ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าโควิด-19 จะถึงจุดพีกเมื่อใด แม้ ณ วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตจะสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ต้องรออีก 2 สัปดาห์ จึงจะไปถึงจุดนั้น
อยู่กับความอึดอัดไปอีกสักระยะ
มาว่ากันเรื่องการเมืองที่เข้มข้นคู่ขนานกันมากับโควิด-19 ในระบบจะเปิดประชุมว่าด้วยเรื่องงบประมาณปี 65
ประมาณปลายเดือนนี้
อีกอย่างหนึ่งคือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ฝ่ายค้านหวังเล่นงานรัฐบาลให้อยู่หมัด โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19
คือความ “ล้มเหลว” ทั้งระบบ!
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี หมายเลข 1
“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข หมายเลข 2
รัฐมนตรีคนอื่นๆจะเป็นใครคนไหน ต้องลุ้นกันต่อไป เพราะฝ่ายค้านจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเร็วๆนี้
แม้ฝ่ายค้านดูท่าจะฟิตหวังเคลมให้ได้ในครั้งนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ต่างไปจากศึกซักฟอกครั้งที่ผ่านมา
คือ “แตกคอ” กันเอง...เสียก่อน
“เพื่อไทย” กับ “ก้าวไกล” ที่ซัดกันเละด้วยเรื่องงบประมาณก้อนหนึ่งที่เพื่อไทยสนับสนุนโยกให้เป็น “งบกลาง”
เพื่อให้รัฐบาลนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาโควิด-19
ปรากฏว่าก้าวไกลคัดค้านไม่เห็นด้วย อ้างว่าแบบนี้ซูเอี๋ยกันมากกว่า เป็นการตี “เช็คเปล่า” ให้รัฐบาลนำเงินไปใช้
เพื่อไทยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้มีปมเงื่อนอย่างอื่นก็ฟาดปากกันไปชุดใหญ่ ทำให้บรรยากาศก่อนสู้ศึก
กร่อยไปพลัน...สร้างความไม่เชื่อใจกัน
รัฐบาลก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง เพราะน้ำหนักการซักฟอกก็จะเบาไปโดยปริยายเนื่องจาก “แตกคอ” กันเอง
...
ที่คู่ขนานกันมาคือ “นอกสภา” ที่ดูเหมือนจะล่มหัวจมท้ายกันในหมู่นักเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ ซึ่งจะทำให้รัฐบาล ไปได้ง่ายๆ
นัดหมายกันวันที่ 7 ส.ค.64...
แต่พอกลุ่ม “3 นิ้ว” ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเคลื่อนขบวนไป “วัง” เท่านั้นแหละ...กระเจิงกันไปหมด
โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง นักการเมือง ต่างตีกรรเชียงหนี ปฏิเสธด้วยเหตุผลต่างๆเพื่อไม่เข้าร่วมชุมนุมด้วย
เพราะ “จุดยืน” แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ด้วยปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆเหล่านี้ ทำให้รัฐบาลเริ่มโงหัวขึ้นมา พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และ ชาติไทยพัฒนา
แสดงพลังสามัคคีให้ปรากฏต่อสาธารณะมาหลายครั้ง เพื่อให้รู้ว่าพร้อมจะทำงานร่วมกันต่อไป อย่ามาเสี้ยม-แซะเสียให้ยาก
มองดูรูปการณ์แล้วการเมืองคงไปได้อีกยาว อาจจะถึงครบวาระ 4 ปี เพราะฝ่ายต่อต้านมิอาจโค่นล้มได้
อยู่ที่โควิด–19 นี่แหละ...
ประตูเดียวเท่านั้น!!!
“ลิขิต จงสกุล”