เร้าอารมณ์กองเชียร์ ก่อนชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ ในช็อตที่ฝ่ายค้านปูพรมถล่มเวทีพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สามวันสามคืน
โจมตีการจัดสรรงบประมาณหลายหน่วยงานที่มีเงื่อนงำ เน้นทิ้งบอมบ์ใส่กองทัพเรื่องความโปร่งใสการจัดซื้ออาวุธ รอยด่างที่แก้กันไม่หาย
เปิดประเด็นต่อเนื่องจัดซื้ออาวุธช่วงประเทศถังแตก ทั้งรถยานเกราะสไตเกอร์ รถสะเทินน้ำสะเทินบก ไล่เรียงไปถึงการซื้อชุดลำลองทหารเกณฑ์ ตั้งแต่เสื้อ กางเกง ถุงเท้า รองเท้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าขาวม้า กระทั่งกางเกงในที่มีราคาแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว
ขยี้แผลภาคต่อจากเรื่องเรือดำน้ำ เติมแรงหมั่นไส้ นำไปผสมโรงขย่มในการขับไล่รัฐบาล
ดีเดย์ชู 3 นิ้ว ตั้งท่าคุกรุ่น ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เตรียมกำลัง 100 กองร้อย รับมือชุมนุมใหญ่ที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินจะมีพลังนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน 50,000 คน ร่วมขบวนไล่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
ต้องประชุมซักซ้อมแผนกันใหญ่โต วางกำลังในจุดสุ่มเสี่ยงต่างๆ รุ่นใหญ่อย่าง “บิ๊กป้อม”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต้องคุมวอร์รูมบัญชาการ สั่งมอนิเตอร์สถานการณ์ชุมนุม 24 ชั่วโมง
รับมือม็อบรุ่นใหม่ที่จ่อปักหลักค้างคืนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคลื่อนทัพไปทำเนียบรัฐบาลวันที่ 20 ก.ย.
แต่ตามรูปการณ์ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ดูทรงเป็นแค่การซ้อมใหญ่ ม็อบวัยโจ๋เช็กขุมกำลัง ก่อนที่จะไปเคลื่อนไหวเผด็จศึกของจริงกันในเดือน ต.ค.
การเมืองรอเดือดช่วงตุลาอาถรรพณ์ กระตุกต่อมหลอนประวัติศาสตร์เลือดที่เคยเกิดในอดีต
...
หลังจากประเมินกันแล้ว เป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกัน “บิ๊กตู่” ไม่เหลือติดหน้าตัก ตามไทม์ไลน์ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง ไต่ถึงจุดสุกงอมโถมใส่รัฐบาล
ปัญหาปากท้องจ่อวิกฤติหนัก เศรษฐกิจดิ่งเหว ตัวเลขคนตกงานทะลักเข้าหลักล้าน หลังจากมาตรการเยียวยาต่างๆหมดโปรโมชัน
ความเชื่อมั่น ความมั่นใจทางเศรษฐกิจลดระดับ กู่ไม่กลับ
ขณะที่คิวการแก้รัฐธรรมนูญ เริ่มมีสัญญาณชัดเจนทางลึก ยังไม่มีการปิดสวิตช์ ส.ว.ตามมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐสภาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ วันที่ 23-24 ก.ย.นี้
ตามสูตรที่อาจต้องใช้ ส.ว.เป็นตัวช่วยในทางออกฉุกเฉิน โหวตเลือกนายกฯคนนอก เมื่อถึงคราวคับขันต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ถ้าฝืนกระแสไปต่อไม่ไหว
โดยต้องใช้เสียง ส.ส.และ ส.ว. 2 ใน 3 ของสองสภาเห็นชอบ
ยกเว้นการเลือกนายกฯจากบัญชีพรรคการเมือง เปิดทางให้มีนายกฯคนนอก ส.ว.ยังต้องอยู่ เพื่อใช้เป็นหลักประกันคุมอำนาจทางการเมือง ระยะยาวที่จำเป็นต้องพึ่งเสียง ส.ว.
เกมเปลี่ยนหัวผู้นำมาแน่ หาก “ลุงตู่” เบรกม็อบไม่อยู่ ปล่อยให้ลุกลามไปเรื่อยๆ
ข้อเรียกร้องปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่เห็นผลทันใจ ยิ่งเร่งอุณหภูมิยกระดับกดดันเข้าสู่จุดแตกหักในเดือน ต.ค.
ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. จะเป็นตัวแปรให้รัฐบาลประเมินสถานการณ์ตัดสินใจอย่างไรต่อไป
เพราะไม่ใช่มีแค่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา แต่ยังมีมวลชนอีกหลายกลุ่มที่ไม่พอใจรัฐบาลเป็นแนวร่วมเป็นจุดที่ต้องวางแผนหาทางออกไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย
แค่การตีลูกขู่ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ระบุการชุมนุมจำนวนมาก เพิ่มความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิดระลอกใหม่ ส่งผลกระทบเลวร้ายเป็นทวีคูณไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจประเทศ คงไม่ช่วยลดอุณหภูมิการชุมนุมได้
แต่สิ่งสำคัญคือ การแสดงความจริงใจของ “บิ๊กตู่” ว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญจะได้รับการสนองตอบจากรัฐบาลโดยเร็ว โดยเฉพาะเรื่องการยกเลิกอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ
เป็นทางออกที่จะช่วยพลิกเกมคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้นในเบื้องต้นได้
และไม่ใช่แต่เฉพาะฝ่ายรัฐบาลต้องพลิกเกม แม้แต่ฝ่ายค้านก็ต้องปรับรูปขบวนให้เข้าสถานการณ์ ออกแถลงการณ์ผลักดันเรียกร้องการแก้รัฐธรรมนูญ และให้ ส.ว.ร่วมชัตดาวน์อำนาจตัวเอง
อย่างที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ชงข้อเสนอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เร่งเครื่องการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา 4 ญัตติของฝ่ายค้านให้เสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้
เพื่อไทยฮึดสู้ ลุ้นริบดาบ ส.ว.ไม่ให้เลือกนายกฯ และการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ให้เสร็จสิ้น ก่อนจัดการเลือกตั้ง ภายใต้กติกาฉบับใหม่ กรุยทางกลับมาทวงบัลลังก์อำนาจ
ขืนปล่อยให้ลากยาว แช่แข็งแก้รัฐธรรมนูญต่อไป ฝ่ายค้านเองก็อยู่ลำบาก.
ทีมข่าวการเมือง