พรรคร่วมรัฐบาลถล่ม พปชร. เด็ก ปชป. อัดพรรคแกนนำเบี้ยวแก้ รธน. ทั้งที่ประกาศเป็นนโยบายรัฐบาล “ชัยชนะ” ซัดขายผ้าเอาหน้ารอดกอด “รัฐธรรมนูญเพื่อพวกเรา” ไม่ยอมให้แก้ “อิสระ” ยก ส.ว.แพ้โหวตมาตรา 9 ร่าง พ.ร.บ.ประชามติเตือนสติเสียงข้างมาก อย่าชะล่าใจทำอะไรสวนกระแสประชาชน “นิกร” ชี้ดึงดาบชงทำประชามติจากรัฐบาล แต่หวั่นใจจะถูกคว่ำวาระ 3 ซ้ำรอยร่าง รธน. “ปชป.-ภท.-ชทพ.” ผนึกกำลังดันแก้ไข รธน.รายมาตราเดือน พ.ค. เล็งปลดเงื่อนตาย 84 เสียง ส.ว.เห็นชอบวาระ 3 คว่ำ รธน.ไม่จบ “ไพบูลย์” บี้ “อนุทิน” สอบจริยธรรม “ชาดา” ใส่ร้าย 474 ส.ส.-ส.ว. หลังลั่นกลางสภาไม่ร่วมสังฆกรรมพวกฉ้อฉล ปลิ้นปล้อน “วิษณุ” รอพรรคร่วมฯตกผลึก ย้อนฝ่ายค้านจี้ให้รับผิดชอบอะไร

เกมการเมืองประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังพรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เทเสียงสนับสนุนกรรมาธิการเสียงข้างน้อยจากพรรคเพื่อไทย แก้ไขมาตรา 9 ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ให้รัฐสภาจะมีสิทธิเสนอให้ทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ จากเดิมจะผูกขาดไว้กับ ครม. โดยต้องนำเข้าพิจารณากันต่อในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ

...

“ชวน” คาด 7–8 เม.ย.เปิดสภาวิสามัญ

เมื่อเวลา 12.10 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติที่ต้องเลื่อนออกไปว่าจากการสอบถามต้องทำความเชื่อมโยงระหว่างมาตรา 9 และมาตราอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อน คณะกรรมการกฤษฎีกาขอเวลา 7 วันทบทวนเนื้อหาขึ้นอยู่ที่ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติจะนำไปทำให้เรียบร้อยและนำเรียนรัฐบาล เพื่อขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติและกฎหมายที่ค้างอยู่ แม้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติมีเพียง 67 มาตราแต่สมาชิกแปรญัตติทุกมาตราต้องใช้เวลา ส่วนร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดกว่า 100 มาตรามีผู้แปรญัตติน้อย ถ้าเปิดสมัยวิสามัญ 2 วัน พิจารณาได้หมด ได้คุยกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านแล้ว เวลาเหมาะสมน่าจะเป็นวันที่ 7-8 เม.ย.หากเป็นไปได้จะรีบแจ้งไปยังรัฐบาล เพราะหลังจากนั้นจะเป็นวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์แล้ว

ให้ฝ่าย กม.สภาฯศึกษาแนวแก้ รธน.

นายชวนกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีให้ทีมกฎหมายไปพิจารณาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง ไม่ได้วางกรอบอะไรไว้เป็นเรื่องภายในสภาฯที่เห็นว่าเรื่องเหล่านี้วันหน้าคงเกิดขึ้นอีก เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมาอย่างนี้น่าจะเตรียมแนวทางศึกษาไว้ว่าแนวทางปฏิบัติจะเป็นอย่างไร เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าการเสนอแก้รายมาตรายังดำเนินการได้ไม่เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ที่จริงบทบัญญัติไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญยังมีอยู่

“วิษณุ” ทำงงถูกจี้ให้รับผิดชอบอะไร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐสภาเลื่อนลงมติร่าง พ.ร.บ.ประชามติไป ถ้าส่งผลให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าไปแต่ก็ไม่มาก หากมีอะไรเกิดขึ้นยินดีเปิดประชุมสมัยวิสามัญให้อีก แต่ต้องทำให้เสร็จและครบองค์ประชุม ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว หากเปิดแล้วไม่มีสมาชิกมาประชุมจะยุ่งแต่ถ้าแน่ใจก็ยินดี ส่วนการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ได้ยินว่าพรรคร่วมรัฐบาลกำลังคิดกันอยู่ได้ความอย่างไรคงจะหาทางออกว่าจะทำเองในนามพรรคร่วมรัฐบาลหรือทำโดยรัฐบาล ถ้าตกผลึกคงมาพูดคุยให้ตนฟังเร็วๆนี้ ส่วนกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯและนายวิษณุรับผิดชอบที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน ยื้อไปอีก นายวิษณุย้อนถามว่า “ทำไมผมทำอะไรที่จะต้องรับผิดชอบยังไม่รู้เลยว่าทำอะไร ยิ่งถ้าบอกว่าผมเข้าไปเกี่ยวด้วยผมทำอะไร ถ้าบอกว่าผมเข้าไปเกี่ยวโดยเป็นการตอบคำถามผู้สื่อข่าว ให้เอาผู้สื่อข่าวเข้ามาด้วย เห็นพูดกันตั้งแต่ 09.00-21.00 น.แล้วทำกันเองโหวตกันเอง คนอื่นไม่ได้ไปโหวตด้วย”

ย้อน พท.ไปจัดการ ส.ส.แหกมติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯรับผิดชอบหลังที่ประชุมรัฐสภาคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าเป็นเรื่องของรัฐสภาไม่เกี่ยวกับนายกฯ อย่ามาโทษนายกฯที่ยืนยันมาตลอดว่าสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้ท่านทำงานบริหารจัดการโควิด-19 ประชาชนเดือดร้อนอยู่ ไม่ใช่มาโทษนายกฯทุกเรื่อง ทั้ง ส.ว.และ ส.ส.ตั้งใจแก้ไขรัฐธรรมนูญต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลในการแก้ แต่กระบวนการควรเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องการให้ตำหนิกันและกันควรหาแนวทางแก้รัฐธรรมนูญกันใหม่เป็นรายมาตรา ฝ่ายค้านไม่ควรโยนบาปให้ใคร โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ขนาด ส.ส.พรรคเพื่อไทยเกือบ 30 คนสวนมติพรรคยังไม่มาโหวตวาระ 3 เลขาธิการพรรคเพื่อไทยควรไปทำความเข้าใจกับลูกพรรค

“สิระ” แจงหวั่นละเมิดคำสั่งศาล รธน.

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิของสมาชิกรัฐสภาจะลงคะแนนอย่างไรก็ได้ ไม่ได้บังคับ ยืนยันพรรคพลังประชารัฐจริงใจให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้วทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติ การประชุมสมัยหน้าก็ยื่นแก้ไขได้ เมื่อถามว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาหรือไม่ นายสิระกล่าวอย่างมั่นใจว่า ไม่มี รัฐบาลต้องการให้มีการแก้ไข ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ทุกคนอยากแก้ไขหมด เพราะรัฐธรรมนูญไม่มีอะไรดี 100% ยังมีจุดบกพร่องหลายจุด

“ไพบูลย์” ไม่จบจี้ “เสี่ยหนู” สอบ “ชาดา”

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเสนอญัตติให้โหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จนนำมาสู่การลงมติคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า เห็นว่ารัฐสภาใช้เวลาพิจารณามา 11 ชั่วโมงแล้วยังไม่ได้ข้อยุติทุกคนเหนื่อยล้าจึงหารือกับนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลหาทางแก้ปัญหา จึงเสนอญัตติใหม่ให้ดำเนินการเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม จนนำไปสู่การลงมติวาระ 3 แต่ที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย วอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุม ระบุว่าไม่ร่วมสังฆกรรมกับพวกฉ้อฉล ศรีธนญชัย โกหกปลิ้นปล้อน นี่คือสภาโจ๊กย่อมหมายถึงตน รวมถึงส.ส.และ ส.ว.474 คนที่ร่วมออกเสียงเห็นด้วยกับญัตติที่ตนเสนอ กล่าวหาให้ร้ายทำให้ตนและ ส.ส.-ส.ว. 474 คน เสียหายกระทบต่อชื่อเสียงอย่างร้ายแรง ยังประณามรัฐสภาเป็นสภาโจ๊ก มีปัญหาตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ส.ส.ข้อที่ 12 กรณีใช้วาจาไม่สุภาพ ดูหมิ่นใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่น จึงขอให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สอบสวนนายชาดา พรรคภูมิใจไทยจะแสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างใด และขอให้ดำเนินการตามมาตรฐานควบคุมสมาชิกพรรคให้มีจริยธรรมและมารยาททางการเมืองด้วย

ปชป.ขยี้พรรคแกนนำเบี้ยวแก้ รธน.

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ใช้สิทธิลงคะแนนเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 ย้ำให้เห็นว่าพรรคยังยืนยันจุดเดิมว่ารัฐธรรมนูญปี 60 มีข้อบกพร่องหลายประการสมควรแก้ไข ประชาชนสงสัยท่าทีพรรคแกนนำรัฐบาลไม่จริงใจจะแก้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่แรก ขายผ้าเอาหน้ารอด บรรจุการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในคำแถลงนโยบายรัฐบาล พอพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มทวงถามมีมวลชนกดดันมากๆเข้า ไม่อาจฝืนกระแสได้จึงต้องตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาฯไปถึงขั้นตอนจะลงมติวาระ 3 แล้ว แต่มี ส.ส.และ ส.ว.บางคนไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยที่สร้างความอิหลักอิเหลื่อให้สมาชิก จึงมี ส.ส.หลายคนนั่งเฉยไม่กล้าออกเสียง ประมวลได้ว่าพรรคแกนนำรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามคำแถลงนโยบายของรัฐต่อสภาและยังยอมให้เกิดคำครหาว่า รัฐธรรมนูญนี้ออกแบบมาเพื่อพวกเราติดตัวกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยไม่ยอมให้เกิดการแก้ไขเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น ความจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เพื่อประโยชน์ส่วนรวมทุกพรรคต้องทำให้ประชาชนเห็น คนที่ต้องตอบคำถามประชาชนคือคนที่แสดงท่าทีนอกเหนือจากการลงมติ เช่น อยู่เฉยๆในห้องเมื่อถูกเรียกชื่อ

เตือนสติแก๊งล้ม รธน.อย่าฝืน ปชช.

นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา กล่าวว่า กรณีส.ว.เเพ้โหวตมาตรา 9 ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เดิมมี 2 แบบ คือ 1.ครม.ทำประชามติตามมาตรา 166 และ 2.รัฐสภาเป็นผู้จัดทำประชามติ หลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ตามมาตรา 256 (8) ก่อนหน้านี้การทำประชามติจะขึ้นอยู่กับอำนาจตัดสินใจหรือดุลพินิจของ ครม.ฝ่ายเดียว แต่ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 18 มี.ค. กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอแก้ไขเนื้อหาให้มีช่องทางอื่นริเริ่มทำประชามติ รัฐสภาเป็นจุดตั้งต้นทำประชามติได้และประชาชนเข้าชื่อเพื่อให้ทำประชามติได้ด้วย ข้อดีช่วยอุดช่องข้อถกเถียงปมคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้รัฐสภาไม่มีอำนาจใดไปจัดให้ลงประชามติ แต่จากนี้รัฐสภาจะมีอำนาจทำได้อย่างถูกต้อง เราจึงยกมือเห็นด้วยกับ กมธ.ข้างน้อยอีกนัยหนึ่งเพื่อเตือนสติว่าอย่าคิดว่ามีเสียงมากจะทำอะไรฝืนความ ต้องการประชาชนได้ อย่าชะล่าใจว่ามี ส.ว.250 คน ในมือเเล้วจะคว่ำรัฐธรรมนูญที่สวนความรู้สึกประชาชนได้

“อภิสิทธิ์”ชี้ระเบิดเวลารอวันปะทุ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อจากนี้จะยาก มีการผูกโยงกันไว้ เป็นเรื่องอันตราย คนจำนวนมากเห็นจุดอ่อนข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญจะอึดอัดตึงเครียด เมื่อกลไกตามรัฐธรรมนูญไม่เอื้อให้ทำภายใต้รัฐธรรมนูญนี้สภาฯ หรือแม้แต่ประชาชนจะเลือกคนมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยังทำไม่ได้ ถ้ากลไกตามรัฐธรรมนูญถูกจำกัดไปหมด คนต้องแสดงพลังหรือแสดงออกทางอื่น น่าเสียดายเพราะการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะสร้างความปรองดองและลดความตึงเครียดขัดแย้ง อยากให้รัฐบาลคิดถึงหลักความถูกต้อง มองโครงสร้างระยะยาว อย่าเอาความสะดวกการเมืองระยะสั้นเป็นตัวชี้ว่าอยากทำหรือไม่อยากทำอะไร เพื่อประโยชน์ตัวเอง จะยิ่งอันตรายและขัดแย้งมากขึ้น แม้พลังเคลื่อนของมวลชนอาจดูอ่อนกำลังลง แต่คนสนับสนุนข้อเรียกร้องไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคิด นับวันคนรุ่นใหม่โน้มเอียงเห็นด้วยกับกลุ่มเคลื่อนไหว คนที่เห็นว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือระบบในหลายจุดมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น หากไม่ตอบสนองอะไรเลย เหมือนรอเป็นระเบิดเวลา ยิ่งสะสมความขัดแย้ง ทำให้สถานการณ์ยิ่งน่าห่วงมากขึ้น

“นิกร”หวั่น ก.ม.ประชามติคว่ำวาระ 3 อีก

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทย- พัฒนา กล่าวว่า เป็น 1 ใน 267 เสียงลงมติ สนับสนุนมาตรา 9 ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการประชามติตาม กมธ.เสียงข้างน้อย ควรเปิดกว้างการเสนอทำประชามติไม่ควรมีแค่จากรัฐบาลเท่านั้น รัฐสภาจะมีสิทธิเสนอให้ทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ตกไป เชื่อว่าจะเป็นทางออกตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่กังวลร่าง พ.ร.บ.ประชามติอาจถูกคว่ำในวาระ 3 ได้

3 พรรคผนึกกำลังลุยแก้ รธน.

นายนิกร กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จุดยืนพรรคชาติไทยพัฒนาจะเดินหน้าแก้ไขต่อ เบื้องต้นได้คุยกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ฐานะเป็น กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ เห็นร่วมกันว่าในการเปิดสมัยประชุมสภาฯเดือน พ.ค.จะพิจารณาเสนอญัตติขอแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่เดินหน้าร่วมกันได้ คือมาตรา 256 ที่รัฐสภาได้ผ่านการพิจารณาและเห็นพ้องกันในวาระสอง คือปรับเงื่อนไขการใช้เสียงรับหลักการวาระแรกและเสียงเห็นชอบวาระสาม โดยเสียง 3 ใน 5 โดยตัดเกณฑ์เสียง ส.ว. 1 ใน 3 และเสียงพรรคฝ่ายค้านร้อยละ 20 ออก “การลงมติในวาระสาม เสียง ส.ว.ที่เห็นชอบ 2 เสียงไม่มีทางทำให้รัฐธรรมนูญจะแก้ไขได้ เท่ากับให้สิทธิ 84 เสียงหักกับอีก 500 เสียงซึ่งไม่ถูกหลัก และควรเสนอแก้ไขสิทธิประชาชน การกระจายอำนาจ การเลือกตั้งที่ต้องแก้ไขวิธีนับคะแนนและระบบไพร-มารีโหวต แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2

พท.ขู่ฟ้องกลับ “ศรีสุวรรณ”

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาฯสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องคนโหวตผ่านวาระ 3 ผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อ ป.ป.ช.ฝ่ายค้านจะดำเนินคดีกับคนฟ้องร้องเช่นกัน ร้องโดยไม่มีสาระและอาจมีวาระแอบแฝงหรือแสวงหาประโยชน์จากการตกปลาในอ่างเพื่อน จากการฟ้องสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ การโหวตวาระ 3 เห็นได้ชัดว่าเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าเป็นอย่างไร การปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง กระบวนการสืบทอดอำนาจลับลวงพรางทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจนานที่สุด

“ศรีฯ” จ่อยื่นสอย 208 ส.ส.-ส.ว.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่าวันที่ 22 มี.ค. เวลา 10.00 น. จะไปยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 206 ส.ส. และ 2 ส.ว.กรณีโหวตลงมติเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยระบุชัดต้องทำประชามติก่อน ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ให้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาวินิจฉัย มีโทษถึงขั้นต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่และเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี

ผบ.เหล่าทัพอวยพร 67 ปี “บิ๊กตู่”

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม นำ ผบ.เหล่าทัพ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ รอง ผบ.ทอ.ตัวแทน พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.ที่ติภารกิจ พร้อมด้วยนายทหารระดับ 5 เสือเหล่าทัพ และนายตำรวจ เข้าอวยพร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก– รัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดที่จะครบ 67 ปี ในวันที่ 21 มี.ค.โดย พล.อ.ณัฐเป็นผู้นำอวยพรว่าชื่นชมที่ท่านเสียสละ มีความ จงรักภักดี ทุ่มเทเพื่อประเทศให้มีความสงบ มั่นใจว่าจะทำสำเร็จตามยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อให้ประเทศมั่นคงประชาชนมั่งคั่ง จึงขอให้นายกฯปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่

ผู้นำขอตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง

จากนั้นนายกฯกล่าวขอบคุณว่า เกียรติและการยกย่องต้องเป็นคนอื่นให้เรา ไม่ใช่เรายกตัวเอง นี่คือหนึ่งในครอบครัวที่รักของตน และทหารเป็นครอบครัวที่เหนียวแน่น ขอให้สมาชิกครอบครัวนี้ช่วยกันดูแลประเทศ ขอบคุณ ทั้งทหาร และตำรวจที่ช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง และขอให้ตั้งใจช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองต่อไป และขอให้ทำให้ดี นอกจากนี้ยังมีโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกฯ สำนักเลขาธิการนายกฯ สำนักเลขาธิการสำนักนายกฯ สำนักปลัดสำนักนายกฯ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการภายในทำเนียบรัฐบาล ต่างนำวัตถุมงคล พวงมาลัย กระเช้าผลไม้ แจกันดอกไม้เข้าร่วมอวยพร โดยนายกฯได้มอบพระหลวงปู่ทวด วาระ 108 ปีอาจารย์ทิม และเครื่องวัดอุณหภูมิให้เป็นที่ระลึกทุกคน นายกฯจะร่วมทำบุญกับครอบครัวเป็นการส่วนตัวไม่เปิดบ้านรับการอวยพร ซึ่งเมื่อวันที่ 16 มี.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯได้นำ ครม.อวยพรล่วงหน้าแล้ว

“บิ๊กป้อม” ชิ่งตอบตั้ง “รวมไทยสร้างชาติ”

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาการขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ มีชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ไปจดเป็นพรรคสำรองจริงหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามขึ้นรถกลับทันที

“วิษณุ” ชี้ ครม.ใหม่ไม่ต้องรอศาล รธน.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ แทนที่ 3 รัฐมนตรี ซึ่งถูกพิพากษาจำคุกในคดี กปปส.ที่ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติอยู่ จำเป็นจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหรือไม่ว่า ไม่ต้องรอ ในส่วนคุณสมบัติ ส.ส.ถึงจะต้องรอ แต่ในส่วนของรัฐมนตรีไม่ต้องรอถึง แม้ว่าเขาจะส่ง
ไปด้วยก็ตาม

ยื่น ป.ป.ช.ฟัน “ศักดิ์สยาม” เขากระโดง

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กรณีทุจริตต่อหน้าที่ โดย พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เป็นการยื่นดำเนินการต่อเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีนายศักดิ์สยามมีพฤติการณ์ทำหนังสือสั่งการไปยังหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมให้ส่งร่างทีโออาร์การประมูลโครงการต่างๆ ให้ตรวจสอบก่อน เป็นการแทรกแซงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้ทราบข้อมูลภายในเกี่ยวกับการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของงาน เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่เป็นพวกพ้อง เป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่มีเครือญาตินายศักดิ์สยามเข้าครอบครองที่ดิน 5,000 ไร่ ทั้งที่เป็นที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และมีคำพิพากษาศาลฎีการะบุที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะของ รฟท. ใครครอบครองให้รื้อถอน แต่นายศักดิ์สยามในฐานะกำกับดูแล รฟท.ยังไม่ดำเนินการสั่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว เป็นการจงใจไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทุจริตต่อหน้าที่ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

พ่วง “นิพนธ์” เอื้อญาติกว้านซื้อที่จะนะ

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นกรณีเอื้อประโยชน์ให้เครือญาติกว้านซื้อที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.จะนะ จ.สงขลา เข้าข่ายการกระทำความผิดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์และมีผลประโยชน์ทับซ้อน

นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ประเด็นนายนิพนธ์เป็นเรื่องมาตรฐานจริยธรรมคุณธรรมของนักการเมืองที่ปรากฏอยู่ในข้อบังคับ ระเบียบ ป.ป.ช.รายละเอียดเป็นไปอย่างที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงยื่นต่อ ป.ป.ช. มั่นใจเอกสารมีน้ำหนักที่ ป.ป.ช.จะพิจารณาง่ายดาย ไม่ต้องไปหาพยานหลักฐานอื่น

“สงคราม” ไขก๊อกพ้น หน.เพื่อชาติ

วันเดียวกัน นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ โดยตนได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งมา 2 ปี อยากเปิดให้สมาชิกได้เสนอคนใหม่ๆขึ้นมาทำหน้าที่ เมื่อตนลาออกจากตำแหน่งทำให้กรรมการบริหารพรรคทั้งชุดต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย โดยพรรคเพื่อชาติได้ให้นางบุศริณธญ์ วรพัฒนานันท์ รักษาการตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และจะประชุมสามัญประจำปีวันที่ 3 เม.ย. เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ส่วนใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ให้สมาชิกเป็นผู้เสนอขึ้นมาเพื่อให้มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคกันใหม่ เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้เกี่ยวกับกรณีงดออกเสียงไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯหรือไม่ นายสงครามกล่าวว่า ก็มีส่วนเพราะมีสมาชิก บางคนโทร.มาตำหนิการตัดสินใจว่าไม่เข้าใจเหตุผล เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงลาออก เพื่อให้สมาชิกได้เลือกคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่

“วิษณุ-ตุ๋ย” ยิ้มคลี่ปมค่าโง่โฮปเวลล์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้รัฐบาลชดเชยค่าเสียหายในโครงการโฮปเวลล์หรือค่าโง่โฮปเวลล์ขัดรัฐธรรมนูญว่า วันนี้ยังสามารถบอกได้ถึงขนาดว่าไม่ต้องเสียค่าโง่ กระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้พิจารณาถ้าต้องการความคิดเห็นจากหลายฝ่ายค่อยมาระดมความคิดเห็นกัน เมื่อถามว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีใช่ไหม นายวิษณุตอบว่า “มันก็ดีๆร้ายๆไปเรื่อย ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยขนาดนี้ถือว่าดี” ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ หัวหน้าคณะทำงานศึกษาปัญหาสัญญาโฮปเวลล์ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นข้อ เท็จจริงใหม่ เมื่อถามว่า รัฐบาลมีโอกาสชนะคดีหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ชนะหรือแพ้ไม่รู้ แต่มันบังคับใช้ไม่ได้แล้ว ให้ไปอ่านรัฐธรรมนูญมาตรา 5 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 5 ระบุว่า “รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทําใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติ หรือการกระทํานั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้”

ผงะไร่กัญชากลางป่าบางกลอย

นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์รัฐบาลไม่รับฟังและไม่เข้าใจปัญหาชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีว่า ได้เคลียร์กับนายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) และแกนนำบางกลอยชัดเจนเรียบร้อย นั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ใจแผ่นดิน ป่าสมบูรณ์มาก สัตว์ป่าชุกชุม ลาดตระเวนทุกจุด พบพื้นที่ป่าด้านบนถูกเผาป่าไปกว่า 100 ไร่ และมีการปลูกกัญชาได้บันทึกภาพไว้แล้ว มีการเข้าไปล่าสัตว์และกลับออกมาทางใจแผ่นดิน โดยให้ตำรวจไปรวบรวมคดีที่มีในพื้นที่ที่มีมาในอดีต เพื่อให้มีหลักฐานชัดเจน ส่วนบางกลอยล่างและโป่งลึก มีการพัฒนาพื้นที่จัดสรรที่ดินแต่อาจจะไม่เพียงพอเพราะมีชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยจะรวบรวมข้อมูลส่งให้คณะอนุกรรมการฯที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ เป็นประธานให้เห็นความเป็นจริง

กังขา สทศ.ดึงดันจัดสอบโอเน็ต

ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้ายื่นหนังสือถึงนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการ สตง.ให้ตรวจสอบสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ใช้งบฯจัดสอบ O-Net ระดับชั้น ป.6 และ ม.3 ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา 4 วรรค 10 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า รมว.ศึกษาธิการเคยทำหนังสือให้ยกเลิกสอบ O-Net ไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเพราะโควิด-19 ระบาดระลอก 2 การเรียนการสอนแต่ละโรงเรียนมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน แต่ สทศ. ยืนยันจะจัดสอบขณะที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้แก้ไขหลักเกณฑ์ว่าไม่ต้องใช้คะแนนโอเน็ตประกอบการรับนักเรียนเข้า ม.1 และ ม.4 การสอบ O-Net จึงไม่จำเป็น และไม่เป็นไปตามกฎหมายการตรวจเงินแผ่นดิน ใช้งบฯ 700 กว่าล้านบาททุกปี แทนที่จะยกเลิกการสอบไปก่อน อาจเป็นไปได้หรือไม่ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น