“บิ๊กตู่” ลุยงานต่องดจ้อสื่อ โฆษกรัฐบาลวอนอย่านำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีบ้านพักหลวงไปเป็นประเด็นการเมือง “เรืองไกร” ไม่จบยื่น กมธ. ป.ป.ช.สอบต่อ “ประยุทธ์” ในฐานะอดีต ผบ.ทบ.ได้สิทธิพิเศษรับผลประโยชน์อื่นใดเกิน 3 พันบาทจากน้ำ-ไฟฟรีตลอด 6 ปี เรียก“บิ๊กแดง-บิ๊กบี้-บิ๊กป้อม” แจง อ้างพี่ใหญ่ออกระเบียบบ้านพักรับรอง ทบ.ไม่มี ก.ม.รองรับ “เสรีพิศุทธ์” เด้งรับขุดคุ้ยกองทัพเอาภาษีประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำประเคนบ้านหรูอดีตบิ๊ก ทบ. “ปิยบุตร” ของขึ้นฉะกระดาษเปื้อนหมึก ปลุกประชาชนลุกขึ้นสู้กฎหมายไม่เป็นธรรม ศาล รธน.ส่ง จนท.ร้อง ปอท. แจ้งความ “เพนกวิน” โพสต์หมิ่นฯเสียหายผิด ม.198 “กวิ้น-ไมค์” แจง กมธ.ถูกซ้อม นอกเครื่องแบบ 6 นายใช้กำลังช่วงชุลมุน “ปารีณา-เพนกวิน” ชี้หน้าด่า กันลั่น สาดน้ำลายเด็กเลี้ยงแกะ-ส.ส.เลี้ยงไก่
จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ชี้ขาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อาศัยบ้านพักรับรองของกองทัพบก ถูกต้องตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ.2548 และไม่เข้าข่ายกระทำฝ่าฝืนจริยธรรม แต่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา โดยศาลรัฐธรรมนูญส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร หลังโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กพาดพิงศาลรัฐธรรมนูญจนเกิดความเสื่อมเสีย

...
“บิ๊กตู่” ฟุ้งยกระดับไทยเป็น ปท.ชั้นนำ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงานมอบนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล และแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลพร้อมทั้งมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2563 “DG Awards 2020” โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอชื่นชมความมุ่งมั่นปรับเปลี่ยนหน่วยงานสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จุดเปลี่ยนขับเคลื่อนสู่รัฐบาลดิจิทัล ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่จะสำเร็จได้ หากทุกหน่วยงานปรับเปลี่ยนทุกระดับ ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้ รวมถึงทัศนคติและระบบคิดเชิงบูรณาการ ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเป้าหมาย 4 ด้าน ได้แก่ 1.การลดความเหลื่อมล้ำ 2.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3.การทำงานของภาครัฐที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ และ 4.การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงขอให้หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับแผนดังกล่าว โดยปรับแผนงานให้สอดคล้อง ขจัดข้อขัดแย้งความท้าทายในการปรับเปลี่ยนองค์กรด้วยและต้องคิดว่าทำอย่างไรต่อไป เพื่อยกระดับให้เราเป็นประเทศชั้นนำให้ได้ ต่อมาเวลา 10.20 น.พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เพียงแต่โบกมือให้กลุ่มสื่อมวลชนและช่างภาพก่อนขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาล และส่งมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้ผู้มารอส่งด้วย
รบ.วอนอย่านำคำวินิจฉัยศาลไปขย่ม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อาศัยบ้านพักรับรองของกองทัพบก ถูกต้องตามระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ.2548 และไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำฝ่าฝืนจริยธรรมว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันกับทุกองค์กรถือว่าจบสิ้นกระบวนการพิจารณา ขอให้ทุกส่วนพิจารณาความถูกต้อง การจะกล่าวอ้างอิงอะไรที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะไม่อยากให้การนำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง ขอให้พิจารณาคิดถึงผลประโยชน์ของชาติ ให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ ในการแก้ไขสิ่งที่เห็นต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ไปที่สภาฯ และสภาฯได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการศึกษารายละเอียดแต่ละมาตราแล้ว ทุกอย่างกำลังเดินไปตามกลไกที่มีอยู่ทั้งกฎหมาย การบริหารราชการแผ่นดิน ขอให้ผู้เห็นต่างพูดคุยผ่านเวทีคณะกรรมการสมานฉันท์ วันนี้มีข้อสรุปออกมาแล้วว่าคณะกรรมการจะมาจากส่วนใดบ้าง
“วิษณุ” ยันนอนบ้านพิษฯไม่เจอผี
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวทีเล่นทีจริงกับผู้สื่อข่าวว่า “บุญนะนี่ที่ผมไม่ได้ขนของกลับ” เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่านายกฯจะใช้บ้านพิษณุโลกเป็นบ้านพักประจำตำแหน่ง นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องผีไม่มี ไม่มีใครเคยเจอ สมัยนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ เคยเข้าพักบ้านหลังนี้ก็ไม่เคยเจอ เพียงแต่หนวกหูเพราะขณะอาบน้ำยังได้ยินเลย แม้แต่คนเดินก็ได้ยินเสียงดัง และมีเรื่องเล่าระหว่างประชุมมีคนไม่สบายจึงให้ไปนอนพักข้างบนก็เหมือนนั่งประชุมอยู่ด้วย ความจริงตนเคยไปนอนค้างไม่ได้เจออะไร ยังเคยคุยกับลูกของพระยาอนิรุทธเทวาเจ้าของบ้าน เขาบอกว่าผีเผออะไรพ่อเขาไม่เคยเจอลือกันไป ขนาดตึกนารีสโมสรทำเนียบรัฐบาลสมัยนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ยังลือกันว่า 3-4 ทุ่ม มีเสียงดนตรีไทย แล้วก็มาพบว่านางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกฯสมัยนั้น ยังทำงานยังไม่กลับบ้านและซ้อมดนตรีอยู่ในตึกนารี
ศาล รธน.แจ้งความ “พริษฐ์” โพสต์หมิ่น
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเวลา 14.00 น. ส.ต.ท.มนตรี แดงศรี ผอ.กลุ่มงานนิติการ ศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความกับพ.ต.ท.นิติธร เดชระพีร์ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.ให้ดำเนินคดีกับเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มคณะราษฎร หลังโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กตัวเองพาดพิงศาลรัฐธรรมนูญจนเกิดความเสื่อมเสีย หลังเสร็จสิ้น ส.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า ตรวจสอบข้อมูลจากสื่อและสื่อออนไลน์ พบข้อความการปราศรัยบางส่วนของนายพริษฐ์ ในการชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าวเมื่อค่ำวันที่ 3 ธ.ค. เข้าข่ายดูหมิ่นศาล จึงรับมอบอำนาจจากศาลรัฐธรรมนูญมาแจ้งความดำเนินคดีตามความใน ป.อาญา มาตรา 198 เบื้องต้นอยู่ที่พนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินคดีผู้กระทำผิดมีใครบ้าง ส่วนกรณีการแสดงละครล้อเลียนการวินิจฉัยของศาลนั้น อยู่ระหว่างพิจารณาเข้าข่ายความผิดใดหรือไม่

“เรืองไกร” ไม่จบยื่น กมธ.สอบ “บิ๊กตู่”
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ไม่มีความผิดกรณีอยู่บ้านพักกองทัพบก ไม่เข้าข่ายการมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือขัดกันแห่งผลประโยชน์ โดยนายเรืองไกรกล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความผิดกรณีดังกล่าว อ้างระเบียบกองทัพให้ ผบ.ทบ.และอดีต ผบ.ทบ.ใช้บ้านพักรับรองได้ และได้ใช้น้ำไฟฟรี
ซัด “บิ๊กป้อม” ออกระเบียบไร้ ก.ม.รองรับ
“แต่สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะอดีต ผบ.ทบ.ได้สิทธิพิเศษ จึงเท่ากับรับผลประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพราะอยู่มาตั้งแต่เดือน ต.ค.57 ถึงปัจจุบัน 6 ปี บนเนื้อที่ 2 ไร่ ค่าน้ำ ค่าไฟต้องเกิน 3,000 บาทต่อเดือนแน่นอน ต้องพึ่ง กมธ.ป.ป.ช.สอบสวนข้อเท็จจริง เรียกหลักฐานประกอบด้วยคำวินิจฉัยกลางคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำร้องพรรคเพื่อไทย คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. รวมถึงเรียก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะผู้ออกระเบียบบ้านพักรับรองกองทัพบก ปี 2548 มาให้ข้อมูลต่อ กมธ. เพราะจากการตรวจสอบระเบียบดังกล่าวไม่มีกฎหมายรองรับ และไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา” นายเรืองไกรกล่าว
“เสรีพิศุทธ์” เด้งรับขุด ทบ.ปู้ยี่ปู้ยำภาษี
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้ไต่สวนตามอำนาจหน้าที่ เพราะฟังแล้วแม้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะผูกพันทุกองค์กร แต่กรณีกองทัพบกออกระเบียบให้อดีต ผบ.ทบ.อยู่บ้านพักได้นั้น ไม่มีกฎหมายใดรองรับ และไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา คงต้องเรียก พล.อ.อภิรัชต์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ รวมถึง พล.อ.ประวิตรมาสอบถามข้อมูลว่าการที่กองทัพสร้างบ้านพักให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ โดยจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้จะมีประโยชน์ถึง ผบ.ทบ.คนปัจจุบันและในอนาคตหรือไม่ การที่กองทัพเอาภาษีประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าทำได้เลขาธิการสภาฯออกระเบียบเลียนแบบกองทัพสร้างบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯและรองประธานสภาฯอีก 2คนอยู่ไปจนตายได้เช่นกัน ในฐานะทำคุณงามความดีให้ประเทศ การรับเรื่องไว้ตรวจสอบเพื่อให้ประเทศมีมาตรฐานในการดำรงชีวิต ไม่ใช่ให้คนอื่นทำตามกฎหมาย แต่ตัวเองทำตามกฎหมายหรือไม่

“ปิยบุตร” ของขึ้นฉะกระดาษเปื้อนหมึก
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งว่า ลำพังแต่ตัวอักษรที่ถูกเขียนเป็นกฎหมายหรือคำพิพากษา ไม่มีค่าบังคับใดๆหากบทบัญญัติแห่งกฎหมายและคำพิพากษาต่างๆ ปราศจากซึ่งกลไกรัฐในการบังคับ การตามกฎหมายและการเคารพเชื่อฟังของคนแล้ว กฎหมายและคำพิพากษาเหล่านั้นจะมีค่าเป็นเพียงตัวอักษรและเศษกระดาษเปื้อนหมึกเท่านั้น “กฎหมาย” มีพลังได้ เพราะมีอำนาจรัฐบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมกับมีคนเชื่อฟังทำตาม “อำนาจ” มีผลได้ เมื่อเราเชื่อว่าตรงนั้นมี “อำนาจ” และพร้อมทำตาม “อำนาจ” หากมนุษย์ฉุกคิดได้ว่า ณ ที่แห่งนั้น จริงๆแล้ว ไม่มีอำนาจใดอยู่จริง ทุกอย่างอุปโลกน์ขึ้นมา และดำรงอยู่อย่างไร้เหตุผล ไม่สามารถอธิบายให้คนเคารพเชื่อฟังได้ เมื่อนั้น “อำนาจ” ก็ไม่อาจทำงานได้
ปลุก ปชช.ลุกขึ้นสู้ ก.ม.ไม่เป็นธรรม
“การสู้กับกฎหมายและคำพิพากษาที่ไม่เป็นธรรม จึงต้องเชิญชวนประชาชนคนส่วนใหญ่คนทั้งประเทศให้แสดงออกโดยพร้อมเพรียงกันว่า สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา มันไม่ใช่กฎหมายและคำพิพากษา แต่เป็นเศษกระดาษเปื้อนหมึก เป็นถ้อยวาจาที่คนใส่ชุดครุยเข้าไปนั่งบนบัลลังก์แล้วพ่นออกมา พร้อมกันนั้นต้องทำให้กลไกรัฐที่ทำหน้าที่บังคับการตามกฎหมาย ตัดสินใจยุติการพลีกายรับใช้รัฐ และออกมาลุกขึ้นสู้กับกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมนั้น” นายปิยบุตร ระบุ
พท.ไล่ รบ.แก้น้ำท่วมไม่ได้ก็ออกไป
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นน้ำท่วมภาคใต้แล้วอดนึกถึงโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 324,606 ล้านบาท ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกรัฐบาลทหารปัดตกไปในปี 57 ไม่ได้ แต่ได้ตั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (2558-2569) มาแทนงบฯ 5-6 หมื่นล้านต่อปี รวมแล้ว 6 แสนล้าน ถามว่าแผนเร่งด่วนปี 2561-2562 โครงการผันน้ำอ้อมเมืองนครศรีธรรมราชที่ทำได้ผลหรือไม่ หลายแสนล้านที่ใช้ไปแก้ได้หรือไม่ การตั้งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็น ผอ. ทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ปล่อยให้ปัญหาวนซ้ำเดิมทุกๆปี ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไป
“จอน” ย้ำให้เลือกตั้ง ส.ส.ร.มาแก้ รธน.
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม โดยเชิญนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) และ นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มาชี้แจงต่อ กมธ. โดยนายจอนให้สัมภาษณ์ว่า ไอลอว์ยืนยันหลักการว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยตรงจากประชาชนคล้ายกับการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะเปิดโอกาสให้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.ร.แบบกลุ่มและนโยบาย ให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร.ตามนโยบายหรือวิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้สมัครเลือกตั้ง ไม่เป็นความจริงว่าไม่เปิดโอกาสให้คนระดับจังหวัด กลับกันแบบนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนอย่างกว้างขวาง ให้เลือกตั้ง ส.ส.ร.สะท้อนความต้องการตัวเอง เช่น กลุ่มสิทธิชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้ ส.ส.ร.ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรง ไม่จำเป็นต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะต้องการให้ ส.ส.ร.เป็นตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง แต่จะให้ผู้เชี่ยวชาญไปอยู่ในส่วนคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแทน
ดองไม่มีกำหนดญัตติยื่นศาลตีความ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า กมธ. เชิญไอลอว์มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เข้าใจว่าอาจมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด เมื่อครั้งมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณารับหลักการในวาระ 1 ก่อนหน้านี้ จึงอยากให้มาแสดงความคิดเห็น เช่น การเลือกตั้ง ส.ส.ร.ที่มีลักษณะคล้ายกับการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และเชิญนายอุดม รัฐอมฤต อดีต กรธ. มาอธิบายถึงหลักการและเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี 60 ยืนยันว่า ส.ส.ร.ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรงเท่านั้น ไม่มีการแต่งตั้ง การเลือกตั้ง ส.ส.ร.อาจแบ่งเป็นการเลือกตั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ส่วนญัตตินายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว.ที่ขอให้รัฐสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้รับการประสานงานมาแล้วว่าญัตติดังกล่าวถูกชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด ไม่อยากเห็นภาพการดึงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญให้ล่าช้า เพราะตอนนี้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญอยู่ในขั้นตอน กมธ.แล้ว
คาดมีผู้แปรญัตติทะลุเกิน 100 คน
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายสมคิด แถลงผลประชุมว่า กมธ.เชิญนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผอ.โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) และนายอุดม รัฐอมฤต อดีต กรธ.มาชี้แจงต่อ กมธ. นายจอนยืนยันว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ต้องเป็นเขตประเทศ มีทั้งรายกลุ่มและรายบุคคล แต่ กมธ.หลายคนบอกว่าถ้าจะเดินคนละครึ่งทางอาจเลือก ส.ส.ร. 100 คน หรือ 125 คน จากเขตเลือกตั้งจังหวัด และ ส.ส.ร.อีก 75 คน เป็นเขตเลือกตั้งประเทศ แต่นายจอนยืนยันเหมือนเดิมว่า ส.ส.ร.ต้องใช้เขตประเทศให้หลากหลาย สำหรับการแปรญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าสุดมีผู้ยื่นขอแปรญัตติมาแล้ว 95 คน เป็น ส.ว. 8 คน ส.ส. 87 คน คาดว่าสิ้นสุดเวลา 16.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. ที่เปิดให้แปรญัตติเป็นวันสุดท้าย จะมีผู้ขอแปรญัตติเพิ่มเป็นหลักร้อยคน กมธ.จะเชิญผู้แปรญัตติมาชี้แจงสัปดาห์หน้า

“กวิ้น-ไมค์” เเจง กมธ.ป.ป.ช.ถูกซ้อม
อีกด้าน เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช.ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้เชิญนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง สองแกนนำกลุ่มราษฎร เข้าชี้แจงกรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ประเด็นการควบคุมตัวนายพริษฐ์ และนายภานุพงศ์ จากเรือนจำพิเศษ กรุงเทพ ทั้งที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขังและถูกทำร้ายร่างกายระหว่างถูกควบคุมตัวจนได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ช่วงชุลมุนนอกเครื่องแบบ 6 คนใช้กำลัง
นายพริษฐ์กล่าวว่า บางคดีตำรวจใช้วิธีการแจ้งหลายๆข้อหา เพื่อสร้างความลำบาก 3 เดือน โดน ทั้งหมด 17 คดี เกี่ยวกับมาตรา 116 และมาตรา 112 ส่วนไมค์โดน 6 คดี ล่าสุด มาตรา 112 กรณีศาลอาญาไม่อนุญาตให้ฝากขัง เมื่อวันที่ 30 ต.ค.นั้น ตนถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หลอกล่อจึงยอมขึ้นรถไปกับตำรวจ ไปที่ สน.ประชาชื่น ขณะที่นายภานุพงศ์ระบุว่าตนและนายพริษฐ์ได้ยินเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พูดว่า สงสัยต้องใช้กำลัง จากนั้นมีตำรวจนอกเครื่องแบบ 6 คน มากระชากตัวขึ้นรถคุมขังผู้ต้องหา โดยไม่ได้แสดงตัวและไม่ได้แสดงหมายจับ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ 3 นายขึ้นรถไปด้วย และได้กดตัวไว้เพื่อไม่ให้ดิ้น และ ไม่ให้เปิดกระจกรถทำให้เป็นลม ขณะเกิดเหตุชุลมุนกันมาก มารู้ตัวอีกทีคือถูกนำตัวลงมาจากรถควบคุมผู้ต้องหา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ทั้งนี้ อยู่ระหว่างให้ทีมกฎหมายรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ทราบชื่อตำรวจนอกเครื่องแบบทั้ง 6 คน แล้วแต่ยังไม่สามารถหารูปเพื่อให้ยืนยัน ตัวบุคคลได้
“ปารีณา-เพนกวิน” ชี้หน้าด่ากันลั่นห้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายการประชุมเกิดการโต้คารมอย่างดุเดือดระหว่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ.กับนายภาณุพงศ์และนายพริษฐ์ โดย น.ส.ปารีณาสอบถามขั้นตอนการปล่อยตัวว่า จะต้องมีหมายศาลมาที่เรือนจำก่อนจึงปล่อยตัวได้ใช่หรือไม่ นายภาณุพงศ์ยอมรับว่าใช่ และพยายามอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ น.ส.ปารีณาไม่ยอมฟัง ระบุว่าไม่ต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำอีก ชี้แจงไปแล้ว ด้านนายพริษฐ์พยายามอธิบายลุกขึ้นชี้มือไปทาง น.ส.ปารีณา ทำให้ น.ส. ปารีณาลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วกลับไปว่า อย่าชี้หน้าที่นี่ไม่ใช่ม็อบ ทำให้นายพริษฐ์โต้กลับว่า “ที่นี่ไม่ใช่เล้าไก่” น.ส.ปารีณาตอบกลับว่า “ดิฉันเคยเลี้ยงไก่แต่ไม่ชอบเลี้ยงหมู”
“เอ๋” ไม่ฟังเด็กเลี้ยงแกะถูกสวนต้องเลี้ยงไก่
ต่อมา น.ส.ปารีณาถามว่า ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ ที่กระทำการโดยมิชอบตามที่กล่าวหาหรือไม่ นายภาณุพงศ์กล่าวว่า การที่ถามเช่นนี้ไม่ได้ฟังในสิ่งที่ตนได้ชี้แจง น.ส.ปารีณากล่าวว่า “ดิฉันไม่ชอบฟังเด็กเลี้ยงแกะก็เลยฟังบ้างไม่ฟังบ้าง” นายพริษฐ์ได้สวนขึ้นมาอีกว่า “ต้องเลี้ยงไก่ใช่ไหมครับ” ขณะที่ น.ส.ปารีณาไม่หยุดระบุว่า “ดิฉันเลี้ยงไก่ค่ะ แต่ไม่เลี้ยงหมู” จากนั้นนายประเดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการ กมธ.ได้ตัดบทว่า ผู้มาชี้แจงทั้ง 2 คนไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถาม หากคำถามไหนตอบไม่ได้ก็ไม่ต้องตอบ แต่ส่งเป็นเอกสารมาชี้แจงในภายหลังได้ ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวสรุปว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะเรียก ผบ.ตร.และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่ทั้ง 2 คนกล่าวถึงมาชี้แจงต่อ กมธ.ต่อไป

บช.น.จ่อเอาผิดม็อบ 2 ธ.ค.
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.เปิดเผยว่า กรณีการชุมนุม 2 ธ.ค. พ.ต.อ.อรรถวุฒิ นิวาตโสภณ ผกก.สน.พหลโยธิน ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติชุมนุมเวลา 18.00 น.แต่เพิกเฉยชุมนุมต่อจนถึง 01.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.ปรากฏความเสียหายฉีดสีถนนและกำแพงห้าแยกลาดพร้าว เป็นคดีความผิดส่วนตัว มีผู้เสียหาย 1 คนอยู่ระหว่างประสานเข้าแจ้งความกับตำรวจ ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะและ พ.ร.บ.ความสะอาด ส่วนกรณีฝ่าฝืนเจ้าพนักงาน กล่าวพาดพิงผู้อื่นให้เสียหายรอการพิจารณา
“กวิ้น” ระบุติดสอบเลื่อนศาลดอนเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ศาลแขวงดอนเมือง นัดสอบคำให้การคดีหมายเลขดำที่ 1124/ 2563 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง 9 โจทก์กับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร จำเลย ฐานไม่ได้แจ้งการจัดชุมนุมตามกฎหมาย รบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการของประชาชนในการติดต่อราชการ กีดขวางการจราจร ใช้เครื่องขยายเสียงไมโครโฟนไร้สายปราศรัยสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อ 7-8 ส.ค.ที่หน้า สน.บางเขน โดยนายพริษฐ์ไม่มาศาล แต่แต่งตั้งทนายความเข้ายื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ระบุเป็นวันสอบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศาลให้เลื่อนไปนัดสอบคำให้การวันที่ 18 ม.ค.64 เวลา 09.00 น.
ทวงคำตอบ 6 เดือน “ต้าร์” ถูกอุ้ม
ที่หน้าสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง มีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในโอกาสครบรอบ 6 เดือนที่นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีความมั่นคงไปอาศัยในประเทศกัมพูชาถูกอุ้มหาย นำโดยนางปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ไทย ญาติ และนักกิจกรรมสังคมเข้าร่วมสวมหน้ากากรูปหน้าวันเฉลิม ยื่นหนังสือแนบ 14,157 รายชื่อเรียกร้องให้เร่งสืบสวนเรื่องนี้ โดยนางสิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนาย วันเฉลิมกล่าวว่า ครอบครัวยังหวังว่าทางการกัมพูชาจะสืบสวนและแจ้งความคืบหน้าชะตากรรมน้องชายและช่วยหาคำตอบว่าอะไรคือสาเหตุ รวมถึงนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การถูกอุ้มหายของนายวันเฉลิม เป็นอีกหนึ่งในชนวนเหตุสำคัญ ที่ทำให้เกิดม็อบนักเรียน นักศึกษา จนลุกลามไปเป็นกลุ่มม็อบราษฎรที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
“อานนท์” สู้คดีให้ “ครูใหญ่-เซฟ”
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดไต่สวนมูลฟ้อง เลขคดีดำที่ อ.705/2563 ระหว่าง บริษัทสโมสรฟุตบอล ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในฐานะ โจทก์กับนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ จำเลยที่ 1 และนายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ จำเลย ที่ 2 แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มีนายอานนท์ นำภา ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำคนสำคัญของกลุ่มราษฎร เป็นทนายฝ่ายจำเลย ศาลใช้เวลา ไต่สวนมูลฟ้องประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนศาลมีคำสั่งให้โจทก์และจำเลย มาฟังคำสั่งศาลในวันที่ 19 ม.ค.64 ขณะที่นายอานนท์กล่าวว่า ทีมทนายพบเห็นช่องว่างตามที่โจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเอาผิด ครูใหญ่กับเซฟ ที่ขึ้นปราศรัยในเวทีขอนแก่นพอกันที เมื่อ 20 ส.ค.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย