ในห้วงที่รอทำคลอดรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” รัฐบาล คสช.ที่มี “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ก็ยังต้องเดินหน้าบริหารราชการต่อไป

วันก่อน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล ตีปี๊บว่านายกฯประยุทธ์ รับทราบมติสนับสนุนความโปร่งใสในตลาดยา วัคซีน และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ของที่ประชุมใหญ่องค์การอนามัยโลก ที่กระตุ้นให้ประเทศสมาชิกต้องเผยแพร่ข้อมูลราคาที่สอดคล้องกับมาตรฐาน

เช่น ให้โรงพยาบาลเอกชนต้องแจ้งราคาซื้อ-ขายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่ารักษาเบื้องต้น โดยนายกฯขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์ได้อย่างเป็นธรรม

ความจริงปัญหาค่ายา ค่ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนแพงมหาโหดเกิดมานานแล้ว แต่อย่างดี ชาวบ้านก็ได้ แต่บ่นก่นด่าลอยลม ไม่มีใครทำอะไรได้

ขณะที่รัฐบาลทุกยุคทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้ชาวบ้านรับกรรม โดนขูดรีดค่ารักษากันจนหน้าเหี่ยวหน้าย่น

เพิ่งในยุครัฐบาล คสช.ของ “ลุงตู่” นี่แหละ ที่เอาจริงเอาจัง ออกมติ ครม.ไฟเขียวให้กระทรวงพาณิชย์จัดระเบียบควบคุมราคาไม่ให้เว่อร์เกินเหตุ

...

ทั้งนี้ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศการแจ้งราคา หลักเกณฑ์ เงื่อนไขการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์และบริการอื่นของสถานพยาบาล มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา

กำหนดให้โรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายส่ง ต้องแจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการ เบื้องต้น 3,892 รายการ

และให้โรงพยาบาลที่มีการเปลี่ยนแปลงราคายาต้องแจ้งกรมการค้าภายใน ก่อนปรับราคาภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายตามที่ประกาศกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาทจนกว่าจะแจ้ง

โดยได้ส่งประกาศดังกล่าวไปให้โรงพยาบาลเอกชนทั้ง 353 แห่ง ให้แจ้งราคาซื้อขายภายใน 45 วัน หรือภายใน 12 ก.ค.นี้ ถ้าไม่แจ้งจะมีโทษตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

ทั้งนี้ หลังได้ข้อมูลครบแล้วจะนำขึ้นเว็บไซต์กรมการค้าภายในเพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนต้องเปิดเผยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวก

ที่สำคัญประกาศดังกล่าวยังกำหนดเรื่องใบสั่งยา โดยให้โรงพยาบาลเอกชนประเมินค่ายา ค่ารักษาเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบก่อนจำหน่าย หรือให้บริการ และการจำหน่ายยาสำหรับผู้ป่วยนอก ต้องออกใบสั่งยาโดยแจ้งราคายาให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้าและต้องระบุชื่อสามัญทางยา ให้ผู้ป่วยสามารถนำไปซื้อยาภายนอกได้

หากไม่ปฏิบัติตาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จัดหนักกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ จากข้อมูลกรมการค้าภายในที่เคยตรวจสอบราคาซื้อขายยาแต่ละชนิด พบว่าโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง ฟันกำไรส่วนต่างค่ายา 300-16,000%

ค้ากำไรเกินควร ขูดรีดเงินจากผู้ป่วยมาช้านาน จนเจ้าของกิจการรวยสะดือปูดสะดือปลิ้นไปตามๆกัน

วันนี้ถ้ายังไม่เลิกพฤติกรรมสูบเลือดสูบเนื้อคนไข้ มีสิทธิติดคุกหัวโตนะโยม!!!

“พ่อลูกอิน”