พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ได้เวลา “ปลุกพระ” พึ่งพุทธคุณความขลังของ “พระรอด-หลวงปู่แคล้ว-หลวงพ่อช่วย-อาจารย์เหนียว” ที่ห้อยอยู่เต็มคอ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ระดมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “ตัวช่วย” พิเศษ จังหวะลุ้นช็อตเดิมพัน วันที่ 2 ธันวาคม ดีเดย์ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟันธงคดี “ผู้นำทหารเฒ่า” จับจอง “บ้านหลวง” ปักหลักพักอาศัยยาวจนเปลี่ยนสถานะจากผู้นำทหารเป็นผู้นำรัฐบาล ส่อผิดเงื่อนไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
ในจังหวะที่ม็อบเบิ้มๆมวลชนราษฎรนัดปักหลักชุมนุมประกบเป็นกองแช่ง
ล่าสุดเช็กราคาต่อรองวงการพนัน อิงกับโหรนั่งทางนอก ส่องทางใน ทำนายทายทักไปในทางเดียวกับวงข่าว “อินไซด์” จากเมืองไคฟง ส่งซิกให้ทุ่มแทงเต็ง
“บิ๊กตู่” รอด ในราคา 100 เอาบาทเดียว
อิทธิฤทธิ์ “พระอาจารย์เหนียว” ผูกปีคุ้มครอง ตามเงื่อนไขประการสำคัญที่ประเมินได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องไม่ตกม้าตายน้ำตื้น “เสียฟอร์ม” สถานะของ “ผู้ถูกเลือก” ให้ถือธงแม่ทัพห้วงเปลี่ยนผ่านประเทศไทย
แต่ปัญหาหนักกว่า มันอยู่ตรงที่หลังจากคำตัดสินไม่ผิดแล้ว
แนวโน้มแบบที่ฝ่ายตรงข้ามชิงดักทาง ตีปี๊บโห่ประจานล่วงหน้า
เหลี่ยมแบบที่ “เสธ.แมว” พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร แกนนำพรรคเพื่อไทย ชี้ว่าในภาวะการเมืองเดินทางมาถึงจุดนายกฯและองคาพยพสืบทอดอำนาจหมดภูมิคุ้มกัน คำวินิจฉัยออกมาแบบใด จุดจบปลายทางก็อาจมีผลเหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าเสียงไม่ขาด พล.อ.ประยุทธ์ก็ไปต่อยาก
มันทำให้ไม่สง่างามต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป
...
หรืออารมณ์เบิ้ลส่งแบบที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ฟันธงไม่กลัว “หน้าแหก” พล.อ.ประยุทธ์ ยังไงก็รอดคดีอยู่บ้านพักทหาร
แต่ที่ประชาชนอยากรู้จะเขียน “สตอรี” อย่างไรให้รอด
ก้าวไกล เพื่อไทย ฝ่ายค้านโหมชนวนไฟรอ ตามฟอร์มต้องมีการย้อนโยงไปเทียบเคียงกับกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตกเก้าอี้เพียงเพราะแค่รับจ้างทำกับข้าวออกทีวี ติดเงี่ยงกฎหมายตามคำอธิบายใน “พจนานุกรม”
เข้าเหลี่ยมย้ำปม “2 มาตรฐาน” เหตุที่ต้องโค่นกระดาน “ระบอบ 3 ป.”
ผิดก็วุ่น ไม่ผิดส่อป่วนหนักกว่า โจทย์สถานการณ์ปราบเซียน ผู้เชี่ยวเชิงเกมอำนาจการเมืองแบบไทยๆ ดินแดนแห่งการประนีประนอม ต้องวิเคราะห์เกมซ้อนเกมหลายชั้น ถึงแม้คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาไม่ผิด
แต่ในมุมของ “สปิริต” ก็เป็นสิทธิที่ “บิ๊กตู่” จะตัดสินใจได้เอง
ตามจังหวะผู้นำขุมอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. จะเลือก “ไต่บันไดลง” แบบนิ่มๆอยู่รอดปลอดภัย หรือพาดปีนตะเกียกตะกายไปต่อ ท้าทายวิบากกรรม ท่ามกลางคลื่นมรสุมมวลชนรุ่นใหม่
กระแสโห่ไล่ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา จุดติด ลุกโชน “ดับยาก”
ภายใต้ฉากสถานการณ์ นับวันสังคมยิ่งแตกแยกอย่างหนัก จากแบ่งขั้วแบ่งสี มาเป็นความขัดแย้งระหว่างเจเนอเรชัน ถึงวันที่เด็กรุ่นใหม่ไปคนละทางกับคนแก่รุ่นเก่า
ไทยร้าวหนัก หักมุมกับเนื้อเพลงคืนความสุข ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนมา
โอกาสสูงที่จะพัฒนาไปสู่ภาวะรัฐบาลมีอำนาจแต่บริหารไม่ได้
ในภาวะมหาวิกฤติเศรษฐกิจโควิด ติดเชื้อมรณะหนักทั่วโลก ที่เมืองไทยยังเจอโรคแทรกซ้อนจากไวรัสการเมือง ม็อบเบิ้มๆ รายวัน กระแสมวลชนรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ไม่ยอมรับ การสืบทอดอำนาจของทีมทหารเฒ่าแท็กทีมกับนักการเมืองเน่า
“เขย่าศูนย์อำนาจ” ฉีกประวัติศาสตร์ ล่วงล้ำเขตแดนอันตรายโดยสภาพจ่อสงครามกลางเมืองที่มโนได้ตรงหน้า นักลงทุนที่ไหนจะบ้า กล้าขนเงินมาเสี่ยงทำธุรกิจในเมืองไทย ตามจังหวะยักษ์ใหญ่อย่างญี่ปุ่นถอนสมอก่อนใคร ย้ายฐานปักหลักที่ประเทศเวียดนาม
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ ถ้า “บิ๊กตู่” ลากต่อ เศรษฐกิจจ่อพับฐาน
“ทหารเฒ่า 3 ป.” เอาล่อเอาเถิดกับม็อบเด็กรุ่นใหม่ ยื้อบรรยากาศ “ขึงพืด” ประเทศไทย
เกมวัดความอึดยิ่งนานเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ๊งหนักเท่านั้น.
ทีมข่าวการเมือง