"บิ๊กป้อม" เปิด กอ.ร่วมพระราชพิธีทำงาน 24 ชม. เชื่อมโยงข้อมูลทุกจุดสั่งสแกน 3 มิติ บนดิน-ฟ้า-อากาศ ทุกตารางนิ้ว ซอย-แยก-วัสดุ-บุคคล ตั้ง ผบช.ภ. 6 โซน คุมพื้นที่สั่งติดตามทุกการข่าวความเคลื่อนไหวพร้อมปรับแผนรับมือ 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ห้องยุทธนาธิการ ภายในกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย และอำนวยการการจราจรพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้น พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. นายวิทยา ยาม่วง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ร่วมกันแถลงผลการประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย และอำนวยการการจราจรพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันนี้กองอำนวยการร่วมฯ จะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในส่วนงานด้านการข่าว ปรากฏว่าพี่น้องประชาชนคนไทยต่างมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมในทุกจังหวัดเป็นอย่างดี ยังไม่ปรากฏข้อมูลข่าวสารใดที่ส่งผลกระทบต่อพระราชพิธีต่างๆ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวแสดงความห่วงใยและได้สั่งการให้ 1. มีการประชุมทุกวันในเวลา 09.00 น. โดยจะมีประธานทั้งในส่วนของหน่วยงานกระทรวงกลาโหม ผบ. เหล่าทัพ ตำรวจ หมุนเวียนเป็นประธานรวมถึง 40 หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในการถวายความปลอดภัยจะดูแลจราจรโดยก่อนเวลา 12.00 น. ของทุกวันจะสรุปผลการประชุมรายงานให้รองนายกรัฐมนตรีได้รับทราบเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหา

2. ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามข่าวสารข่าวกรอง รวมถึงข้อมูลต่างๆ อย่างใกล้ชิด เกาะติดการข่าวทุกๆ สถานการณ์ เพื่อจะได้ปรับแผนปฏิบัติวางแนวทางต่างๆ ให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง

...

3. ให้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 โซน ในการดูแลความปลอดภัย และการจราจร โดยมอบหมายให้ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 คนพร้อมตัวแทนฝ่ายทหารฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยกันทั้ง 6 โซน ซึ่งต้องไปพิสูจน์ทราบ ข้อมูลส่วนบุคคลยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ ทั้งบนฟ้า ในน้ำ ในอากาศ บนดิน สแกนทุกอย่าง ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปจนสิ้นสุดพระราชพิธี 

4. ต้องมีการซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงานในทุกระดับ ผู้ปฏิบัติและผู้บังคับบัญชา รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมปฏิบัติ ผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องเข้าใจตรงกันในขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้น ทุกคนต้องรู้หน้าที่ตัวเองว่าจะต้องทำอะไร

5. การปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 6 โซนและจุดคัดกรองทั้ง 21 จุดให้นำเทคโนโลยีทั้งของตำรวจและทหาร ฝ่ายข่าวกรอง กสทช. รวมถึงโทรคมนาคมต่างๆ ทั้งระบบสแกนใบหน้า การพิสูจน์ทราบบุคคลระบบฐานข้อมูล CCTV ต่างๆ ให้ติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลาในการเชื่อมโยงข้อมูลทุกจุดมายังกองอำนวยการร่วมฯ ตลอด 24 ชั่วโมง

6. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ โดยเฉพาะผู้บัญชาในระดับโซนและจราจรต้องลงลึก เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทุกหน่วย โดยเป็นการทำงานลงในรายละเอียดจริงๆ ทุกพื้นที่ การรายงานจราจรต้องตรวจดูทั้งสี่แยก ในซอย บุคคล รถยนต์เข้า-ออกที่เป็นประจำ มีการวางระบบอย่างชัดเจน

7. ข้าราชการทุกนายถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสุด ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ขอให้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ที่สุดให้สมพระเกียรติและเป็นไปตามพระราชประสงค์

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พูดจิตอาสาประชาชน จิตอาสาจากส่วนราชการ รวมถึงจิตอาสาเฉพาะกิจ จะมีการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.นี้ อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพิธีอันยิ่งใหญ่ของคนไทย กองอำนวยการร่วมฯ จะทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เพราะถือว่าพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นแขกของพระองค์ท่าน โดยจะจัดไฟส่องสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกของประชาชนที่จะต้องอยู่ในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงการจัดที่รองนั่งเช่นเดียวกับช่วงที่ประชาชนมาร่วมงาน ร.9

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวถึงการปิดการจราจร ในช่วงการเชิญน้ำอภิเษกของริ้วขบวนจากกระทรวงมหาดไทยถึงวัดสุทัศน์ จำนวน 7 เส้นทางเรียบร้อยดี และในช่วงเย็นจะมีพิธีเสกน้ำอภิเษกที่วัดสุทัศน์ โดยจะไม่มีการปิดการจราจรแต่จะอำนวยความสะดวก ส่วนในวันที่ 19 เมษายน จะมีพิธีเชิญน้ำอภิเษก จากวัดสุทัศน์ไปพระบรมมหาราชวัง จะปิดช่องทางจราจร 16 เส้นทางตั้งแต่ 06.00 น. ถึง 11.00 น เป็นระยะทาง 1,890 เมตร ที่ริ้วขบวนจะเดินผ่านใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยยืนยันว่าจะทำให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ในวันที่ 21 เม.ย.จะซักซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค จะเตรียมความพร้อมให้มากยิ่งขึ้นโดยจะไปเส้นทาง 40 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 22.00 น. ถ้าประชาชนสงสัยสามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 1197 และ www.police.go.th.

นายวิทยา กล่าวว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เตรียมรถโดยสารทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 960 คัน ใน 27 จุดจาก 16 เส้นทางเพื่อนำประชาชนเข้าร่วมพระราชพิธี ขณะที่พื้นที่ภายในกรุงเทพฯ จะจัดรถชัตเติ้ลบัสรับส่งใน 16 เส้นทางในระหว่างวันที่ 2- 6 พ.ค. รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทยจะจัดรถบริการประชาชนจากขบวนรถปกติจะเพิ่มขบวนรถพิเศษจากนครปฐม มหาชัย อยุธยาและฉะเชิงเทรา รวมทั้งจัดเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง ขณะเดียวกันได้เตรียมรถยกไว้ช่วยเหลือประชาชนประสบปัญหารถเสีย.