พท.ตีปี๊บลับมีดรอถล่มรัฐบาล “ชลน่าน” ฟุ้งซักฟอกถล่มบริหารล้มเหลวถลุงงบฯไม่ชอบด้วย ก.ม. ปล่อยทุจริตหากินกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ลั่นไม่มีวันจับมือกับระบอบประยุทธ์ ภท.มั่นใจ “เสี่ยหนู” เคลียร์ได้ทุกเม็ด “อนุทิน” บอกขำๆเด็ก พปชร.ชงนายกฯปรับ ครม.โยกไปนั่ง มท.1 “สัณหพจน์” ลาออกรองโฆษกพรรคเซ่นปากเปราะ “โรม” ปูดเอกสารลับ 183 รายชื่อภัยความมั่นคงของรัฐ จับ “พิธา-ชัยธวัช-ส.ส.เจี๊ยบ-โรม-ธนาธร-ปิยบุตร” ใส่บัญชี “Watchlist” โวยไม่สยบยอมรัฐบาลเลยเจอหมายหัว โหมไฟขัดแย้งรุนแรง “ลูกๆทักษิณ” เปิดเว็บใหม่ “THAKSINOFFICIAL” ให้พ่อสื่อสารร่วมหาทางออกให้ประเทศ “ไผ่” ผิดเงื่อนไขศาลกลับเข้าเรือนจำคดีสาดสีป้าย สน.ทุ่งสองห้อง
พรรคฝ่ายค้านเตรียมพร้อมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยตอกย้ำประเด็นความล้มเหลวในการบริหารจัดการแก้ไขการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งการปล่อยปละละเลยให้มีการหาประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ

...
พท.ลับมีดถล่มทุจริตถลุงงบฯมิชอบ
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เนื่องมาจากความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมุ่งไปที่ความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์โควิดที่ผิดพลาดของรัฐบาล ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขไทยล่มสลาย โดยจะอภิปรายให้ประชาชนเห็นถึงความไม่ชอบมาพากล ของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการหาผลประโยชน์จากการใช้งบฯของ พล.อ.ประยุทธ์มีการปล่อยปละละเลยให้มีการหาประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดซื้อวัคซีนและหน้ากากอนามัย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยมีการตรวจสอบการทุจริต ทั้งๆที่ฝ่ายค้านนำเสนอข้อมูลหลักฐานต่อที่ประชุมสภาแต่กลับนิ่งเฉยต่อการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน
ย้ำไม่มีทางจับมือ “ระบอบประยุทธ์”
“ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีทางที่จะไปจับมือกับระบอบประยุทธ์แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยจะไม่ไปจับมือกับคนที่เห็นความเจ็บป่วยและความเสียชีวิตของประชาชนโดยไม่มีจิตสำนึก ไม่รู้สึกอะไร และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น รัฐบาลมีงบฯมหาศาลแต่ไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ ปล่อยให้พี่น้องประชาชนหาเตียงรักษาไม่ได้ ให้ท้องถิ่นต้องรับบริจาคจากเอกชน เพื่อหางบฯซื้อเตียงสนาม พล.อ.ประยุทธ์ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่รับผิดชอบ กอดอำนาจไว้แต่ไม่รับรู้ถึงความลำบากประชาชน พรรคไม่มีทางไปร่วมมือแน่นอน” นพ.ชลน่านกล่าว

ไฟเซอร์ไม่ถึง รพ.ขอนแก่นลากขึ้นเขียง
นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี รพ.ขอนแก่น ออกแถลงการณ์ขอวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ลงชื่อรับวัคซีน 1,400 คน แต่ได้รับจัดสรรเพียง 700 โดสทั้งที่คุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทุกประการ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลการกระจายวัคซีนไฟเซอร์รับบริจาคจากสหรัฐฯตรงไปตรงมา ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบการบริหารจัดการวัคซีนได้ สังคมตั้งคำถามถึงจำนวนวัคซีนไฟเซอร์ที่ควรจะได้ตามที่บุคลากรขอไป ขอให้รัฐบาลจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้ครบทั้ง 1,400 คน เพื่อปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่ด่านหน้า หากรัฐบาลเพิกเฉยและไม่แยแสต่อชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ รพ.ขอนแก่น จะนำเรื่องนี้เข้าหารือผู้นำฝ่ายค้านในสภา เพื่อนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือน ส.ค.
บี้เร่งฉีดให้กลุ่มเสี่ยงเด็ก–เยาวชน
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิดรายวันเป็นเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ส.ค. มีเด็ก ติดเชื้อ 2,469 คน อยากให้เร่งฉีดวัคซีนไฟเซอร์บริจาคจากสหรัฐฯ 1,503,450 โดสให้กลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคตามโควตาโดยเร็ว เร่งติดตามจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เร่งเจรจาสั่งซื้อวัคซีนยี่ห้ออื่นที่จะได้รับรองให้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ เช่น โมเดอร์นาก่อนสายเกินไป วัคซีนไฟเซอร์ได้ขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) ให้ใช้ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. ไม่มีเหตุผลใดต้องประวิงเวลา รอคอยพิธีการ
จี้เลื่อนลดคุ้มครองเงินฝาก
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลยพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้นายกฯในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เลื่อนการลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทในวันที่ 11 ส.ค.ออกไปก่อนจนกว่าปัญหาการระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายสภาวะเศรษฐกิจไทยยังย่ำแย่อาจนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นของสถาบันการเงิน อาจมีการแห่ถอนเงินจนสถาบันการเงินเสียหายและล้มละลายได้ จนส่งผลต่อระบบสถาบันการเงินทั้งระบบ
ธปท.แจงดูแลผู้ฝากได้ถึง 98%
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DPA) จะปรับลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.เป็นต้นไป เป็นไปตามกรอบที่กำหนดไว้ตามที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2551 ที่ทยอยปรับลดวงเงินจากการคุ้มครองเต็มจำนวนเป็นขั้นบันไดลงมา เพื่อให้ประชาชนมีเวลาปรับตัว โดยสามารถคุ้มครองผู้ฝากเงินได้ถึง 98% ของผู้ฝากเงินทั้งระบบ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและลดภาระงบฯของภาครัฐไม่ให้สูงเกินจำเป็น ทำให้ภาครัฐจัดสรรงบฯไปสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ได้ตรงจุด ขณะที่สถาบันการเงินปัจจุบันเข้มแข็ง จึงไม่มีความจำเป็นต้องเลื่อนเวลาปรับลดวงเงินดังกล่าวออกไปอีก
ภท.มั่นใจ “เสี่ยหนู” ตอบได้ทุกข้อ
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า กรณีนายอนุทินเรามั่นใจอยู่แล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจากตำแหน่ง สามารถตอบได้ทุกข้อ เพราะมีความสุจริตและทุ่มเททำงานเป็นตัวตั้ง สำหรับนายศักดิ์สยาม ถ้าปรากฏว่าเป็นเรื่องที่เคยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว นำมายื่นซ้ำอีกขอให้ระมัดระวังให้ดี เพราะเป็นเรื่องที่เคยผ่านการลงมติไปแล้ว ขอให้ฝ่ายค้านพิจารณาให้ดี ขอให้ทำตามข้อบังคับและกฎหมาย เชื่อว่าประธานสภาฯจะพิจารณาด้วยความรอบคอบในการบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม

“อนุทิน” ขำๆเด็ก พปชร.ชงโยกไป มท.1
เมื่อเวลา 08.59 น. ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ถนนสนามไชย เขตพระนคร กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้นายกฯปรับ ครม.โดยสลับ รมว.สาธารณสุขกับ รมว.มหาดไทย เนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มีบุคลิกทำงานเป็นผู้นำ เด็ดขาด เชื่อว่าจะสั่งการแก้ไขสถานการณ์การควบคุมโควิด-19 ได้รัดกุมและเด็ดขาด ขณะที่นายอนุทินเหมาะสมนั่งเป็น รมว.มหาดไทย เนื่องจากนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นพ่อเคยดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ถ่ายทอดประสบการณ์ทำงานได้ และนายอนุทินเคยคุมบริษัทเอกชนมาก่อนปรับมาใช้งานด้านการปกครองและการกระจายอำนาจได้ว่า มองว่าเป็นแค่สีสันการเมือง คงพูดขำๆ สนุกๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ทุกวันนี้ทุกฝ่ายเราทำงานร่วมกันได้ดีอยู่ ภารกิจของสาธารณสุขการควบคุมโรคต้องใช้ความร่วมมือจากทุกกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เพราะฉะนั้นตอนนี้ความร่วมมือดีอยู่แล้ว และ พล.อ.อนุพงษ์ให้ความร่วมมือทุกเรื่องที่ สธ. ร้องขอไป ไม่มีเหตุผลใดที่จะเห็นไม่ตรงกัน
“สัณหพจน์” สังเวยไขก๊อกรองโฆษก
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากที่ตนแสดงความคิดเห็นเสนอนายกฯปรับ ครม.สลับเก้าอี้ รมว.สาธารณสุขกับ รมว.มหาดไทย ยืนยันเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ในฐานะผู้แทนประชาชน ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นในนามพรรคพลังประชารัฐ หรือมีกลุ่มบุคคล หรือบุคคลใดอยู่เบื้องหลัง แต่อาจทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในทางการเมืองไม่ว่าในพรรคพลัง–ประชารัฐและพรรคการเมืองอื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจ ต้องกราบขออภัยอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย การออกมาแสดงความคิดเห็นของตนครั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทย ที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิด-19 เท่านั้น ดังนั้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีนี้ ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ กระทบกระเทือนถึงพรรคพลังประชารัฐ จึงขอลาออกจากรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐและเลขานุการภาค 8 ในคณะทำงานระดับภาคพรรคพลังประชารัฐ
“ไทยไม่ทน” ยื่นสอบ “เสี่ยหนู-จุรินทร์”
เมื่อเวลา 11.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ และกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผอ.องค์การเภสัชกรรม อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แก้ปัญหาโควิด-19 สร้างเงื่อนไขและบริหารจัดการ เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาโควิด ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ อาทิ สธ.ไม่กำหนดให้ใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาเบื้องต้น ไทยจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติซื้อ
ซิโนแวคมากกว่าวัคซีนคุณภาพ ปลัด สธ.และองค์การเภสัชกรรมเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าเก็บรักษา ค่าขนส่งวัคซีนโมเดอร์นาที่ รพ.เอกชนนำเข้า นายจุรินทร์กำกับดูแลจัดซื้อชุดตรวจแอนติเจนเทสต์คิตในไทยแพงกว่าอเมริกา ยุโรปเกือบ 10 เท่าตัว การจัดสรรโควตาวัคซีน และการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้ด่านหน้าทั่วถึงหรือไม่
พท.แปรญัตติทำ ก.ม.ลูกให้จบ 90 วัน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา กล่าวว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยเสนอคำแปรญัตติให้เขียนมาตราเพิ่มขึ้นใหม่ในส่วนบทเฉพาะกาล 2 มาตราเพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์ ได้แก่ 1.กำหนดให้ใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปรับปรุงใหม่ในการเลือกตั้งทั่วไป หากเกิดเลือกตั้งซ่อมให้งดเว้นมาตราที่ปรับปรุงใหม่ ให้ใช้บทบัญญัติเดิมปี 2560 2.ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ภายใน 90 วันนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ทำไม่แล้วเสร็จก่อนเลือกตั้งทั่วไป ให้อำนาจ กกต.ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้ง ส.ส.ให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อเสนอ กมธ.พรรคก้าวไกลให้รับฟังความเห็นประชาชนด้วย มองว่าไม่จำเป็น
ลูกๆเปิดเว็บ THAKSINOFFICIAL
วันเดียวกัน นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส.แพทองธาร บุตรของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้ง 3 คน ได้พร้อมใจกันโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม บอกเล่าถึงความเป็นนักสื่อสารของนายทักษิณ ทั้งการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแก่ประชาชนและการรับฟังที่เป็นการสื่อสารสองทาง โดยนายพานทองแท้ระบุช่วงท้ายของโพสต์ข้อความว่า “ด้วยความที่คุณพ่อชอบที่จะฟังเสียงประชาชน เคารพในความคิดเห็นผู้อื่น และเห็นว่าข้อเสนอแนะของประชาชน คือทางออกและเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณพ่อได้ คุณพ่อผมเตรียมเปิดพื้นที่ ให้กับพี่น้องได้มาแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง ให้ข้อเสนอแนะและร่วมกันหาทางออกให้ประเทศไทยกับการสื่อสารช่องทางใหม่ เตรียมพบกับ #THAKSINOFFICIAL เร็วๆนี้ครับ” โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะเปิดตัวเร็วๆนี้ ดำเนินการโดยบุตรนายทักษิณทั้ง 3 คน จัดทำขึ้นให้นายทักษิณเนื่องในโอกาสอายุครบ 72 ปี

“โรม”ปูดเอกสารลับ 183 ชื่อภัยมั่นคง
เมื่อเวลา 15.40 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า “หลุดเอกสารจับตาบุคคล 183 รายชื่อจากรัฐ มีชื่อ 4 แกนนำพรรคก้าวไกลด้วย คนไม่สยบต่อรัฐบาลเป็นภัยความมั่นคงไปแล้ว?” วันนี้ได้รับเอกสาร “ลับที่สุด”จากบัญชีความมั่นคง แก้ไขวันที่ 1 มิ.ย.64 มีลิสต์รายชื่อบุคคล 183 รายชื่อ และบัญชีโซเชียลมีเดีย 19 บัญชีที่ถูกระบุเป็น Watchlist และสถานะคดีของผู้ถูกหมายตาจากรัฐ มีลงชื่อที่มุมขวาล่างถึง พ.ต.ท.หญิง โสภิดา สว.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 กำกับ ในรายชื่อปรากฏชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรายชื่อผม อยู่ในบัญชี Watchlist ของฝ่ายความมั่นคง
จวกไม่สยบยอม รบ.เจอหมายหัว
“รวมถึงอีกหลายคนดูแล้วก็เป็นประชาชนธรรมดาไปจนถึงผู้ชุมนุมและอดีตผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ซึ่งไม่ได้มีอะไรที่จะไปเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ สรุปหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลนี้มองประชาชนและพรรคก้าวไกลเป็นภัยต่อความมั่นคงไปเสียแล้วหรือ หรือได้รับคำสั่งให้มีการ “หมายหัว” ประชาชนที่ไม่สยบยอมต่อรัฐบาลนี้กันแน่ หากนี่เป็นเอกสารจริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบ เพราะการเริ่มต้นมองประชาชนในชาติเป็นภัยต่อความมั่นคงโดยไม่มีสาเหตุคือความผิดปกติอย่างยิ่ง และจะยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งรุนแรงอยู่แล้ว ยากต่อการแก้ไขมากกว่าเดิมแน่ๆ” นายรังสิมันต์ระบุ
“แรมโบ้”ขอเสื้อแดงเลิกเชื่อ “เต้น”
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คนทำงานเครือข่ายไล่ประยุทธ์และอดีตแกนนำ นปช. เตรียมชุมนุมคาร์ม็อบ 15 ส.ค. ทุกจังหวัดว่า ไม่แปลกใจที่นายณัฐวุฒิจะชื่นชมคนหนุ่มสาวที่เคลื่อนไหวป่าเถื่อน ก่อเหตุรุนแรงก่อน ทำผิดกฎหมาย คาดหวังว่าอาจช่วยทำประโยชน์ให้ตัวเองได้ในอนาคต ที่ชวนคนมาร่วมคาร์ม็อบไล่นายกฯวันที่ 15 ส.ค. อยากบอกถึงพี่น้องมวลชนอดีตคนเสื้อแดงว่าต้องจำบทเรียนความเจ็บปวดชอกช้ำ อย่าหลงเชื่อนายณัฐวุฒิ อดีตแกนนำ นปช. จอมปลอมอีก ปี 52 และ ปี 53 หลอกมาล้มตายนับร้อยศพบาดเจ็บหลายพันชีวิต คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ฝากมาว่าเข็ดแล้วจะไม่หลงเชื่ออีก

“บิ๊กตู่” ส่งกระเช้าเยี่ยม ส.ต.ต.
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มอบหมายนางนันทวรรณ ชื่นศิริ รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายบริหาร นำกระเช้าผลไม้ เยี่ยม ส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ผู้บังคับหมู่กองร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชน ที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ รพ.ตำรวจ นายกฯฝากความห่วงใยเจ้าหน้าที่อื่นๆที่บาดเจ็บเน้นให้ปฏิบัติหน้าที่ระมัดระวัง
บช.น.รู้ตัวคนจ้างขนม็อบแล้ว
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศชุมนุมทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์วันที่ 10 ส.ค. ของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ บช.น.ขอเตือนว่าเสี่ยงแพร่ระบาดของโควิด-19 ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯและประกาศห้ามชุมนุม การชักชวนสนับสนุนการชุมนุมถือเป็นการกระทำผิด ได้ชื่อและรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ว่าจ้างและหลักฐานทางการเงินขนคนเข้ามาชุมนุมแล้ว มีการจ้างมาเป็นประจำได้เงิน 2,000-3,000 บาท หากเปิดเผยชื่อทุกคนจะรู้จัก เหตุการณ์วันที่ 7 ส.ค. ตำรวจบาดเจ็บ 5 นาย รถยนต์เสียหาย 7 คัน รถ จยย. 4 คัน ตู้ยามตำรวจ 4 แห่ง ทรัพย์สินประชาชนเสียหาย ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี ส่วนกรณี ส.ต.ต.นิตินัย บาดเจ็บ พูดง่ายๆเหมือนลอบกัด เพราะ ส.ต.ต.นิตินัยอยู่ระหว่างพักคอยปฏิบัติหน้าที่ แล้วถูกผู้ชุมนุมใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงเข้ามา

ล่ากลุ่มหยามเกียรติพังป้าย ตร.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่า กรณีกลุ่มมือดีรื้อทำลายป้าย ตร. หลังเหตุปะทะที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เจ้าหน้าที่มีภาพวงจรปิดกับรอยนิ้วมือแฝงที่ปรากฏตามจุดต่างๆชัดเจน ขณะนี้ชุดไล่ล่าหลายหน่วยกำลังไล่ติดตามตัวประมาณ 4-5 คน ที่แกะป้าย ยกแผงกั้นทาง ขว้างปาจนทรัพย์สินเสียหาย กลุ่มนี้มักจะชอบสร้างสถานการณ์อยู่เสมอหลังยุติการชุมนุม ถือว่ากระทำความผิดข้อหาทำลายทรัพย์สินราชการและ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้เร่งดำเนินคดีเพราะหยามเกียรติองค์กรตำรวจ ทั้งนี้ 1 ในผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนวัย 17 ปี เป็นหนึ่งในการ์ดม็อบ
ตำรวจส่ง 6 ม็อบ 7 ส.ค.ฝากขัง
ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ส่งคำร้องฝากขังนายโสภา ศิริ อายุ 44 ปี นายจิรพงศ์ ชโลธรพิเศษ อายุ 23 ปี นายทนง ชำนาญจันทร์ อายุ 19 ปี นายณัฐพงษ์ มะลิซ้อน อายุ 22 ปี น.ส.ภัชราภรณ์ กองค้า อายุ 22 ปี และ น.ส.กัลยกร จันทร์โม้ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-6 กลุ่มวีโว่ (WEVO) ที่ร่วมชุมนุมวันที่ 7 ส.ค. มีพฤติการณ์มั่วสุม ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างสถานการณ์โดยใช้อาวุธจำพวกหนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ระเบิดควัน สิ่งของสกปรก เช่น น้ำปลาร้า และวัตถุอื่น ซึ่งอาจใช้เป็นอาวุธก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด มีนายจิรพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 2 และนายทนง ผู้ต้องหาที่ 3 มาแสดงตัวกับตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1, 4, 5 ผิดอั้งยี่ ซ่องโจร มีเครื่องวิทยุคมนาคมไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธ (กระบองเหล็กยืดหดได้) ไม่มีเหตุอันสมควรตาม ป.อาญา และ พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม นายจิรพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 2, 3 และ 6 ผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ร้องศาลแพ่งคุ้มครองม็อบ-สื่อ
ที่ศาลแพ่ง ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวจาก voice TV, the matter และ Plus Seven เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลคุ้มครองฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพ และสิทธิเสรีภาพของประชาชน 1.ให้ ผบ.ตร. ผบช.น.และ ผบก.อคฝ.มีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานตำรวจใช้ความรุนแรง เช่น ใช้อาวุธปืนกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ฉีดน้ำผสมสารเคมี ทำร้ายร่างกาย โจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชนที่สวมปลอกแขนสีขาวหรือสัญลักษณ์อื่นที่แสดงเป็นสื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนผู้มาชุมนุม หรือกระทำการใดอันเป็นการขัดขวาง คุกคาม ข่มขู่ จำกัดพื้นที่การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน 2.ผบ.ตร. ผบช.น.และ ผบก.อคฝ.ให้สั่งการเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่คำนึงถึงความปลอดภัยและเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชน 3.ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามผบ.ตร. ผบช.น. ผบก.อคฝ. และเจ้าพนักงานตำรวจสลายการชุมนุมโดยขัดต่อหลักการพื้นฐานว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และหลักการดูแลการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ
“ไผ่” ไม่รอดพวก 2 คนได้ปล่อยตัว
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า พร้อมนายทวี เที่ยงวิเศษ และนายทรงพล สนธิรักษ์ ที่ถูกศาลออกหมายจับเลขที่ 1253,1254 และ 1255/2564 ลงวันที่ 4 ส.ค.เข้ามอบตัวพร้อมทนายความกับ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.ภูวไนย เสนาวุธ รรท.ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ข้อหาร่วมกันชุมนุมฯ พ่นและสาดสีใส่ป้าย สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 3 ส.ค.หลังเจ้าหน้าที่สอบปากคำ และทำบันทึกประจำวัน ได้ขอฝากขังต่อศาลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ศาลอนุญาตฝากขัง 12 วันตั้งแต่วันที่ 9-20 ส.ค.โดยนายจตุภัทร์ยืนยันความบริสุทธิ์ ย้ำจุดยืนจะเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลต่อไป หลักการเราอารยะขัดขืน ไม่เคารพผู้ปกครอง ไม่ใช่ไม่เคารพกฎหมาย เป็นหน้าที่พลเมืองประชาชนออกมาต่อสู้ เราสาดสีใส่ป้าย ไม่ได้ทำร้ายตำรวจ แต่เป็นหน้าที่ต้องต่อต้าน เราต่อสู้ตามหลักการ ตามสิทธิเสรีภาพ ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ
ต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่านายจตุภัทร์ถูกดำเนินคดีลักษณะเดียวกันจำนวนมาก และไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นำตัวคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนนายทวีและนายทรงพลศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว มีเงื่อนไขห้ามไปกระทำการยุยงปลุกปั่นหรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น
“ไมค์” รายงานตัว สภ.คลองห้า
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง นายชาติชาย แกดำ นายธนพัฒน์ กาเพ็ง และ น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกูล เข้ามอบตัวตามหมายจับข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันจัดกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดมากกว่า 5 คน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆเสี่ยงต่อการแพร่โรค อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง จ.ปทุมธานี และร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีชุมนุมกดดันให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่หน้า บก.ตชด.ภ.1
ส่งศาลฝากขังพร้อม “เพนกวิน”
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า นำตัวนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร กับนายภาณุพงศ์ จาดนอก พร้อมพวกผู้ต้องหาคดีเดียวกัน ไปขอศาลฝากขัง พนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว

“อานนท์” มอบตัวคดีแฮรี่พอตเตอร์ 2
ขณะที่เวลา 18.19 น. นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “กำลังเดินทางไปมอบตัวที่ สน.ปทุมวัน ตามหมายจับคดีแฮรี่พอตเตอร์ 2 ที่หน้าหอศิลป์ ฝากขบวนต่อให้เพื่อนๆช่วยกันสู้ต่อนะครับ ยืนยันในสันติวิธีและยืนหยัดในข้อเรียกร้องให้ถึงที่สุด เชื่อมั่นและศรัทธา อานนท์ นำภา 9 ส.ค.64” ต่อมาเวลา 19.00 น. นายอานนท์เดินทางมาถึง สน.ปทุมวัน ก่อนเดินเข้าไปด้านในโรงพัก ทั้งนี้ นายอานนท์เข้ามอบตัวสืบเนื่องมาจากได้ไปร่วมกิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน” หรือม็อบแฮรี่พอตเตอร์ 2 ที่บริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ส.ค.
เจอหมายจับคดี ม.112 ส่งฝากขัง
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน แสดง หมายจับให้นายอานนท์ดู พร้อมกับแจ้งข้อหาในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นควบคุมตัวนายอานนท์ไว้ที่ห้องขัง ก่อนนำส่ง ฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันที่ 10 ส.ค.