แล้ววันนี้ 7 ก.พ. 2563 คอการเมือง ต้องจับตาแบบไม่กะพริบอีกครั้ง เมื่อศาลรธน. นัดวินิจฉัย คดีเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งจะส่งผลไปยังปมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2563 ที่ยังล่าช้าอยู่ แน่นอนว่า ส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งจากปมไวรัสโคโรนา ที่ยังอาละวาดอยู่อย่างหนักไปทั้งโลก ไม่รวมกรณีฝุ่น PM 2.5 และสงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน ที่บั่นทอนก่อนหน้า

งานนี้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ "ศาลรธน.ตัดสิน ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน คาด ออกไดั 3 ทาง ยัน รบ.ไม่ต้องออก" ชัดเจนว่า ศาลรธน.จะตัดสินได้ใน 3 แนวทาง ที่ได้นำเสนอไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แล้วขอยืนยันไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยออกมาเป็นเช่นไร รัฐบาลบิ๊กตู่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก เนื่องจากในความเห็นของนายนิพิฏฐ์ ผู้เปิดประเด็นเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. ตั้งแต่ 20 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา จนนำมาซึ่งศาลรธน.ต้องเร่งวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ในวันนี้ เห็นว่า เป็นความบกพร่องของฝ่ายนิติบัญญัติเอง ไม่ใช่ความบกพร่องของรัฐบาล
...

มาที่ความเห็นของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กูรูฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล ยืนยัน รัฐบาลเตรียมทางออก รองรับคำวินิจฉัยศาลรธน.แล้ว แต่ไม่ตอบ พิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ใหม่ 3 วาระรวด ยอมรับ ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น ที่ศาลรธน.ท่านกรุณา พิจารณาเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นในส่วนของ "รัฐบาลกับรัฐสภา" ก็ไม่ควรชักช้า ยันพร้อมเปิดสภาสมัยวิสามัญทันที หากจำเป็น

งานนี้คงต้องรอลุ้นระทึก ว่าสุดท้ายศาลรธน.จะวินิจฉัย คดีเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งส่งผลถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ออกมาในทิศทางใด ซึ่งงานนี้ทั้งนายนิพิฏฐ์ ผู้เป็นต้นเรื่อง กับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ต่างฝ่ายต่างก็เล่นเป็นคีย์เดียวกัน คือชี้ว่า รัฐบาลเตรียมทางออกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ไม่ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล แต่เป็นความผิดของฝ่ายนิติบัญญัติ
งานนี้ก็รอลุ้นกันดู บ่ายวันนี้จะทราบผลแน่ ว่า จะต้องมีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 แบบ 3 วาระรวด ตามที่ผู้สื่อข่าวถาม นายวิษณุ หรือจะต้องใช้แนวทางอื่นในการแก้ไขปัญหาต่อไป ตามที่นายนิพิฏฐ์ คนต้นเรื่อง ได้คาดการณ์เอาไว้