"บิ๊กตู่" ย้ำอีกปรับ ครม.เร็วสุด มี.ค. ยันเสถียรภาพการคลังไทยยัง ฟุ้งแหลกเราจะชนะไปด้วยกัน “บิ๊กป้อม” ให้สิทธิ์ขาดกับนายกฯฉะสื่อมโนเก่ง “ปลัดฉิ่ง” ตั้งพรรคสาขาสอง พปชร. “จุรินทร์” ยันผลเลือกตั้งซ่อมไม่กระทบโควตา รมต. ลั่นเลิกรักษามารยาทกับ พปชร. ลุยโหวตหนุนแก้ รธน. “เสรีฯ” แฉเกมพรรคร่วมดัน “บิ๊กป้อม” เสียบแทน “น้องตู่”
จับตาสถานการณ์ร้อนทางการเมือง ทั้งปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองในศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช การปรับ ครม.ที่กลุ่มก๊วนต่างๆ ปล่อยข่าวแย่งชิงเก้าอี้ กระแสการคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชน ล่าสุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เผยว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีความพยายามผลักดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาลแทน
“บิ๊กตู่” ย้ำปรับ ครม.เร็วสุด มี.ค.
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST “นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ถึงประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ตนต้องเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายตามรายชื่อที่เสนอขึ้นมา คาดว่าเร็วสุดจะชัดเจนภายในเดือน มี.ค. อย่ากังวลรัฐบาลยังทำงานได้ตามปกติ มีการรักษาการทุกกระทรวง และฝากเรื่องความรักความสามัคคี มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ เผื่อแผ่แบ่งปัน เราต้องรัก ต้องสามัคคี ไม่แตกแยกกัน และเคารพกฎหมาย กรุณาช่วยกันรักษากฎหมาย เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัวต่อไป ทุกประเทศต้องใช้กฎหมาย
ยันเสถียรภาพการคลังไทยยังดี
...
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการอัดฉีดเม็ดเงินผ่านมาตรการรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ทราบดีและเข้าใจถึงความเดือดร้อนประชาชน เราต้องบริหารให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่ หลายคนเป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยทั่วโลกได้รับผลกระทบหมด ไทยได้รับข่าวดีจากบริษัท S&P Moody’s และ Fitch สถาบันจัดเครดิตแนวหน้าของโลก ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือเรา จากเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง เสถียรภาพและวินัยการคลังอยู่ในเกณฑ์ดี ฐานะทางการคลังไม่ได้ถังแตกอย่างที่พูดกัน ระดับเงินคงคลังเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค.2563 อยู่ที่ 473,000 ล้านบาท มากกว่าปีงบประมาณก่อนถึงร้อยละ 49.6 หลังจากนี้กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มขยายตัวดีขึ้น มีสัญญาณบวกจากการได้รับวัคซีน และมาตรการต่างๆ ที่มีผลปรากฏออกมา เช่น โครงการคนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน และช่วงตรุษจีนมีการใช้จ่ายคึกคัก
ฟุ้งแหลกเราจะชนะไปด้วยกัน
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ได้ขยายเวลาการลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” สำหรับประชาชนกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ได้แก่ ผู้พิการ คนป่วยติดเตียง และคนชรา ไปถึงวันที่ 26 มี.ค. โดยข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 5 มี.ค. มีผู้รับสิทธิโครงการเราชนะไปแล้ว 30.7 ล้านคน ใช้จ่ายรวม 77,579 ล้านบาท เม็ดเงินจำนวนมากนี้กระจายไปสู่ร้านค้าในชุมชน หมุนเวียนอยู่ในเศรษฐกิจระดับฐานราก นี่คือจุดประสงค์ของโครงการเราชนะ แต่มีร้านค้าบางรายฉวยโอกาสขึ้นราคา ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบเร่งด่วน โครงการนี้ สร้างโอกาสให้ขายสินค้าได้มากขึ้น ไม่อยากให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเอารัดเอาเปรียบประชาชน ที่รับไม่ได้คือมีผู้ทุจริตรับซื้อสิทธิจากคนที่อยากได้เงินสด ไปใช้สิทธิผ่านร้านค้าที่จัดตั้งขึ้นมาโดยไม่มีการซื้อขายจริง ขอเตือนว่าอย่าทำสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ที่ผ่านมาจับคนทุจริตโครงการเราชนะได้ 700 ราย มีร้านค้าถูกยกเลิกไปแล้ว 200 ราย โครงการเราเที่ยวด้วยกันจับคนทุจริตทั้งโรงแรม คนขายสิทธิรวมกันกว่า 9 พันราย อยู่ระหว่างดำเนินคดีฉ้อโกง ดีใจที่ประชาชนได้ประโยชน์ เป็นโครงการที่เราจะชนะไปด้วยกัน
เปิดงานวันข้อมูลเปิดนานาชาติ
จากนั้นเวลา 10.15 น. ที่ห้องประชุม เดอะโซไซตี้ อาคารเกสรทาวเวอร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวปาฐกถาและมอบนโยบายในงานวันข้อมูลเปิดนานาชาติ ประจำปี พ.ศ.2564 (International Open Data Day 2021) ผ่านวีดิทัศน์ สรุปความว่า การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐสู่ภาคเอกชนและภาคประชาชน นอกจากจะช่วยส่งเสริมธุรกิจภาคเอกชนแล้ว ยังเป็นหัวใจการสร้างความโปร่งใสของภาครัฐ ส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล ปัจจุบันไทยเปิดเผยข้อมูลผ่านศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ หรือ data.go.th ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูลภาครัฐเข้าด้วยกัน
หนุนเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใส
ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจําสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานวันข้อมูลเปิด นานาชาติ ประจําปี พ.ศ.2564 ว่า รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน ข้อมูลเปิดถือเป็นทรัพยากรสำคัญเพื่อการอำนวยความสะดวกประชาชน มีการส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ จัดทําข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อนํามาเปิดเผยในรูปแบบข้อมูลเปิด หรือ Open Data ผ่านศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ เพิ่มความโปร่งใสเกิดการมีส่วนร่วม รวมทั้งยกระดับการทํางานของรัฐ พร้อมทั้งควรผลักดันให้เกิดการสร้าง API การเปิดเผยข้อมูลเปิดเป็นเรื่องที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ จึงมีการจัดกิจกรรม International Open Data Day ขึ้นพร้อมกันทุกประเทศทั่วโลก
“บิ๊กป้อม” ให้สิทธิ์ขาดกับนายกฯ
ช่วงเช้าที่ร้านโกปี๊ จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า บอกแล้วว่าอยู่ในหัว จะมีกี่ชื่อก็แล้วแต่ตน จะมาถามทำไม ส่วนจะปรับกี่ตำแหน่งนั้นแล้วแต่นายกฯตัดสินใจ เพราะนายกฯเป็นคนทำงาน ตนมีหน้าที่ส่งชื่อถ้าไม่เอาก็ส่งกลับมา เมื่อถามว่า หากได้ ส.ส.ภาคใต้เพิ่มขึ้นจะมีโควตารัฐมนตรีด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ๆ นายกฯทำงานกับคนทุกภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เอาคนทำงาน คนมีความรู้ ความซื่อสัตย์สุจริต มาช่วยทำงานเพื่อประชาชนอยู่ดีกินดี เมื่อถามว่าหลังการปรับ ครม.แล้วพรรคจะมีปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า พรรคไม่มีปัญหาเรื่องปรับ ครม. ส.ส.รักกัน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน จะเป็น ครม.หรือไม่ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน
สื่อคิดเอง “ฉิ่ง” ตั้งพรรคสำรอง
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดีอีเอส อดีตแกนนำ กปปส.หรือยัง พล.อ. ประวิตรย้อนถามว่า ใครแกนนำ กปปส. ไม่รู้จัก รัฐมนตรีก็ไม่ใช่ กปปส. ไม่มี กปปส.ในพรรคพลังประชารัฐ ทุกวันนี้ในพรรคร่วมมือร่วมใจกันดี เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการตั้งพรรคการเมืองสำรองไว้ให้พลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรตอบว่าไม่รู้ ไม่ได้เป็นคนไปตั้ง ถามในเรื่องที่ไม่รู้แล้วจะบอกว่ารู้ได้อย่างไร ไปคาดคะเนอะไรได้ ส่วนที่วิจารณ์ว่าจะเป็นสาขาของพลังประชารัฐนั้น ก็แล้วแต่สื่อจะคิด ผู้สื่อข่าวคิดไปเองทั้งนั้น
ปชป.ยันผล ลต.ซ่อมไม่กระทบ
ที่ศูนย์ประสานงานอำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 จะมีผลกับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหรือไม่ว่า การปรับ ครม.คุยกันจบแล้ว ในภาพรวมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีอะไร ทุกคนมีวุฒิภาวะ ตนและเลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์มีวุฒิภาวะ เมื่อได้พูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว แต่เขาคิดจะส่งคนสมัครรับเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทุกอย่างก็จบ ส่วนระดับล่างๆไม่สามารถตอบได้
ลั่นเลิกรักษามารยาทกับ พปชร.
เมื่อถามอีกว่า ในอนาคตจะมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ จ.ชุมพร และอาจมีที่ จ.สงขลาด้วย ต้องพูดคุย กับพรรคพลังประชารัฐอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่คุยแล้ว ต่างเป็นผู้ใหญ่กันหมด ครั้งเดียวก็น่าจะเป็นที่ยุติได้ ก่อนหน้านี้มีเลือกตั้งซ่อมที่ จ.กำแพงเพชร พื้นที่เดิมของพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์เรายอมกลืนเลือดไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งเพื่อรักษามารยาททางการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ นพ.ปรีชา มุสิกุล อดีต ส.ส.กําแพงเพชร ลาออกจากพรรคไป กรณีที่ จ.นครศรีธรรมราชทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว พูดครั้งเดียวจบ จากนี้ไปจะพิจารณาเป็นกรณีไปว่าจะส่งหรือไม่ส่ง อย่างไร
“จุรินทร์” ลุยโหวตหนุนแก้ รธน.
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มี ส.ว.บางส่วนขู่จะโหวตคว่ำร่างในวาระที่สาม ว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันยกมือสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะในร่างที่ใช้เป็นหลักและในร่างที่แก้ไขกลับมา ชัดเจนแล้วว่าไม่มีการไปแตะหรือแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 เมื่อถามย้ำว่ามีการพูดถึงว่าจะยุบสภาฯเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามกติการัฐธรรมนูญเดิม นายจุรินทร์ตอบว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะอำนาจการยุบสภาฯ เป็นของนายกฯ
“เฉลิมชัย” ให้รอดูชื่อรัฐมนตรี
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวเพียงสั้นๆว่า ให้รอดูในวันที่ส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้กับนายกฯ คาดว่าจะส่งได้ภายในเดือน มี.ค.นี้
“เสรีฯ” แฉเกมดัน “ป้อม” แทน “ตู่”
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า จากศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ที่พรรคร่วมรัฐบาลต่อสู้ห้ำหั่นกันเอาเป็นเอาตาย จนลืมไปว่าอยู่รัฐบาลเดียวกัน ด่าทอโจมตีกันเองเละเทะ ภาษาชาวบ้านเปรียบเป็นผีเน่ากับโลงผุ ต่างฝ่ายต่างมีแผล มีแต่เรื่องผลประโยชน์แต่ยังอยู่ร่วมกันได้ เรียกว่าประชาธิปไตยวิปริตอย่างแท้จริง ถ้าไม่วิปริตผิดเพี้ยน ชาวบ้านคงไม่ได้เห็นภาพตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลสาวไส้กันเองแบบไม่อายฟ้าอายดิน เชื่อว่าจากนี้ไปพรรคร่วมรัฐบาลคงทำงานด้วยกันลำบาก คงต่างคนต่างทำเพื่อพรรคตัวเองแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องการอยู่ต่ออีก 2 สมัย เกือบครบ 20 ปี แต่พรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นต่อเพราะมีแต่คนด่า มีม็อบมาไล่ พยายามดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นแทน เพราะเข้าใจการเมืองมากกว่า จึงเห็น พล.อ.ประวิตรขึ้นเวทีหาเสียงครั้งแรก ทั้งที่ตอนเลือกตั้งใหญ่พรรคพลังประชารัฐใช้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นจุดขาย
“โจ้” จี้นายกฯสอบ สอศ.ซอยงบฯ
ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม เพื่อไทย แถลงถึงความไม่โปร่งใสในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ ว่า จากการตรวจสอบพบ สอศ. เปลี่ยนแปลงงบประมาณที่ได้จาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จำนวน 68 ล้านบาท ไปทำห้องเรียนออนไลน์ โดยใช้วิธีซอยงบประมาณไปยังวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศ 136 แห่ง แห่งละ 500,000 บาท เพื่อหลีกเลี่ยงการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ปกติงบฯที่ผ่านสภาแล้วต้องใช้ตามรายการที่กฎหมายกำหนด แต่ สอศ.กลับเล่นแร่แปรธาตุเปลี่ยนแปลงไปทำห้องเรียนออนไลน์ โดยอ้างการระบาดของเชื้อโควิด วันที่ 9 มี.ค.นี้จะไปยื่นเรื่องให้นายกฯตรวจสอบว่า สอศ.ทำอย่างนี้ได้อย่างไร หากนายกฯไม่ตรวจสอบระวังจะถูกยื่น ป.ป.ช.ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157