ช่วงนี้ ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้คนไทย หรือจะว่าไป คนทั่วทั้งโลกหวาดผวาเดือดร้อนได้มากเท่ากับการระบาดของไวรัส "โควิด-19" ซึ่งเชื่อแน่ว่า จนถึงวันนี้ คนไทยทุกๆ คน คงแทบจะไม่มีใครยังไม่รู้ถึง "พิษสง" ของเจ้าไวรัสชนิดนี้ เพราะทำให้แทบจะเปลี่ยนวิถีชีวิตจากปกติไปเลย

ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง รวมไปถึงคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่รับบทหนักต้องทุ่มสรรพกำลัง ทั้งติดตามในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ อย่างชนิดแทบไม่กะพริบตา เพราะทั่วโลกมีคนเสียชีวิตแล้วมากมาย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากแทบจะรายวัน

ขณะในการทางการเมืองก็ต้องยอมรับว่า ทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านเอง ส่วนใหญ่ก็ถือว่าร่วมแรง-ร่วมใจกัน ฟันฝ่าอุปสรรคไปได้เป็นอย่างดี จะมีก็ส่วนน้อยที่อาจ จะนำประเด็นนี้มาเล่นเกมการเมืองเพื่อหาประโยชน์และโจมตีฝ่ายตรงข้ามบ้าง โดย คอการเมือง มักจะได้ยินการเปรียบเทียบการแก้ปัญหาของรัฐบาล 2 ยุค 1 คือ ยุคปัจจุบัน "รัฐบาลบิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งกำลังแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 อยู่อย่างเต็มกำลัง กับอีกยุคอดีต ปี 2546-2549 คือ รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งแก้ปัญหาเรื่องไข้หวัดนก H5N1 

...

ยุค “ไก่ตายเป็นเบือ” หรือ"โรคไข้หวัดนก" เกิดตั้งแต่ปลายปี 2546 ในพื้นที่ภาคกลาง คร่าชีวิตไก่ไข่ 10 ล้านตัว และไก่เนื้อกว่า 30 ล้านตัว แต่ตอนแรก กรมปศุสัตว์กลับ แถลง “ไก่ตายเพราะอากาศเปลี่ยนแปลง”

ขณะ 2 รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯในขณะนั้น ระบุ เกิดจาก"โรคหลอดลมอักเสบ"และ "โรคอหิวาต์ไก่" แถมโจมตีว่า มีประเทศคู่แข่งอย่างมาเลเซีย ปล่อยข่าวว่าไก่ไทยมีเชื้อไข้หวัดนก เพื่อตัดโอกาสส่งออกไก่เพิ่มขึ้น หนำซ้ำยังโยงไปถึงการเมืองท้องถิ่นที่หาเสียงเรียกร้องค่าชดเชยให้ชาวบ้าน

22 ม.ค.2547 นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และที่ปรึกษาด้านไวรัสขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูล เพราะผลการตรวจสอบเชื้อโรคระบาดในไก่ในระดับห้องปฏิบัติการ ชัดเจนว่าเป็น “เชื้อไข้หวัดนก”

กระทั่งผลการตรวจเชื้อในห้องแล็บของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยัน มีผู้ป่วย 2 ราย “ติดเชื้อไข้หวัดนก” ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยอีกนับ 10 ราย ทำให้ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข (ขณะนั้น) แถลงข่าวเมื่อ 23 ม.ค. 2547 ยอมรับความจริง ว่า เกิดโรคไข้หวัดนกระบาดในไก่ของไทยและติดเชื้อไปสู่คน

จน  26 ม.ค.2547 เด็กชายวัย 6 ขวบ ชาวอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ที่เป็นผู้ป่วยไข้หวัดนก 1 ใน 2 รายแรก เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นรายแรก บิดา กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า ว่า ทำไมรัฐบาลต้องปกปิด ไม่บอกความจริงว่าไก่ตายเพราะไข้หวัดนก จะได้ป้องกันไม่ให้ลูกไปใกล้ชิดกับไก่ ไม่งั้นลูกผมก็คงไม่ตาย 

27 ม.ค.2547 เด็กชายวัย 6 ขวบ ชาวอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เสียชีวิตเพราะไข้หวัดนกเป็นรายที่สอง หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก มาตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 2547 เนื่องจากต้องสงสัยว่า จะติดเชื้อไข้หวัดนก

แล้วก็มาถึง เหตุการณ์ไฮไลต์สำคัญ วันที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ประกาศว่า ถ้าใครกินไก่สุก ไข่สุกแล้วตาย จะจ่ายรายละ 3 ล้านบาท ทั้งยังจัดงานมหกรรม "กินไก่กินไข่ ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์" พร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2547 ไม่นับรวมก่อนหน้านั้นยังควง “เจ๊หน่อย” และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม กินไก่เคเอฟซีที่สาขาเสรีเซ็นเตอร์ อีกต่างหาก

ขณะในรอบปี พ.ศ. 2547 การแพร่ระบาดไข้หวัดนกไป 2 ครั้งใหญ่ๆ รัฐบาลทักษิณ สั่งฆ่าสัตว์ปีกในประเทศไปถึง 60 ล้านตัว มีผู้คนคร่าชีวิตจากไข้หวัดนกไป 12 ศพ แถมในปี 2548 ไข้หวัดนกระลอกใหม่กลับมาอีกครั้ง พบผู้ป่วย 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย และปี 2549 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รายงานว่า พบผู้ป่วย 2 ราย เสียชีวิตทั้ง 2 ราย รวมกัน 3 ปี มีผู้สังเวยชีวิตจากไข้หวัดนก ไป 16 ราย 

ขณะที่สำหรับ "ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 2019" เริ่มมีรายงานพบผู้ป่วยน่าสนใจ ดังนี้

31 ธ.ค.62 มีการรายงานเป็นครั้งแรกว่า พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบโดยไม่รู้สาเหตุในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ป่วยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

3 ม.ค.63 ประเทศไทย เริ่มดำเนินการคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน

8 ม.ค.63 กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยรายหนึ่งที่สนามบิน ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาจากอู่ฮั่น มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาฯ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมีความเสี่ยงว่า จะป่วยด้วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

ทีนี้ หันมาดู มาตรการ ดูแล  "ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่" ของรัฐบาลบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันบ้าง เร่ิมแรกเมื่อครั้งการระบาดยังเพิ่งเร่ิมต้น

1.คัดกรองผู้ติดเชื้อที่เข้ามาในประเทศ ต้องทำอย่างเข้มงวด
2.เฝ้าระวัง เมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้วต้องคุมไม่ให้มีการระบาดภายในประเทศให้ได้

โดยการติดตามอย่างจริงจังว่า ผู้ติดเชื้อได้ไปสัมผัสใคร เราต้องเฝ้าติดตามคนที่เขาสัมผัสว่ามีอาการหรือไม่ เนื่องจากโรคนี้ติดต่อกันได้ทางอากาศ จะติดต่อกันง่ายกว่าโรคซาร์ส ที่ติดต่อกันผ่านทางสารคัดหลั่งเท่านั้น

ขณะที่ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และองค์การอนามัยโลก เผยข้อมูลการระบาดของ "ไวรัสโควิด-19" หรือ ไวรัสปอดอักเสบอู่ฮั่น ซึ่งเริ่มพบผู้ป่วยกลุ่มแรก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยเป็นกลุ่มงาน และลูกค้าตลาด "ฮั่นนาน" ที่ขายสัตว์หลายชนิด รวมทั้งงูเห่า โดยข้อมูลล่าสุด 26 มกราคม 2563 พบผู้เสียชีวิตจาก "ไวรัสโควิด-19" แล้ว 56 ราย ติดเชื้ออีกกว่า 2,000 คน ในเวลาแค่ไม่ถึงเดือน

ขณะวันที่ 7 ก.พ.2563 ตัวเลขผู้ป่วยทั่วโลก มียอดเสียชีวิต  724 ราย ติดเชื้อพุ่ง 34,546 คน ขณะตัวเลขในไทย ยืนยันตัวเลขที่ 25 คน กลับบ้านแล้ว 9 คน อยู่ในโรงพยาบาล 19 คน โดยมีเข้าเกณฑ์เพิ่มเป็น 595 คน

สาเหตุการเกิดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังตอบไม่ได้ชี้ชัด ติดตามเฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่ ไวรัสโคโรน่าที่พบอยู่ใน ‘ค้างคาว’ แต่พาหะนำเชื้อเข้าสู่คนยังไม่สามารถยืนยันได้ เชื้อนี้ สามารถแพร่เชื้อติดต่อได้จากปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การสัมผัสคนป่วย หรือ พื้นผิวที่คนป่วยสัมผัสไว้ น้ำมูก น้ำลาย เสมหะปนเปื้อน และเกิดจากการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม จากการหายใจ ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายช่องทาง เช่น เยื่อบุทางเดินหายใจ,ตา,จมูก,ปาก จากการ ไอ จาม หรือ ละอองฝอยที่ฟุ้งจากฝุ่น น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ

ส่วนการป้องกัน ลดความเสี่ยง เตือนสติตัวเองไม่ให้เอามือไปแคะจมูก แคะปากโดยไม่จำเป็น หากใครเพิ่งกลับจากต่างประเทศแล้วมีอาการผิดปกติ ป่วยเกิน 14 วัน ควรรีบไปโรงพยาบาล เพราะหากตรวจพบเร็ว รักษาเร็ว มีโอกาสหายสูง

ล่าสุด เฉพาะในไทยเอง รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 หลังสถานการณ์ทวีความรุนแรง ท่ามกลางภาวะหน้ากากอนามัยยังหายาก ไข่ไก่มีราคาแพง มีผู้ป่วยจากโควิด-19 แตะหลักพันราย มีผู้เสียชีวิตถึงหลักสิบศพ โดยยังไม่มีทีท่าจะหยุดการระบาดได้โดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรัฐบาลใด หรือ ใครเป็นนายกฯ เมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาด ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวในการฝ่าฝันวิกฤติ พร้อมให้กำลังใจทีมบุคลากรทางการแพทย์ในด่านหน้าต่อสู้

โดยเฉพาะเช่นทุกวันนี้ ที่ไวรัสร้ายโควิด-19 ยังอันตราย ประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคและดูแลตัวเอง ทั้งการ #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อให้ทุกคนและประเทศผ่านอีกหนึ่งวิกฤตินี้ไปได้. 

 

เปรียบเทียบราคาทุกร้าน ที่นี่ >>> คลิก