พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่ายยาวถึงสถานการณ์ โควิดที่ระบาดหนักขณะนี้ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยทำงานอยู่กับบ้าน ทั้งคิด เขียน และอ่าน รวมถึงยังได้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปตัดสินใจในแต่ละปัญหา ทำอย่างนี้ทุกวัน และได้เซ็นเอกสารทางราชการต่างๆ ไม่ให้คั่งค้าง (นะจ๊ะ)
เชื่อไหมว่า แค่นี้คนที่เป็นสาวกลุงตู่เป็นปลื้มระดับปานกลางจนถึงที่สุด หรือถ้าเป็นระดับไอโอลุงตู่ด้วยแล้วก็จะออกมาอธิบายขยายความให้ต่ออีกยาวยืดแม้แต่คำว่า นะจ๊ะ ที่ลุงตู่ชอบพูดตอนนี้ จนติดปาก (แม้บางคนจะฟังขัดหูก็ตาม) ก็ยังมีคนมาอธิบายที่ไปที่มาของคำว่า นะจ๊ะ ให้ เมืองไทยมีของแปลกอยู่อีกเยอะแยะมากมาย
ในอารมณ์ของสื่อเอง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คำว่าต้องทำหน้าที่อย่างเป็นกลางค้ำคออยู่ 24 ชั่วโมง ถ้าเป็นประโยชน์กับฝ่ายใด ฝ่ายนั้นก็จะชื่นชม ถ้ากลายเป็นโทษกับอีกฝ่าย ก็จะว่าสื่อไม่เป็นกลาง จะแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวก็ไม่ได้ สรุปแล้วจะต้องทำตัวอย่างไรถึงจะเรียกว่าเป็นกลาง ทำให้การนำเสนอข่าวสารต่างๆ มีปัจจัยภายนอกเข้ามาแทรกแซงอยู่ตลอดเวลาเป็นต้นกำเนิดของไอโอ ถ้าใครจ้างให้ทำอะไรก็จะออกมาแนวนั้น ผิดถูกว่ากันอีกเรื่อง
สงครามสื่อ ก็เป็นสงครามจิตวิทยาอีกรูปแบบ กลุ่มคนที่ถนัดงานด้านนี้มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กองทัพ กับ การเมือง ข่าวสารต่างๆที่ออกไป จึงต้องมีการกลั่นกรอง คิด วิเคราะห์และแยกแยะ ว่าอะไรจริงอะไรเท็จอะไรบิดเบือนหรือมีเจตนาที่จะให้ข้อมูลข่าวสารออกมาด้านใดด้านหนึ่ง โดยเฉพาะการรับข้อมูลข่าวสารอย่างเสรีในบ้านเราทำให้คนเกิดความคิดลุ่มหลงงมงายมากกว่าที่จะฟังเหตุและผล
เช่น คำสั่งล็อกแคมป์คนงาน กลายเป็นประเด็นดราม่า ทำให้ โควิด ระบาดไปต่างจังหวัด พอมีผู้รับเหมาก่อสร้างทักท้วงอย่างนั้นอย่างนี้ โดยเฉพาะหลักวิศวกรความปลอดภัย รัฐบาลโดยรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ออกมาอธิบายทันที การที่ ศบค. จะคลายล็อกแคมป์คนงาน ให้เข้าไปเคลียร์งานที่ค้าง และไม่ใช่เปิดการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยจะปลดล็อก 4 งานก่อสร้างขนาดเล็กก่อน ถ้าพบการแพร่เชื้อก็จะปิดทันที ได้แก่ การก่อสร้างที่หยุดงานทันทีหรือล่าช้า จะทำให้เกิดความเสียหายทางโครงสร้าง หรือเกิดอันตรายกับประชาชน หรือชุมชน การก่อสร้างที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านจราจร การก่อสร้างในสถานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคระบาด
...
บริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ ผู้รับเหมาที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดแคมป์คนงาน ไร้ประโยชน์แน่นอนเพราะงานยิ่งล่าช้า ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งบานปลาย คนงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวประมาณร้อยละ 80 ถ้าบริหารจัดการตรงนี้ไม่ได้ หรือเดินทางกลับประเทศ ก็จะเป็นภาระให้กับผู้รับเหมาที่จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่า ชาวบ้านจะได้อานิสงส์ตรงไหนจากการผ่อนคลายในเมื่อทุกวันนี้ก็มีอุบัติเหตุจากความมักง่ายของผู้รับเหมาเป็นรายวันอยู่แล้ว
อ่านข่าวโควิดกับภาพความเป็นจริง สวนทางกันมาโดยตลอด แม้แต่การที่ใครควรจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งสหรัฐฯระบุว่ามอบให้ บุคลากรทางการแพทย์ไทย หรือจะให้กับ เยาวชนที่มีอายุ 12-15 ปี ก็ยังงงๆ การขอฉีดวัคซีนให้กำลังพลในกองทัพสำหรับทหารใหม่ 6 หมื่นโดสก็กลายเป็นดราม่าไปหมด
โควิดเป็นวิกฤติกำลังนำไปสู่การหมดศรัทธา.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
