อาจกล่าวได้ว่ากระบวนการบริหารงานบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนั้นแทบไม่มีหน่วยงานไหนในราชการที่ดำเนินการแบบโปร่งใสชัดเจนตรวจสอบได้เท่ากับวงการ ศาลยุติธรรม เพราะแต่ละขั้นตอนในการดำเนินการมีการประกาศให้ทราบล่วงหน้าเป็นระยะก่อนถึงจุดสุดท้ายคือ การประชุมอนุมัติของ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต. และถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอันใดจากการเสนอขึ้นมาตามลำดับชั้นก็กระทำลงไปอย่างเปิดเผยไม่มีลับลมคมนัย
ในปีนี้มีตำแหน่งผู้บริหาร ในศาลยุติธรรมว่างลงเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในศาลสูงสุดคือ ศาลฎีกา มาลองไล่เรียงกันดูว่าใครจะไปใครจะมาเมื่อถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ นั่นคือ ผู้บริหารที่มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์จะต้องลุกจากตำแหน่งเดิมไปเป็น ผู้พิพากษาอาวุโส ตามข้อกำหนดกฎหมาย นำทีมโดย นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา และรองประธานศาลฎีกาอีก 2 คน ในจำนวน 6 คน คือ นายชัยยุทธ ศรีจำนงค์ รองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 4 และ นางสาวบุญมี ฐิตะศิริ รองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 6
ต่อจากนั้นเป็นคิวของ ประธานแผนกคดีในศาลฎีกา ซึ่งมีอยู่ 11 แผนกคดี ต้องไปเป็นผู้พิพากษาอาวุโส เสีย 2 คนคือ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธาน แผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา กับ นายอดิศักดิ์ ปัตรวลี ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา และยังมีตำแหน่งที่ถือว่าเป็น หมายเลขสอง ในวงการ ศาลยุติธรรม คือ ประธานศาลอุทธรณ์ นั้น ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในปีนี้ คือ นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย ก็ถึงเวลาไปเป็น ผู้พิพากษาอาวุโส เช่นกัน
มาถึงการเตรียมเสนอชื่อผู้บริหารชุดใหม่ในศาลฎีกาที่มีการจัดทำบัญชีประกาศไว้ล่วงหน้าถ้าไม่มีเหตุผลพิเศษใดๆก็จะเป็นไปตามที่เตรียมไว้คือ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ รองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 1 จะได้ขึ้นเป็น ประธานศาลฎีกา และ นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 2 ขยับ ไปเป็น ประธานศาลอุทธรณ์ ครองอาวุโสเป็นหมายเลขสองของวงการตุลาการศาลยุติธรรม
...
รองประธานศาลฎีกา 6 ตำแหน่งก็จะประกอบด้วย นายสุรพันธ์ ละอองมณี รองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 3 จะกลายเป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 1 นายธีระพงศ์ จิระภาค รองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 5 จะกลายเป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 2 แล้วมีรองประธานศาลฎีกาขึ้นมาใหม่ 4 ราย ประกอบด้วย นางเมทินี ชโลธร ประธานแผนก คดีผู้บริโภคในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 3 นายประทีป ดุล-พินิจธรรมา ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 4 นายนพพร โพธิรังสิยากร ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 5 นายอนันต์ วงษ์ประภารัตน์ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา เป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 6
ทีนี้เป็น ประธานแผนกคดี ทั้ง 11 แผนกในศาลฎีกา ที่ยังอยู่ที่เดิมถ้าไม่มีการโยกย้าย 5 รายคือ นายโสฬส สุวรรณเนตร์ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา นายวุฒิชัย หรูจิตตวิวัฒน์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา นายจินดา ปัณฑะโชติ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา นายธงชัย เสนามนตรี ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตในศาลฎีกา
จึงต้องมีการแต่งตั้ง ประธานแผนกคดี ขึ้นมาใหม่ 6 รายคือ นายประมวญ รักศิลธรรม ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา นางสาวปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา นายอธิป จิตต์สำเริง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา นางวาสนา หงส์เจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา นายพศวัจณ์ กนกนาก ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา นายนิพันธ์ ช่วยสกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตในศาลฎีกา ทั้งหมดนี้เป็นโผหลักของศาลฎีกา ถ้าไม่มีใครที่เอ่ยถึงได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
“ซี.12”