“โจ้” ฉายตัวอย่าง ถลก “บิ๊กตู่” ปมจัดซื้อเรือดำน้ำลำ 2-3 พร้อมเครื่องเคียงโดรนชายฝั่ง “เสี่ยหนู” โดนดื้อดึงซื้อซิโนแวคกับชุดตรวจ ATK ในราคาแพงแถมด้อยคุณภาพ ขยี้ให้ตอบส่วนต่าง 255 ล้านไปไหน “ชัยวุฒิ” แอบหวังไร้ชื่อขึ้นเขียง “ศักดิ์สยาม” เดาทางโดน 3 ดอก ประมูลรถไฟทางคู่เหนืออีสาน-ที่ดินเขากระโดง-ตัวซุปเปอร์สเปรดเดอร์ “ชัยเกษม” เตือน “ประยุทธ์” ระวังถูกจารึกเป็น “รัฐบาลทรราช”
ฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย ฉายหนังตัวอย่างที่จะใช้ซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 และเครื่องประกอบอย่างโดรนชายฝั่ง ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข โดนเรื่องดื้อดึงจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค-ชุดตรวจ ATK ในราคาแพง

“โจ้” ฉายหนังตัวอย่างถลก “บิ๊กตู่”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 16 ส.ค. เวลา 09.30 น. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีรายชื่อรัฐมนตรี 6 คนที่จะถูกอภิปราย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ชื่อนายชัยวุฒิยังไม่นิ่ง อาจปรับเปลี่ยนและอาจเสนอชื่อเพิ่มเติมได้ ยืนยันฝ่ายค้านมีข้อมูลแน่นหนา ยกหนังตัวอย่างพล.อ.ประยุทธ์กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 จากจีน การซื้อโดรนชายฝั่งของกองทัพเรือ 3 ลำ มูลค่า 4,100 ล้านบาท ในช่วงที่ประชาชนอดอยากจากวิกฤติโควิด ส่วนนายอนุทินจะโดนเรื่องดื้อดึงจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค การจัดซื้อชุดตรวจโควิด ATK ในราคาแพง
...
ขยี้ “หนู” ตอบ ATK ด้อยคุณภาพ
นายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า เรื่องการจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด จากบริษัท Lepu ของจีน ที่ถูกกลุ่มแพทย์ชนบทคัดค้าน บริษัทที่ชนะประกวดราคาคือ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด นำเข้าราคา 70 บาทต่อกล่อง หรือมูลค่ารวม 595 ล้านบาท แต่ชุดตรวจดังกล่าววางขายที่ประเทศเยอรมนีราคากล่องละ 0.85 ยูโร หรือ 34 บาท ถ้ารวมค่าขนส่งค่าแวตมากสุดอยู่ที่ 40 บาทต่อกล่อง มีผลต่างตกชุดละ 30 บาท รวม 255 ล้านบาท ราคาแพงเกินจริงหรือไม่ นายอนุทินต้องตอบเหตุใดต้องซื้อชุดตรวจในราคาที่แพงกว่าปกติ และยังพบว่าผู้บริหารของบริษัทนี้เรียนหลักสูตร วปอ.รุ่น 61 รุ่นเดียวกับนายอนุทิน เป็นประเด็นสงสัยในความโปร่งใสที่นายอนุทินต้องตอบ หากซื้อชุดตรวจดังกล่าวมาจะมีปัญหาด้านประสิทธิภาพเหมือนวัคซีนซิโนแวคหรือไม่
คาใจ “อาคม” ออกระเบียบเอื้อฮั้ว
นายยุทธพงศ์ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วาระ 2-3 วันที่ 18-20 ส.ค.ว่า กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 ได้พิจารณาปรับลดงบฯ 16,362 ล้านบาท จากงบฯทั้งหมด 3.1 ล้านล้านบาท แต่มีการแปรญัตตินำไปไว้ที่งบกลางด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโควิดเท่านั้น ห้ามไปใช้ด้านอื่น ดังนั้นตนจะซักถามนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ถึงการออกแนวทางปฏิบัติกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนปี 2563 ทำให้เกิดการทุจริตฮั้วประมูลขึ้นมากมาย เพราะเปิดทางให้ผู้รับเหมาในท้องถิ่นไปขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยให้หน่วยงานรัฐจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการตามที่ สสว.ขึ้นทะเบียนไว้ และให้จัดซื้อจัดจ้างได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของงบจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ต้องจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประมูลอีกต่อไป ทำให้ อบต. อบจ. เทศบาล ใช้วิธีเอาผู้รับเหมาในพื้นที่ตัวเองไปขึ้นทะเบียนกับ ส.ส.ว. และเรียกเฉพาะผู้รับเหมาในพื้นที่ไปเสนอราคา ส่วนผู้รับเหมาที่อยู่นอกพื้นที่ไปเสนอราคาไม่ได้ จึงไม่เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการล็อกสเปกฮั้วประมูลมากมาย เป็นที่มาของโครงการจำพวกซื้อรถดับเพลิง เสาไฟกินรี มีการทุจริตมโหฬาร นายอาคมต้องชี้แจงและทบทวนระเบียบดังกล่าวใหม่
“ชัยวุฒิ” หวังลึกๆไร้ชื่อขึ้นเขียง
ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีมีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พร้อมอยู่แล้ว คิดว่าชี้แจงได้ทุกเรื่อง ตอนแรกยังคิดอยู่ว่าไม่น่ามีชื่อตน เมื่อถามว่า หวังไว้ลึกๆว่าจะไม่มีชื่อถูกซักฟอก นายชัยวุฒิตอบว่า ไม่มีใครอยากให้มีชื่ออยู่แล้ว แต่หากมีก็พร้อมชี้แจง ส่วนประเด็นการ Call out ของดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่อาจถูกพุ่งเป้าซักฟอกในครั้งนี้ ตนแค่เตือนเขาว่า อย่า Call out ที่ผิดกฎหมาย ส่วนจะมีการดำเนินคดีหรือไม่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม รัฐมนตรีไม่ได้เป็นคนดำเนินคดีกับดารา

“ศักดิ์สยาม” พร้อมสู้ศึกอภิปราย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า เท่าที่ทราบประเด็นที่จะถูกอภิปราย คือเรื่องประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน คณะกรรมการที่นายกฯตั้งขึ้นมาตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว พบว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการประกวดราคาตามระเบียบพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding ทุกอย่างมีระบบป้องกัน ตรวจสอบได้ หากมีหลักฐานว่าผู้เสนอราคาไปอยู่รวมกันแล้วค่อยเสนอราคา รีบเอามาเลยจะได้ยกเลิก แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ส่วนการประมูลสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ไม่ได้เกิดในสมัยตน ส่วนเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ต้องดูเป็นกรณี ต้องดูว่ารัฐหรือประชาชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หากไม่ให้ประชาชนเชื่อเอกสารสิทธิที่กรมที่ดินออกให้ถูกต้อง จะให้ประชาชนเชื่ออะไร ต้องพิสูจน์กันว่าไม่ชอบอย่างไร ไม่ใช่บอกว่าไม่ชอบแล้วผิดจริยธรรม ผิดกฎหมาย แบบนี้ก็ผิดกันหมด เพราะกล่าวหากันได้หมด
โต้ลั่นไม่ใช่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์
นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า ส่วนข้อกล่าวหาว่าเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์โควิดนั้น ขอถามว่าการแพร่ระบาดระลอก 3 ไม่ได้มีในประเทศไทย ตนไม่ได้ไปต่างประเทศ ยืนยันว่าติดเชื้อมาจากลูกน้องที่ไปเที่ยวมา เมื่อทราบว่าป่วยติดเชื้อ ได้กักตัวและรักษาทันที จะเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ตรงไหน อยากให้นำหลักฐานมาพิสูจน์ เรื่องเหล่านี้อธิบายไปหมดแล้ว แต่ก็พร้อมชี้แจงหากฝ่ายค้านยื่นอภิปราย แต่อยากให้อภิปรายในเรื่องการทำงานที่ละเว้นการปฏิบัติ หรือปฏิบัติที่มิชอบ ทำให้บ้านเมืองเสียหาย มีการทุจริตคอร์รัปชันมากกว่า แต่มาทำเพื่อสร้างประเด็นการเมือง หรือรูปแบบล่าแม่มด ไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ
ปชป.ยกผลโพลป้อง “เฉลิมชัย”
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่มีชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกอภิปรายในประเด็นราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ หากเป็นจริงตามข่าวจะทำให้น้ำหนักการอภิปรายลดลงไปมาก ที่ผ่านมาผลงานนายเฉลิมชัยเป็นที่ประจักษ์โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรโดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ จนผลสำรวจต่างๆเป็นที่พอใจของประชาชน อยากให้ฝ่ายค้านดูในประเด็นไม่ไว้วางใจที่เกิดการทุจริตคอร์รัปชันจริงๆ ไม่ใช่เป็นประเด็นทางการเมือง

“องอาจ” นัด ส.ส.ลุยถกวาระร้อน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นัดประชุม ส.ส.พรรค วันที่ 17 ส.ค.นี้ เพื่อเตรียมพร้อมในการประชุมสภาฯ ที่มีเรื่องสำคัญเช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 การพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 83 และ 91 พรรคยืนยันว่าได้ผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเต็มกำลังตลอดมา อีกเรื่องสำคัญคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีของพรรคพร้อมจะให้ตรวจสอบ และเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีทุกคนทำงานโดยยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก จึงไม่หวั่นไหว พร้อมจะชี้แจง
ระวังถูกจารึก “รัฐบาลทรราช”
วันเดียวกัน นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผ่านเพจพรรคเพื่อไทย จากสถานการณ์ที่รัฐบาลล้มเหลวจัดการวิกฤติโควิด ส่งผลให้ประชาชนออกมาชุมนุมจำนวนมาก แต่รัฐบาลกลับไม่รับฟังเสียงประชาชน ไม่คิดปรับปรุงการทำงาน อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกข้อกำหนดเกินกว่าอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ และยังพยายามออก พ.ร.ก.ยกเว้นความผิดตัวเองและพรรคพวกที่บริหารจัดการโรคระบาดผิดพลาด รวมถึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดการผู้ชุมนุม จนเกิดภาพความรุนแรงต่อเนื่อง การกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200 ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานด้านยุติธรรม ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างยุติธรรม ยึดมั่นหลักนิติธรรม เมตตาธรรมต่อประชาชน หากรัฐบาลดำเนินการอุกอาจเหิมเกริม เห็นกฎหมายบ้านเมืองเป็นเครื่องมือทำลายล้าง เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเป็นเบี้ยหมากใช้ทำลายล้างประชาชนต่อไป ประเทศย่อมตกอยู่กลียุค รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อาจได้จารึกว่าเป็นรัฐบาลทรราช ทำให้ประเทศตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
เปิดร่างแก้ไข รธน.ชุด “ไพบูลย์”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานฯ ที่ส่งถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีสาระสำคัญที่น่าสนใจคือ การแก้ไขมาตรา 83 ให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) 100 คน และให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ (ของเดิมบัตรใบเดียว) และมาตรา 91 ว่าด้วยการคำนวณสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค ให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคได้รับเลือกตั้งมารวมกันทั้งประเทศ แล้วคำนวณเพื่อแบ่งจำนวนผู้ที่จะได้รับเลือกของแต่ละพรรค เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับคะแนนที่ได้รับเลือก นอกจากนี้ กมธ.ยังแก้ไขมาตราอื่นๆอีก 5 มาตรา คือมาตรา 85 เรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งต้องไม่ช้ากว่า 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง
ยัดอำนาจใส่มือ กกต.จัดเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 86 ว่าด้วยการคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และการแบ่งเขตเลือกตั้ง มาตรา 92 ว่าด้วยเขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนโหวตโน ต้องให้จัดเลือกตั้งใหม่ ให้ กกต.เปิดรับสมัครใหม่ โดยผู้สมัครรายเดิมทุกรายไม่มีสิทธิสมัครใหม่ นอกจากนี้ กมธ.ยังเพิ่ม บทเฉพาะกาล ให้รัฐสภาดำเนินการตามมาตรา 132 เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หากไม่เสร็จภายใน 120 วันนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ กกต.มีอำนาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อใช้บังคับกับการเลือกตั้งนั้นไปพลางก่อน