คลำหาทางออก เข็นครกขึ้นเขา ก็แปลกๆดีเหมือนกันครับ...เพราะทุกคนต่างรู้กันดีว่า ประเทศเรากำลังประสบวิกฤติการเมืองที่ยังไม่รู้ว่า จุดจบจะเป็นอย่างไร แต่บางกลุ่มบางฝ่ายดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรด้วย ยิ่งฝ่ายรัฐบาลในฐานะผู้กุมอำนาจรัฐ ซึ่งกำลังถูกรุกไล่เกือบจะติดกำแพงอยู่แล้ว และกำลังหาทางคลี่คลาย ทว่าคนในรัฐบาลเสียเองกับทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง ทั้งๆที่บริบทในความเป็นจริงแล้วก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาด้วยตนเองได้

“อำนาจ” ที่อยู่ในมือนั้นว่าไปแล้วก็แทบจะไร้ความหมาย

กำลังจะพูดถึงความพยายามที่จะหาทางออกของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่เข้าถึงปัญหาซึ่งกำลังเกิดขึ้นเป็นอย่างดี

การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อเปิดทางให้มีการพูดจาระหว่างฝ่ายต่างๆจึงเป็นแนวคิดหนึ่งที่น่าจะเป็นทางออกได้

“สำเร็จ” หรือ “ล้มเหลว” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ดีกว่าไม่ทำอะไรกันเลย

อย่างน้อยในสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมประเทศในฐานะพลเมืองไทยที่เห็นและรับรู้ว่าบ้านเมืองกำลังตกอยู่ในภาวะที่เป็นอันตราย

จะมานั่งดูดายคงไม่ใช่ทีแน่...

ยิ่งนักการเมืองยิ่งจะต้องตระหนักมากกว่าประชาชนด้วยซ้ำไป เพราะอาสาเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนในกิจการบริหารประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม!

สิ่งหนึ่งยากที่จะปฏิเสธได้ว่า “นักการเมือง” คือส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ แทนที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาสร้างสรรค์ประเทศให้เจริญก้าวหน้า

กลับกลายเป็นตัวถ่วงจนประเทศติดแหง็กอยู่อย่างนี้ เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ จมปลักอยู่ในวังวนเดิมๆ อย่างนี้

...

ความพยายามที่จะหาทางออกให้ประเทศที่นำโดยนายชวนนั้น ไม่ต้องไปคิดเล็กคิดน้อยให้มากความว่าเพราะอะไร

แทนที่จะช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆแต่ก็เป็นช่องทางหนึ่ง

การบ้านซึ่งเป็นโจทย์อยู่ในขณะนี้ คือข้อเรียกร้อง 3 ข้อ จึงต้องหาคำตอบให้ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ทุกฝ่ายรับกันได้

สถาบันพระปกเกล้าได้เสนอแนวทางเป็น 2 โมเดล เพื่อหารูปแบบ อีกด้านหนึ่งได้มีการประสานไปยังอดีตนายกฯ รวมถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีและอดีตนายกฯ

เพื่อปรึกษาหารือร่วมคิดร่วมหาทางออกต่อหนทางนี้

อย่างน้อยก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทั้งชีวิต หน้าที่การงานและสถานการณ์ทางการเมืองมาพอตัว

จึงน่าจะมีมุมมองที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่า

พูดง่ายๆ “เด็กในคาถา” ของใครก็ตาม ไม่ว่าสิระ เจนจาคะ ปารีณา ไกรคุปต์ ไพบูลย์ นิติตะวัน ก็แค่ “เด็กเลี้ยงแกะ” ดีๆนี่เอง

มือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำ ทำเป็นอวดเก่งอวดดี

ความจริงวันนี้...เหลือบไปดูลูกพี่ “3ป.” พวกคุณดูซิ...เห็นแต่ยิ้มแห้งๆกันทั้งนั้น.

“สายล่อฟ้า”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง