคารพความเห็นต่าง
นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่โพสต์ไปเตือนสติให้รู้ว่าการทำงานการเมือง ต้องเคารพความเห็นแตกต่าง ต้องมีมารยาททางการเมือง การพูดอะไรต้องครบถ้วน ถ้าพูดไม่หมดสื่อเข้าใจผิด กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ สอบถามในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่มีการเสนอชื่อเข้ามา แต่ไปบอกว่าเสนอชื่อนี้ยาก ไม่ใช่เรื่องจริง คนอื่นจะเสนอใครก็ได้ อย่าพูดเอามัน การอภิปรายรอบนี้เราเน้นเรื่องโควิดและเศรษฐกิจ แต่ถ้ามีการคอร์รัปชันอะไรแล้วมีหลักฐานชัดเจนไม่ปิดกั้น ไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายหลังเราพร้อมลงชื่อ เป็นฝ่ายค้านร่วมกันต้องอดทนอดกลั้น เราต้องสู้กับเผด็จการ แต่เมื่อมีสิ่งไม่ตรงข้อเท็จจริงออกมา ต้องกระทบกระทั่งเป็นธรรมดา สิ่งที่ตนพูดหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทุกพรรครับรู้ การทำงานร่วมกันหลังจากนี้คงไม่มีปัญหา พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้เป็นศัตรูกัน คู่ต่อสู้ของเราคือฝ่ายเผด็จการ ถึงแม้มีความเห็นต่างต้องอดทน ระบอบประชาธิปไตยต้องทำงานร่วมกันให้ได้
ดราม่าท้าดวลต่อหน้าสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรมได้รีทวีตข้อความผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ระบุว่า “เลขา ก.ก.ชี้แจงประเด็นนี้ใน CH แล้วว่าไม่ได้เป็นอย่าง ส.ส.พท. ให้ข่าว คุณสุทิน หมอชลน่าน ไม่โต้แย้งที่เลขาฯ กก.พูด” โดยนายภูมิธรรมระบุว่า “จัดเวทีให้เลขาก้าวไกลคุยกับผมต่อหน้าสื่อสิครับ เมื่อวานคุยกับหัวหน้าและเลขาก้าวไกล” โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้มารีทวิตตอบว่า “ได้ประสานกับ @VoiceTVOfficial แล้ว ทางช่องตอบรับเป็นอย่างดี รอแต่เพียงคุณ @phumtham พร้อมเมื่อไร ยินดีจะไปคุยกับพี่อ้วนต่อหน้าสื่อตั้งแต่วันนี้เลยครับ เราจะได้เข้าใจตรงกันแล้วเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลกันต่อไป

“ประเสริฐ” รอมชอมยังทำงานกันได้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังทำงานร่วมกันได้ ภารกิจข้างหน้ายังมีอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อยากให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่เตรียมข้อมูลอภิปราย ฝ่ายค้านต่างมีเป้าหมายเดียวกัน ไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม บริหารประเทศต่อไป ส่วนความเห็นต่างในช่วงนี้ คงต้องทำความเข้าใจร่วมกันในอนาคต เชื่อว่าไม่มีปัญหาบานปลาย ยังทำงานร่วมกันได้ เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ก็เห็นไม่ตรงกัน เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายประเสริฐตอบว่า เป็นเรื่องปกติแต่ละฝ่ายมองต่างกันได้ ทุกพรรคหวังให้พรรคตัวเองได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.มากที่สุด การที่พรรคเพื่อไทยยึดหลักการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน มาจากรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ร่างจากประชาชน
ชี้ซักฟอกกุญแจปลดล็อกพ้นผู้นำโง่
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านเข้าใจสถานการณ์โควิดอย่างดีว่าหนักหนาสาหัสมากแค่ไหน เหตุผลหลักเกิดจากความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาของนายกฯและรัฐบาลปล่อยให้ประเทศเผชิญโรคร้ายไปตามยถากรรม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯยอมรับเองว่าไม่ควรมาอภิปรายในช่วงที่ประเทศวิกฤติ แต่ถ้าฝ่ายค้านไม่รีบอภิปรายให้สภาฯเห็นถึงความล้มเหลว ประเทศจะวิกฤติหนักมากขึ้นกว่านี้ การอภิปรายจะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะปลดล็อกประเทศออกจากผู้นำที่ไม่ฉลาดและไร้ความสามารถ มีแต่ตัวสอพลอรายล้อมรอบข้างได้
“ชัยธวัช” ลั่นอยากเคลียร์จัดให้
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน หรือต๋อม เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ทวีตไป นายภูมิธรรมบอกไม่ว่าง จริงๆไม่ได้อยากต่อความยาวสาวความยืด คนส่วนใหญ่เริ่มรำคาญ 2 พรรคฝ่ายค้านมาเถียงกันก่อนจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถ้านายภูมิธรรมอยากให้พูดคุยต่อหน้าสื่อยินดี จะได้ชัดเจนและเดินหน้าทำงานต่อไป ในฐานะฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่อีกหลายเรื่องมาก ทั้งงบประมาณ แก้รัฐธรรมนูญและอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจุดร่วมกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะความพยายามจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เห็นร่วมกันว่า ถ้ารัฐบาลยังมี พล.อ.ประยุทธ์ บริหารต่อไปประเทศจะเสียหายหนัก แม้มีบางเรื่องมองต่างกัน แต่ความต่างเป็นเรื่องปกติ เพราะอยู่คนละพรรค แต่ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านมีจุดร่วมกันได้ ต้องบอกว่าไม่ได้เป็นคนเริ่ม นายภูมิธรรม วิพากษ์-วิจารณ์ว่าอย่างนี้ควรพูดกับสื่อพร้อมกันไปเลย เราก็ยินดี ต่างฝ่ายชี้แจงพูดคุยกันแล้วจะได้เดินหน้าต่อไป
จี้ รบ.รับผิดชอบเหตุสูญเสียในม็อบ
อีกเรื่อง น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการสลายการชุมนุมวันที่ 16 ส.ค.จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายว่า เป็นอีกครั้งที่รัฐไม่เคยปราม หรือสั่งห้ามผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้ใช้ความรุนแรง แม้ยังไม่ยืนยันเกิดจากฝ่ายใด แต่รัฐในฐานะครอบครองอาวุธโดยถูกกฎหมาย ต้องอดทนอดกลั้น ยับยั้งชั่งใจมากกว่าประชาชน จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯออกมาตอบคำถามสังคมถึงการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ และรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมทุกรายด้วย ขอให้รัฐยุติใช้ความรุนแรงต่อประชาชนทุกรูปแบบ

บี้สภาสอบ จนท.ฆ่าคนเป็นผักปลา
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประชาชนอย่างน้อย 2 รายบาดเจ็บจากกระสุนจริงระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 1 รายสาหัสขั้นโคม่า กระสุนฝังก้านสมอง อีก 1 ราย ถูกยิงไหปลาร้าทะลุหลัง ผู้บาดเจ็บอายุเพียง 14 ปี มีพยานหลักฐานจำนวนมากบ่งชี้ว่าผู้ก่อเหตุอาจเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กมธ.สภาที่มีหน้าที่พิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ต้องตั้งคณะทำงานสอบสวนเร็วที่สุด อาจเชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือจากสังคม มาร่วมสืบหาความจริง หาตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและกระบวนการทางวินัยให้ได้ สภาต้องไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐสังหารคนเป็นผักปลา เราเจ็บปวดมาพอแล้วจากความสูญเสียของประชาชนใต้เงื้อมมือรัฐตั้งแต่ตุลา 16 ตุลา 19 มาจนถึงเหตุสังหารหมู่คนเสื้อแดง เมษา-พฤษภา 53 จงคืนความจริงและความยุติธรรมให้ประชาชน
กมธ.ตร.พปชร.เชิญ ผบช.น.แจง
ที่รัฐสภา นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.ตำรวจ ติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่ารุนแรงมากขึ้น มีการปะทะและมีผู้บาดเจ็บ ได้รับคำยืนยันว่าไม่มีการใช้กระสุนจริงควบคุมสถานการณ์ จากที่ได้เห็นภาพหลักฐาน ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าใช้อาวุธจริง อย่าเพิ่งปรักปรำโจมตี ขอให้ได้ฟังข้อมูลทุกด้าน ใครมีข้อมูลตำรวจทำหน้าที่เกินระเบียบกำหนด ใช้อาวุธจริงปราบปราม กมธ.ยินดีตรวจสอบแสวงหาข้อเท็จจริง วันที่ 19 ส.ค.จะเชิญ ผบช.น.มาชี้แจงเรื่องการควบคุมมวลชน ผู้ได้รับผลกระทบขอให้ส่งข้อมูลมาจะนำมาพิจารณา
“บุญชอบ” ข้ามห้วยนั่งปลัดแรงงาน
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติตามที่ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอแต่งตั้งนายเฉลิมชัย ปาปะทา นายจงคล้าย วรพงศธร นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี และนางอรนุช หล่อเพ็ญศรี ผู้ตรวจราชการ ทส. เป็นรองปลัด ทส. นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ และนายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดฯ เป็นอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และมีมติอนุมัติตามที่ รมว.แรงงานรับโอนนายบุญชอบ สุทธ-มนัสวงษ์ ผู้ตรวจฯ ทส.เป็นปลัดกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังเห็นชอบแต่งตั้งนายอนุชา สะสมทรัพย์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี มีผลวันที่นายกฯ ลงนาม
ศาลยกฟ้อง “บิ๊กตู่” ออก พ.ร.ก.ไม่ผิด
ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ พร้อมโจทก์รวม 12 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในคดีความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ กรณีเมื่อวันที่ 14 -22 ต.ค.63 จำเลยกับ ครม.ออกประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม.โดยอ้างว่ามีบุคคลหลายกลุ่มปลุกระดมชุมนุมสาธารณะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งยังกระทบโดยตรงต่อสัมฤทธิผลของมาตรการควบ คุมการระบาดของโควิด-19 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยตามฟ้องไม่เป็นความผิดตาม ป. อาญามาตรา 116 อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
จี้ กสทช.ยกเลิกประมูลดาวเทียม
เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้พิจารณายกเลิกการประมูลให้ใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด มีบริษัทเอกชนรายเดียวร่วมประมูล กสทช.ชุดรักษาการไม่เหมาะจัดการประมูล ควรรอชุดใหม่และมีประเด็นใบอนุญาตให้ดาวเทียมไทยคม 7, 8 ในอดีตที่ภาคประชาชนยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลทุจริตประพฤติมิชอบกลาง รวมถึงดาวเทียมไทยคม 5 ยังมีกรณีพิพาทอยู่