ในวิถีของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ก็ยังมีเรื่องราวดีๆที่ทำให้ผู้ประสบพบเห็นรู้สึกเป็นสุขสบายใจประการหนึ่ง
นั่นคือมีผู้ใจบุญนำข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่สำเร็จรูป ไข่ไก่ น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส น้ำดื่ม ผลไม้ ขนมขบเคี้ยว และสิ่งของเครื่อง อุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น กระดาษทิชชู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ฯลฯ ใส่ตู้ ไปตั้งไว้ในที่ชุมชนพร้อมกับติดประกาศให้ผู้ที่ยากไร้ขาดแคลนมาหยิบไปกินไปใช้ได้ฟรี
แถมยังมีคนประสบพบเห็นต่างชื่นชมยินดีและนำสิ่งของมาร่วมบริจาคใส่ตู้เพิ่มเติมไม่ขาดสาย และกระแสสร้างความสุขให้คนขาดแคลนนี้แพร่ขยายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ใครมีตู้กับข้าวเก่าๆก็เอามาติดตั้งหน้าบ้าน ไม่มีก็ใช้โต๊ะ หรือกล่องใหญ่ๆอะไรก็ได้ที่สามารถบรรจุสิ่งของได้พอประมาณ บางรายใช้ตู้เย็นเก่ามาตั้งโก้ไปเลย
ที่ออกจะแปลกคือมูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่งทางภาคอีสานตัดสินใจเอาโลงศพที่ยังไม่ได้ใช้มาวางในแนวตั้งแล้วเอาไม้ทำเป็นชั้นใช้วางของก็มี
ทางราชการร้านค้าหลายแห่งก็สนับสนุนและร่วมดำเนินการอย่างแข็งขัน ต่างเรียกขานกันตามใจว่า ตู้แบ่งปัน ตู้ปันใจ ตู้แบ่งสุข ตู้ปันกันกิน ฯลฯ แต่ชื่อที่ฮิตที่สุดคือ ตู้ปันสุข
ในระยะแรกผู้ประสบพบเห็นต่างยิ้มชื่นใจและอยากมีส่วนร่วมตามกำลัง ถึงขนาดกล่าวกันว่านี่คือวิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal ไปโน่น
แต่จริงๆแล้วไม่น่าจะใช่เพราะเรื่องราวแบบนี้เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทย ถ้ามองย้อนไปในอดีตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่บ้านตำบลที่อยู่ห่างไกลเป็นแดนกันดาร เส้นทางสัญจรเป็นถนนฝุ่นลูกรัง เมื่อผ่านบ้านแต่ละหลังจะสังเกตเห็นได้ว่าที่ประตูรั้วทางเข้าบ้านหลายแห่งมีโอ่งดินเผาเล็กๆใส่น้ำฝนเย็นชื่นใจพร้อมกระบวยให้คนผ่านทางตักดื่มแก้กระหาย บ้านที่มีที่ทางมากหน่อยอาจสร้างศาลาเล็กๆมุงจาก ให้นั่งพักผ่อนเอนหลังและนอกจากโอ่งน้ำแล้วยังมีผลไม้ตามฤดูกาลแขวนไว้ให้หยิบกิน ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาที่สุดก็คือกล้วยน้ำว้าที่แขวนไว้ทั้งเครือ
...
ต่อมาเมื่อความเจริญเข้าถึงถนนเริ่มเป็นถนนดำลาดยางยวดยานสัญจรได้รวดเร็ว วัฒนธรรมนี้ก็ค่อยๆจางหายไป
ย้อนกลับมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน ในขณะที่ทุกคนที่พบเห็นต่างยิ้มปลาบปลื้มมีความสุขกับการช่วยเหลือคนเป็นทุกข์เพราะความขาดแคลน ก็มีการกระทำอย่างหนึ่งของคนไร้สติเห็นแก่ตัวด้วยการยกพวกมากอบโกยสิ่งของในตู้ไปคราวละมากๆ เช่น ยกน้ำดื่มไปเป็นแพ็กเป็นโหล กวาดทุกอย่างใส่ถุงขนาดใหญ่อย่างไม่เกรงใจใคร
เล่ากันว่าบางรายขี่จักรยานขนของมาใส่ตู้จากไปยังไม่ทันคล้อยหลังก็มีรถปิกอัพเข้ามาเทียบแล้วลงมาขนของไปจนหมดตู้ บางรายก็ขี่ จยย.ซ้อนสามมาขนไปเต็มหอบ สร้างความสลดใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง
เหตุการณ์ทำนองนี้เริ่มเกิดขึ้นแทบทุกที่ ยากที่จะหาทางป้องกันเพราะถ้าใครเข้าไปทักท้วงห้ามปรามก็อาจจะมีเรื่องต้องเจ็บตัวเนื่องจากพวกนี้มิได้มาคนเดียว
คนที่อยากสร้างความสุขให้คนยากไร้จริงๆเจอเข้าก็อาจจะงดไปหรือไม่ก็ต้องย้ายตู้ไปไว้ใกล้ชุมชนที่มีกล้องวงจรปิด มีเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาล คอยดูแล หรือไม่ก็แอบถ่ายรูป ตัวบุคคลที่มีการกระทำที่น่าละอายไปประจานพร้อมกับทะเบียนรถบ้างอะไรบ้าง
แม้กระทั่งผู้นำประเทศก็ยังบ่นอึดอัดรับไม่ได้กับเหตุการณ์เหล่านี้
นี่คือความจริงวันนี้ในวิถีโควิด-19.
“ซี.12”