อย่ากลับไปสู่จุดเดิม
คงหวังว่าจะกระแทกใจชาวบ้านเพื่อหวังผลชนะการเลือกตั้ง นอกเหนือจากนโยบายซึ่งแต่ละพรรคจะต้องนำเสนอต่อสังคมเพื่อเรียกคะแนน
แต่มีการเปิดประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง
นั่นคือการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อ้างว่าเป็น “รัฐธรรมนูญเผด็จการ” ไม่ใช่ประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่พยายามที่จะนำประเด็นนี้เป็นหัวข้อสำคัญในการนำมาใช้เพื่อรณรงค์หาเสียง
เสียงดังมากสุดก็คือนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทย ที่ส่งเสียงมาจากนอกประเทศ จากนั้นบรรดาแกนนำพรรคต่างก็ทยอยนำเรื่องนี้มาเป็นการประกาศนโยบายพรรค ซึ่งมี 2 เรื่องใหญ่
1.แก้ไขรัฐธรรมนูญทันที
2.ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
แน่นอนว่าทั้ง 2 ประเด็นนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของ คสช.โดยตรง เพราะเป็นแนวคิดเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเมือง คือกำหนดกฎหมายกติกาใหม่ทั้งระบบของรัฐธรรมนูญจนได้รับฉายาว่า “ฉบับปราบโกง”
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นถูกข้อหาว่าเป็นยุทธศาสตร์เพื่อสืบทอดอำนาจมากกว่าการพัฒนาประเทศด้วยการกำหนดกรอบเอาไว้เพื่ออนาคต
ทั้ง 2 เรื่องนี้ถือว่าเป็น “หนามตำใจ” นักการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับ คสช. โดยคำอ้างว่าพวกเขานั้นคือประชาธิปไตย
เท่าที่รับฟังเสียงจากผู้คนในสังคมกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่มองกันว่าจะสร้างปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาอีก
เนื่องจากจะต้องมีฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายค้าน
สังคมการเมืองไทยที่ผ่านมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญล้วนเป็นปมปัญหาให้เกิดความขัดแย้งมาตลอด เพราะมีความเห็นที่ต่างกัน
จะมีก็รัฐธรรมนูญปี 2540 สมัยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการเมือง และนำมาซึ่ง รัฐธรรมนูญฉบับนี้
...
ถือว่าเป็นประชาธิปไตยที่งดงามกว่าทุกฉบับที่ผ่านมา แต่ที่สำเร็จได้เพราะสังคมส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องดำเนินการเพื่อยุติปัญหาทางการเมือง
อีกด้านหนึ่งระบุว่า การเลือกตั้งเพิ่งเริ่มต้นหลังจาก คสช.ควบคุมอำนาจการปกครองประเทศมาราว 5 ปี
ปัญหาที่ทุกคนต้องการให้แก้ไขคือเศรษฐกิจปากท้องมากกว่า
นี่เป็นความต้องการซึ่งไม่ต้องไปทำโพลหรืออะไรก็ทราบกันดี จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนมาตลอด
พบว่า “เศรษฐกิจ” โดยเฉพาะปากท้องนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
เป็นเรื่องที่พรรคการเมือง นักการเมืองจะต้องเล็งเห็นความจริงในข้อนี้ว่าจะต้องออกนโยบายและสร้างความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้น
คือนโยบาย วิธีการ และความเป็นไปได้
ไม่ใช่พูดไปเรื่อยหรืออาศัยความผิดพลาดของรัฐบาลชุดปัจจุบันมาสร้างโวหาร
ดังนั้น การเริ่มต้นก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะเป็นเรื่องผิดประเด็น ผิดเงื่อนเวลา และไม่ได้แก้ไขปัญหาที่เป็นจริง
เป็นแค่การสร้างนโยบายเพื่อหวังผลให้เกิดความขัดแย้งมากกว่า.
“สายล่อฟ้า”