เข้าสู่โค้งสำคัญ 19–20 ก.ย.ดีเดย์การชุมนุมใหญ่ของเครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีแนวร่วมหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมพรรคโดมปฏิวัติ เยาวชนปลดแอก ประชาชนปลดแอก ฯลฯ
เด็กๆนัดม็อบชู 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน 1 ความฝัน ทะลุเพดาน
กับคำถามไปทั่วบ้านทั่วเมือง นับแต่ 19 ก.ย. บ้านนี้เมืองนี้จะเกิดอะไรขึ้น
เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ แต่ถ้าประเมินฉากที่เห็นก็มีเหตุชวนหวาดเสียว
ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่มีใครยอมใคร เด็กๆก็เดินหน้าเต็มสปีด ตั้งแต่ยืนยันจัดชุมนุมใหญ่ภายใน ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ยืนยันชูข้อเรียกร้องสูงลิ่วไม่มีเลี่ยง จ่อเคลื่อนม็อบเช้าวันที่ 20 ก.ย.
ยิ่งมาดูทีท่าของฝ่ายอำนาจรัฐ ตั้งแต่สัญญาณถึงผู้บริหาร ม.ธรรมศาสตร์ ยืนยันไม่ให้เด็กๆมาชุมนุมภายในมหาวิทยาลัย สั่งปิดการเรียนการสอน จำกัดทางเข้า–ออก ขณะที่มีภาพเจ้าหน้าที่ระดมมาเต็ม
หน่วยงานความมั่นคงประชุมเตรียมการรับมือถี่ยิบ จัดกำลังตำรวจสแตนด์บาย 100 กองร้อย โดยเฉพาะคำสั่งเข้มจากศูนย์กลางอำนาจ ขีดวงม็อบเคลื่อนได้ถึงสะพานมัฆวาน ปิดจุดล่อแหลม ลานพระรูปฯ
ฝ่ายหนึ่งฝ่ามาทุกข้อจำกัด จ่อแหกกฎ อีกฝั่งก็คิวบังคับยันเกมบุกหน้างาน โอกาสเกิดเหตุเบิ้มๆก็มีอยู่
แต่นั่นยังดีที่มีสัญญาณบวกต่อเนื่องจากฝ่ายถืออำนาจ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ถึงแม้จะเสียงแข็ง กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย บอกรู้แกวจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
“สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ อะไรไม่สมควรก็อย่าไปทำ”
ดักทาง รู้ตัวคนปลุกปั่นเบื้องหลังที่ทำมาตลอดและยังทำอยู่ กระตุกให้เด็กๆนึกถึงบ้านเมือง ให้ยึดถือกรอบกติกา กฎหมายต้องเป็นกฎหมายจะให้เปลี่ยนแปลงปุ๊บปั๊บไม่ได้
...
แต่อีกทางก็เสียงเนิบๆพร้อมอดทน ให้ จนท.ปฏิบัติ “นุ่มนวล” ที่สุด “เพราะเป็นเด็กเป็นลูกหลานเราทั้งนั้น”
เช่นเดียวกัน ในฝั่งของเด็กๆ แม้ยังขอตะโกนตามสิทธิเสรีภาพ แต่อีกทางก็ไม่ฮึกเหิมขยับกันเต็มกำลัง “แตกหัก” กันให้ได้ในวันสองวัน จับใจความได้ว่ารอบนี้แค่เช็กกำลังอุ่นเครื่อง ก่อนศึกใหญ่เดือน ต.ค.
จุดเดิมพันคือข้อเรียกร้องสำคัญ คิวแก้รัฐธรรมนูญที่จะเข้าหารือกันในรัฐสภาวันที่ 23–24 ก.ย.นี้
มีรายการยึกยัก พลิกพลิ้วลวงเกมเด็ก ชนวนเหตุยาวแน่
สรุปท่าทีทุกฝ่าย วันนี้ยังมีช่องหายใจ ตุลาฯเดือนอาถรรพณ์ ค่อยลุ้นอภิมหาเบิ้มๆอีกที
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดก็ยังคาดเดาเหตุที่ “หน้างาน” ได้ยาก เพราะมีม็อบเมื่อไหร่ ก็ย่อมมีปัจจัยเสี่ยงจากปัจจัยแทรก โดยเฉพาะทฤษฎี “มือที่สาม” ในตำราเกมอำนาจ ไม่มี “เหตุ” ก็ไม่เกิดความ “เปลี่ยนแปลง”
คำถามคือ วันนี้มีคนต้องการ “เปลี่ยน” หรือยัง
ที่สำคัญคิวนี้ มีหลายปมแทรก ข้อเรียกร้องที่สูงลิ่วสะเทือนโครงสร้างหลักบ้านเมือง ขณะที่บนกระดานอำนาจ ขุมข่าย “3 ป.” ก็ดูเหมือนจะเริ่มตกเป็นเป้าขย่มเขย่าจากบางปีก “อำนาจแฝง”
แม้จะมีสัญญาณถอนกำลังรุก เริ่มอยู่ในแถวในแนว กลับมาส่งเสียงสอดคล้องเครือข่าย 3 ป. รับม็อบมากขึ้น
แต่เมื่อเปิดหน้ามารุกไล่เป็นแผง ทั้งปมแก้รัฐธรรมนูญไปจนถึงตะเพิดตรงๆใส่ผู้นำ ถึงแม้ขบวนกลับ เครือข่าย 3 ป. ก็อ่านออก “อำนาจแฝง” ซ่อนเกมแปร่ง
นาทีนี้ เมื่อยังอยู่บนเวที ซีรีส์ตอนยาวในมหากาพย์อำนาจประเทศไทยยังไม่จบ พระเอกตามท้องเรื่องก็ต้องเล่นไปตามบทบาทหน้าที่
ในจังหวะที่ชักเริ่มติดกึกติดกักไปหมด เก้าอี้ รมว.คลังว่างเว้นต้องรอตั้ง งบฯรายจ่ายรอช่วงเปลี่ยนผ่าน เลื่อนเวลาใช้ ทำได้ก็เร่งมาตรการอัดฉีดเฉพาะหน้า
ขณะที่การจัดทัพข้าราชการ ฝ่ายความมั่นคง รอสะเด็ดน้ำหลังห้วงระทึก ถึงเวลาจะผ่อนมือหรือไม่
สัญญาณรุกไล่ให้จนมุม เกม “เปลี่ยนหัว” ก็ยังต้องคอยระวัง
คนเป็นผู้นำต้องบริหารรอบทิศ นอกจากแก้ปมเศรษฐกิจตกต่ำ ปากท้องชาวบ้านยังแก้ไม่ตก
โดยเฉพาะการบริหารจัดการสถานการณ์การชุมนุมของเด็กๆ ถือเป็นคิววัดฝีมือ “บิ๊กตู่” ในคิวบังคับต้องไม่พลาดเดินเข้าสู่แดนสังหารพิฆาตอำนาจ
พลั้งมือปล่อยเหตุลามสู่จุดวิปโยค ถึงจุดนั้นก็เป็นทางบังคับ
อำนาจโยกคลอนเข้าสู่จุดเปลี่ยน หลุดจากมือที่เปื้อน.
ทีมข่าวการเมือง