ไม่ไว้วางใจ ได้อะไรบ้าง? หากไม่มีทีเด็ดเป็นประเด็นที่จะมีนํ้าหนักน่าเชื่อถือ มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดบกพร่อง ทุจริตคาหนังคาเขา

ก็คงเป็นเวทีจำอวดการเมืองในเวทีสภาเท่านั้น

2 วันแรกที่มีการอภิปรายผ่านไป ไม่ได้มีอะไรที่พอจะเห็น ว่าการทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลยังไม่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เป็นเรื่องของ “ผู้ตรวจสอบ”

เมื่อกลไกเป็นอย่างนี้ก็เลยหวังผลอะไรไม่ได้มากนัก

เรื่องหนึ่งที่หยิบยกขึ้นมาอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านด้วยการยกประเด็นโควิด-19 ขึ้นมาโจมตีรัฐบาล

ให้นํ้าหนักไปที่เรื่อง “วัคซีน” ซึ่งชุดแรกจะเข้ามาถึงเมืองไทยในวันที่ 24 ก.พ.64 ชื่อ “ซิโนแวค” จากประเทศจีน

ซึ่งคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนเป็นประเดิม จากนั้นก็จะมีลอตต่อไปตามที่ได้มีการวางแผนล่วงหน้าเอาไว้แล้ว

พูดง่ายๆว่าไม่ต้องห่วงและเป็นกังวลแต่อย่างใด

การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของไทยนั้นต้องยอมรับว่าคณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญคือ “พระเอก” ที่ทำให้สามารถบริหารจัดการเป็นไปด้วยดี

คือกำหนดนโยบายและทิศทางการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์

จนทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี พูดง่ายๆว่าเป็น “แม่แบบ” หรือ “ต้นแบบ” เมื่อเกิดโรคระบาดในลักษณะนี้

นี่ถ้าหากพวกท่านๆเหล่านี้ไม่กระโดดเข้ามาดำเนินการอย่างเอางานเอาการไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

หาก “นักการเมือง” ว่ากันไปโดดๆฐานะผู้บริหารคงป่วยหนักแน่

ว่าไปแล้วเรื่องโควิด-19 ทั้งระบบจนไปถึงการวางแผนในเรื่องวัคซีน จึงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นมาอย่างไร้ทิศไร้ทาง

...

แต่ได้มีการศึกษาค้นคิดตรวจสอบมาเป็นอย่างดีจากผู้รอบรู้จนสามารถที่จะวางแผนในการบริหารจัดการแบบรู้จริง และให้คำตอบได้อย่างชัดเจน

ผมว่าคนไทยจะให้ความเชื่อมั่นและเชื่อถือมากกว่าที่คนบางพวกบางเหล่าพยายามที่จะโยงไปสู่เรื่องการเมือง

เพื่อถือโอกาสไปพ่วงกับแนวคิดการเมืองแบบสุดโต่ง

นักการเมืองก็เลยไปงับเอามาละเลงกันบางส่วนก็เพื่อจะได้โจมตีรัฐบาล บางส่วนทำตัวเป็น “สาวก” รับแนวคิดมาถ่ายทอดต่อ

ทั้งๆที่ก็รู้ดีว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นอย่างไรเพราะสามารถตรวจสอบได้

นักการเมืองในส่วนนี้และพรรคการเมืองมีแต่เสียหายกันไปเอง

ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงต้องแยกส่วนให้ดี ไม่ได้หมายความว่าการแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาลจะไม่มีอะไรผิดพลาดบกพร่อง

นี่แหละเป็นส่วนของนักการเมืองในฐานะผู้บริหารที่สะท้อนภาพให้เห็นถึงการไร้ความสามารถทั้ง “คน” และ “ระบบ”

“คน” ยังไม่มีความสามารถเพียงพอ หวังแค่อำนาจและผลประโยชน์ อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบการบริหารราชการแผ่นดินซึ่งจะต้องปฏิรูปกันขนานใหญ่

นี่แหละคือปัญหาของประเทศไทย...

“สายล่อฟ้า”