บิ๊กตู่เมินโพลชเลียร์
“พรเพชร” ชงศาล รธน.ตีความร่างกฎหมายลูก ส.ว.แล้ว โต้ กรธ.ตัดสิทธินอนหลับทับสิทธิห้ามเป็น ขรก.การเมือง-ช่วยคนพิการกาบัตรไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ไร้ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ส่งร่าง ก.ม.เลือกตั้ง ส.ส.ให้นายกฯ โบ้ยใครกังวลควรร้องชี้ขาดแต่เนิ่นๆ ตีปาก “สมชาย” ไม่สมควรพูดให้พรรคการเมืองลงสัตยาบันเลื่อนโรดแม็ป 3 เดือนแลกส่งชี้ขาด พ.ร.บ.ส.ว. “วิษณุ” ชี้ช่องยื่นให้เสร็จ อย่าหลายขยัก ชี้ส่งวินิจฉัย 2 ฉบับปมข้อกฎหมายใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ กกต.หวั่นขี้แพ้ชวนตีหาเหตุร้องทีหลัง “ประวิตร” ขอเลิกพูดยื้อเลือกตั้ง “บิ๊กตู่” เมินนิด้าโพลเชียร์คั่วนายกฯ “มาร์ค” ฉะ สนช.โยนเผือกร้อนให้นายกฯ สองพรรคใหญ่ถล่มนายกฯเรียกพรรคการเมืองสกรีนนโยบายหาเสียง “วิรัช” หยันลูกไม้ตื้นๆจ้องลอกนโยบายคนอื่นไปต่อยอด “อ๋อย” สับกงการอะไรมาจิกถาม
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงนามส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.แล้ว และส่งร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ระบุหากฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกังวลว่าจะขัดรัฐธรรมนูญควรใช้สิทธิยื่นตีความเสียแต่เนิ่นๆ ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุควรส่งตีความให้จบสิ้น อย่าทำหลายขยัก
“พรเพชร” ชง ก.ม.ลูก ส.ว.ถึงศาล รธน.
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 19 มี.ค. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า ได้ลงนามส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 มี.ค. มีสมาชิก สนช.ลงชื่อส่งเรื่องให้ตีความ 30 คน ส่วนที่ สนช.บางคนเสนอให้พรรคการเมืองทำสัตยาบันยินยอมเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้งไป 3 เดือน แลกกับการยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ไม่มีความเห็น แต่ไม่สมควรพูด
...
จากนั้นนายพรเพชรได้แจกเอกสารบันทึกความเห็นของประธาน สนช. ต่อกรณีการส่งร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และไม่ส่งร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. แก่สื่อมวลชน โดยตั้งข้อสังเกตการยื่นร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว.ต่อศาลฯไม่น่าจะมีผลกระทบต่อโรดแม็ปการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการเลื่อนวันบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน น่าจะเพียงพอสำหรับกระบวนการทั้งหมด
โต้ กรธ.ยกมติศาล รธน.เทียบไม่ได้
นายพรเพชรระบุว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ประธาน กรธ.ตั้งข้อสังเกตความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ในการตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง และการให้คนพิการที่ไม่สามารถลงคะแนนเสียงด้วยตัวเอง ให้มีบุคคลช่วยเหลือลงคะแนนในคูหาเลือกตั้งได้นั้น เห็นว่าประเด็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะไม่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง เป็นหลักการที่ถูกต้องแล้ว เพื่อส่งเสริมให้บุคคลตระหนักถึงหน้าที่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง ตำแหน่งข้าราชการการเมืองมีจำนวนน้อย จึงกระทบบุคคลในวงแคบมาก ดังนั้นการจำกัดสิทธิเสรีภาพย่อมทำได้ด้วยบทบัญญัติกฎหมาย เมื่อมีเหตุผลที่สมควร ไม่น่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ส่วนการให้คนพิการมีบุคคลช่วยเหลือลงคะแนนเสียงในคูหา เห็นว่าควรมีการช่วยเหลือให้การใช้สิทธิสมบูรณ์ถูกต้อง คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่ กรธ.อ้างมานั้น ไม่อาจนำมาปรับใช้ได้ว่าเป็นกรณีเดียวกับข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญที่นำมาเปรียบเทียบ เนื่องจากมีคนรู้การลงคะแนนเพิ่มอีกคนเดียว ไม่ใช่การเปิดเผยต่อสาธารณชน การใช้สิทธิเช่นนี้ของคนพิการมีน้อยมากในแต่ละคูหา ตรงข้ามเป็นการรับรองสิทธิคนพิการทางการเมือง สอดคล้องวิธีปฏิบัติที่เป็นสากล

ส่งร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ให้นายกฯ
นายพรเพชรระบุว่า นอกจากนี้ หากมีการยื่นร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.ต่อศาลรัฐธรรมนูญจะส่งผลให้การประกาศใช้ช้าไปกว่าเดิม 2 เดือน แม้ไม่นาน แต่เมื่อ สนช.เชื่อมั่นว่าเนื้อหาไม่มีปัญหาความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงไม่เข้าชื่อเสนอให้ศาลฯวินิจฉัย จึงส่งร่าง พ.ร.บ.ไปยังนายกฯเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนความห่วงใยผลกระทบการไม่ยื่นคำร้องให้ตีความ ที่เกรงว่าหากมีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลฯในภายหลัง อาจมีผลกระทบต่อโรดแม็ปนั้น กรณีการตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากศาลฯวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะ ผู้ถูกตัดสิทธิจะได้รับสิทธินั้นคืน โดยไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. จึงไม่กระทบโรดแม็ป
โบ้ยใครกังวลยื่นชี้ขาดแต่เนิ่นๆ
นายพรเพชรระบุต่อว่า ประเด็นให้ผู้พิการมีผู้ช่วยเหลือในคูหาเลือกตั้ง หากกังวลจะขัดรัฐธรรมนูญ ผู้เกี่ยวข้องควรใช้สิทธินี้ เมื่อร่าง พ.ร.บ.นี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ศาลฯวินิจฉัย หากวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะ สิทธิของผู้พิการที่ได้รับความช่วยเหลือจะหายไป ไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไรก็ตาม จะมีผลกระทบ หากศาลฯวินิจฉัยประเด็นนี้เป็นโมฆะ หลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้วอาจมีผลต่อการนับคะแนนได้ ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องที่เห็นว่าบทบัญญัตินี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแต่เนิ่นๆก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่า สนช. พิจารณาด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังไม่ให้มีบท บัญญัติใดขัดรัฐธรรมนูญ
กมธ.ระบุมีเครื่องมือช่วยผู้พิการ
นายวิทยา ผิวผ่อง สมาชิก สนช.ในฐานะอดีตประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด่วยการเลือกตั้ง ส.ส.กล่าวถึงกรณี กรธ.เป็นห่วง สนช.ไม่ยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. อาจทำให้วุ่นวาย หากมีผู้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยภายหลังการเลือกตั้งว่า มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหา ที่ กรธ.ทักท้วง เช่น การให้เจ้าหน้าที่ กกต. กาบัตรแทนคนพิการเป็นแค่วิธีปฏิบัติ ถ้าศาลเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ตัดทิ้งไป ข้อกังวลว่าการลงคะแนนไม่เป็นความลับ กฎหมายลูก ส.ส.เขียนไว้ให้เจ้าหน้าที่ กกต.ช่วยอำนวยความสะดวกได้ทราบว่า กกต.มีเครื่องมือช่วยคนพิการโดยเฉพาะ เช่น คนพิการมือแขนด้วน แม้เจ้าหน้าที่ กกต.จะเป็นคนกาบัตรแทนให้แต่จะมองไม่เห็นว่ากาเบอร์อะไร กกต.ต้องไปเตรียมการ คงไม่ใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่กาบัตรแทน อาจเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญได้
ข้างน้อยผวาวุ่นหนัก ลต.เป็นโมฆะ
นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิก สนช.ในฐานะอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวว่าเป็น กมธ.เสียงข้างน้อยที่เคยทักท้วงในชั้น กมธ.ว่า การตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้ สิทธิเลือกตั้ง ไม่ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และการให้เจ้าหน้าที่ กกต.กาบัตรลงคะแนนแทนคนพิการอาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมายังเคยเสนอให้ยื่นตีความทั้งกฎหมายลูก ส.ส. และ ส.ว.ให้ชัดเจน เป็น สนช.ตัวเล็กๆคงทำอะไรไม่ได้มาก ฟันธงได้เลยว่า หากไม่ยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ให้ชัดเจนตั้งแต่ตอนนี้ ภายหลังกฎหมายประกาศบังคับใช้แล้ว จะมีผู้ไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญแน่ ยิ่งถ้าไปยื่นตีความหลังจัดการเลือกตั้งเสร็จแล้ว และศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญยิ่งยุ่งกันใหญ่ ต้องคิดว่าใครจะเป็นผู้แก้เนื้อหาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตอนนั้น กรธ.ไม่อยู่แล้ว ยังต้องดูว่าศาลจะตีความให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ ถ้ามองว่าการให้เจ้าหน้าที่ กกต.กาบัตรแทนคนพิการ ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นความลับย่อมมีผลกระทบต่อคะแนนเลือกตั้ง ที่ผ่านมาแค่หันคูหาเลือกตั้งผิดฝั่ง ศาลรัฐธรรมนูญยังลงมติให้เลือกตั้งเป็นโมฆะมาแล้ว เที่ยวนี้ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติอย่างไร

“อุดม” เชียร์ยื่นวินิจฉัยให้ชัด
นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า สนับสนุนฝ่ายที่เกี่ยวข้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย การเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนเข้าสู่กระบวนการประกาศใช้ เป็นกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งในภายหลัง แม้ขณะนี้หลายฝ่ายมองว่าหากยื่นตีความช่วงนี้อาจกระทบโรดแม็ปเลือกตั้งเดือน ก.พ. 2562 แต่ทางออกที่ดีที่สุดควรวางเป้าหมายให้ชัดเจน ก่อนการเลือกตั้ง เรื่องกระทบโรดแม็ปเลือกตั้ง กรธ. กังวลใจเช่นกัน แต่หากปล่อยให้กฎหมายบังคับใช้แล้วมีผู้ได้รับผลกระทบ เช่น กรณีเลือกตั้งที่เกิดจากการใช้ผู้ช่วยผู้พิการว่าไม่เป็นการออกเสียงทางตรงและลับ ไม่ทราบว่าจะมีคนยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของความคิดเห็น เมื่อ เกิดกรณีดังกล่าวจะทำให้การเลือกตั้งเสียไปหรือไม่
“วิษณุ” แนะทำให้เสร็จอย่าหลายขยัก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีหากต้องยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.อีกฉบับด้วยว่า ถ้ายื่นให้ตีความอีกฉบับต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่นาน เท่าไร เพราะเป็นข้อกฎหมายไม่ได้ต้องสืบพยาน มีแต่นัดมาแถลงจึงทำได้เร็ว อย่างไรก็ตาม การยื่น ประเด็นเดียวจะใช้เวลาน้อย ถ้ายื่น 2-3 ประเด็นจะใช้เวลามากขึ้น แต่รวมแล้วไม่คิดว่าจะยาวนานเท่าไร เมื่อถามถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช.เสนอให้นักการเมืองมาลงสัตยาบันขยายเวลาการเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือน หากจะให้ยื่นตีความ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.อีกฉบับ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่าจะนานขนาดนั้น และไม่รู้ว่าสัตยาบันที่นายสมชายเสนอคืออะไร ไม่มีความเห็น เมื่อถามว่า ถ้ายื่นให้ตีความทั้ง 2 ฉบับ ระยะเวลาการตีความจะไม่ต่างกับการยื่นเพียงฉบับเดียวใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมี 9 คน แบ่งงานกันได้ เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ปิดประตู กันนั่งคิด เมื่อถึงเวลานัดมาประชุมกันแล้ววินิจฉัยถือว่าจบ ทำเหมือนตอนตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. ดังนั้น ยื่นให้เสร็จแล้วกัน อย่าไปหลายขยัก

คสช.เจ้าภาพนัดคุยพรรคเก่า
เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่าเดือน มิ.ย.นอกจากจะมีการประกาศวันเลือกตั้ง จะเชิญพรรคการเมืองมาพูดเรื่องนโยบายและแผนการบริหารประเทศ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ คสช.เป็นเจ้าภาพประชุม เมื่อพบกันแล้วอาจมีการหารือเรื่องอื่นด้วย แต่ไม่รู้ว่าใครจะทำอะไร และจะคุยอะไรกันบ้าง
“ประวิตร” ขอเลิกพูดยื้อโรดแม็ป
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งข้อสังเกตว่า สนช.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปว่า ขอให้เลิกพูดเรื่องนี้ การตีความกฎหมายลูกอยู่ในระยะเวลาที่เผื่อไว้แล้ว และที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการยื้อการเลือกตั้งนั้น จะไป ยื้อได้อย่างไร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยพูดเอาไว้ว่า เวลามีการเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้แล้ว
ยังไม่พูดหนุน หน.คสช.ไปต่อ
เมื่อถามถึงกรณีนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯคนต่อไปมากที่สุดว่า ผลสำรวจออกมาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ส่วนตนจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปหรือไม่ยังไม่ขอพูด เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์จะเปิดตัวรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอบไปแล้วเรื่องนี้ต้องไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประยุทธ์คงไม่มาปรึกษาอะไรกับตนเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะตนไม่เล่นการเมือง เมื่อถามย้ำว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์รับตำแหน่งดังกล่าวจริง จะสนับสนุนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะรับเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคดังกล่าวหรือไม่ จะเหมาะสมหรือไม่ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา

“บิ๊กตู่” ไม่สนโพลนำโด่งคั่วนายกฯ
เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพล ระบุกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สนับสนุนให้เป็นนายกฯมากกว่าบุคคลอื่น พล.อ.ประยุทธ์ตอบสั้นๆระหว่างเดินผ่านกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า “ก็เรื่องของโพล ทำงานก่อน” ก่อนจะเดินก้าวขึ้นรถออกไปทันที
“มาร์ค” ชี้โยนเผือกร้อนให้นายกฯ
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกฯ กล่าวถึงกรณีสนช. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ฉบับเดียวว่า สนช.อาจกลัวถูกมองว่าเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไป แต่ผิดธรรมชาติ เพราะนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ได้เตือนตั้งแต่ต้น แต่ สนช.ยืนยันว่าไม่มีปัญหา ไม่กล่าวหาเป็นทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่ แต่การใช้อำนาจหน้าที่ของ สนช.กับแม่น้ำแต่ละสายสร้างปัญหาตลอดเวลา จนทำให้ไม่มั่นใจเดินตามโรดแม็ป กระทบความเชื่อมั่นของรัฐบาลและ คสช. เวลานี้เริ่มไม่มั่นใจร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.ว่าจะเป็นปัญหาหรือไม่ แต่ สนช.ไม่กล้าส่ง จึงอาจจะโยนเผือกร้อนไปให้นายกฯ ผู้จะแก้ปัญหานี้คงหนีไม่พ้นหัวหน้า คสช. ควรทำ 2 อย่าง คือ 1.ทำให้กฎหมายไม่มีปัญหา 2.อย่าให้กระทบโรดแม็ป ไม่อยากให้ใช้มาตรา 44 เพราะนายกฯมีอำนาจจะแก้สถานการณ์นี้ได้ แต่หากไม่ทำจะเป็นคำตอบว่าสมคบคิดกันหรือไม่
ซัดเตะถ่วงรับเงินเดือนพุงกาง
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า การที่ร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อแบ่งเขตช้าพรรคการเมืองดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆล่าช้า ส่วน สนช.จะถูกมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ยิ่งเลือกตั้งช้า สนช.จะอยู่นานขึ้น เป็นข้อเท็จจริงปฏิเสธไม่ได้ อีกทั้งมีคนตั้งข้อสังเกตรับเงินเดือนหลายทาง ไม่คิดว่า สนช.ส่วนใหญ่จะมองตรงนั้นเป็นหลัก แต่สมควรถูกวิจารณ์การออกกฎหมายไม่รอบคอบ
สับลูกไม้ตื้นๆ ขอดูนโยบายคนอื่น
นายวิรัช ร่มเย็น อดีต ส.ส.ระนอง และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกฯจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองหารือเพื่อขอทราบนโยบายการเลือกตั้งว่า ลูกไม้ตื้นๆคงไม่มีพรรคใดตกหลุมพรางของนายกฯ ต้องถามกลับว่าคิดอะไร ไม่ใช่หน้าที่ แต่ละพรรคมีสิทธินำเสนอนโยบายหลัก นโยบายรองในการเลือกตั้งกับประชาชนโดยตรงได้อยู่แล้ว เสมือนสินค้าให้ประชาชนได้เลือก ท่านอ้างสิทธิใดจะขอรับทราบนโยบายแต่ละพรรค ถ้ารับทราบข้อมูลก่อน อาจนำไปต่อยอดให้พรรคนอมินีที่สนับสนุนทหารใช้หาเสียงต่อยอด เอาเปรียบมากเกินไปหรือไม่ ยิ่งมีข่าวว่าจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ สนับสนุนให้เป็นนายกฯคนนอกต่อ ยิ่งไม่มีสิทธิเพราะสวมหมวกได้หลายใบ วันนี้อาจเลือกเป็นผู้คุมกติกา แต่เมื่อรู้โจทย์รู้จุดอ่อนจุดแข็งของคู่แข่งขันแล้ว นอกจากจะคัดลอกเพื่อต่อยอดนโยบายพรรคอื่นแล้ว อนาคตยังสวมหมวกเป็นผู้เล่นเองได้ เป็นการใช้อำนาจเอาเปรียบคู่แข่งขันหรือไม่ อย่างไร

พท.บี้รับผิดชอบแก้เองชงเอง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจภาพรวมคะแนนรัฐบาลเต็ม 10 ได้แค่ 5.35 ว่า ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปราบโกง เพราะพบทุจริตในวงกว้าง ท่าทีของนายกฯให้ลดราวาศอกกับปมแหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน หรือ สนช.ที่ถูกมองว่าใช้แท็กติกกฎหมาย ยื้อการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ นายสมชาย แสวงการ บอกให้พรรคการเมืองต้องร่วมทำสัตยาบันเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือนนั้น แม่น้ำห้าสายร่างกฎหมายเองแก้เอง แล้วสงสัยเองว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จนต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ชงเองแก้เอง เพื่อยื้อเลือกตั้งเองหรือไม่ ใครควรต้อง รับผิดชอบการเสียโอกาสเลือกตั้งต้องล่าช้าออกไป อย่ามาโบ้ยให้พรรคการเมือง นักการเมืองหรือประชาชน
กงการอะไรผู้นำจะมาจิกถาม
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ แกนนำ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช.ยื่นเงื่อนไขพรรคการเมืองลงสัตยาบันให้เลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้งไปอีก 3 เดือนแลกส่งศาลฯชี้ขาดร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า เกี่ยวอะไรกับพรรคการเมือง ผู้มีหน้าที่ หากไม่ยื่นตีความก็ไม่เกิดเหตุเลื่อนเลือกตั้งออกไป ถ้ายังไม่ปลดล็อกพรรคก็ยังทำอะไรไม่ได้ ส่วนที่นายกฯจะเรียกทุกพรรคคุยถามนโยบายพัฒนาประเทศในเดือน มิ.ย. ถามว่ามีหน้าที่กงการอะไรเรียกไปถามนโยบาย เท่าที่ดูรัฐธรรมนูญไม่ปรากฏมีหน้าที่นี้ การเชิญแบบนี้ป่วยการที่พรรคการเมืองจะไปร่วม นโยบายเป็นเรื่องต้องไปบอกกับประชาชน ไม่ใช่มาบอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ สิ่งที่ควรทำมากกว่าคือปลดล็อก พรรคการเมืองไม่ควรไปตามคำเชิญ เพื่อไม่ให้นายกฯคิดว่าเป็นผู้วิเศษ
กกต.ตั้งทีมเช็กใส่ร้ายในโซเชียล
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการการได้มาซึ่ง ส.ว.การเลือกตั้ง ส.ส.และการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อม โดยนายบุญส่งกล่าวว่า ขอฝากให้ดูการควบคุมการใช้งบประมาณหาเสียงของพรรคการเมือง ควบคุมได้จริงหรือไม่ ส่วนการใส่ร้ายกันผ่านโซเชียลมีเดีย ได้ตั้งคณะทำงานไว้แล้วแต่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ขนาดไหน อาจเป็นปัญหาในอนาคต หากมีคนใส่ความผู้สมัครรายใดจนทำให้ไม่ได้รับเลือกจะทำอย่างไร หากผู้สมัครที่ชนะไปมีส่วนกับการใส่ร้าย จะถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบหรือไม่ จะประกาศผลเลือกตั้งได้เลยหรือต้องให้ใบเหลืองก่อน
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต.รักษาการเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประสานงานกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) หาแนวทางว่านอกจากเป็นความผิดการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์แล้ว จะหยุดการกระทำจำเป็นต้องร้องต่อศาล หรือใช้อำนาจรัฐมนตรีสั่งปิดเพจ

ขีดเส้น 70 วันเฟ้น กกต.ชุดใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต.ใหม่นัดแรก โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ในฐานะกรรมการสรรหา กกต. เผยว่า ที่ประชุมตกลงให้ลดเวลาสรรหาเหลือ 70 วัน นับตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. เดือน พ.ค. จะส่งรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาให้ สนช.พิจารณาได้ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นยังอยู่ในกรอบ 90 วัน จะกำหนดประกาศวันรับสมัครวันที่ 26 มี.ค.-9 เม.ย. ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ไม่ส่งตัวแทนร่วมด้วย แจ้งว่าหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการสรรหาไม่ได้ ส่วนองค์กรอิสระอื่นส่งครบ ยืนยันว่ายังไม่มีการทาบทามให้ใครมาสมัคร จะประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลให้บุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาสมัคร เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติ กกต.แบบมหาเทพ ต้องเป็นข้าราชการตั้งแต่อธิบดี หัวหน้าส่วนราชการหรือศาสตราจารย์มาแล้ว 5 ปีขึ้นไป หากเป็นสายผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น แพทย์ ทนายความ วิศวกร สถาปนิก ต้องทำงานมา 20 ปีขึ้นไป
ศาลฎีกาเปิดรับสมัครรอบสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 มี.ค. นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ลงนามในประกาศศาลฎีกา เรื่อง คัดเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต.ใหม่ นัดประชุมใหญ่ศาลฎีกาวันที่ 26 เม.ย. เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา ชั้น 1 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ เพื่อลงมติเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. 2 คนเสนอ สนช.ให้ความเห็นชอบ โดยผู้พิพากษาในศาลฎีกาที่มีอำนาจหน้าที่เข้าประชุมและลงมติ มีสิทธิเสนอรายชื่อคนละไม่เกิน 2 รายชื่อ ผู้ประสงค์จะสมัครยื่นใบสมัครด้วยตนเองต่อเลขานุการศาลฎีกา ภายในวันที่ 21 มี.ค. ไม่เกินเวลา 16.30 น. นอกจากนี้ นายชีพยังได้ลงนามในคำสั่งศาลฎีกาเมื่อวันที่ 12 มี.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติและนับคะแนนรวม 5 คน มีนายธนิต รัตนะผล ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกาเป็นประธานกรรมการ
“บิ๊กเจี๊ยบ” ขันนอตล้างทุจริต
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช.กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคสช.เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะห้วงนี้ภาครัฐเร่งตรวจสอบ และเปิดเผยข้อมูลการประพฤติมิชอบหลายเรื่อง ทำให้สังคมตื่นตัวและเป็นผลดีต่อส่วนรวม ขอให้ทุกส่วนงานให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าว

“วัชระ” เช่าตู้ ปณ.1 รับ ขรก.แจ้งโกง
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ผ่านนายธีรพัฒน์ พิเชฐวงศ์ นิติกรชำนาญพิเศษ เลขานุการเลขาธิการวุฒิสภา ยืนยันคำพูดที่ระบุนายพรเพชรไปฟ้องผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการตรวจสอบงบฯไอซีทีรัฐสภาใหม่ 8,000 ล้านบาท นายวัชระกล่าวว่า ขอยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรนายพรเพชรไปฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 13 มี.ค. เวลา 17.18 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรควันที่ 14 มี.ค. เวลา 17.00 น. นอกจากนี้ยังรับทราบมาว่านายพรเพชร ได้โทร.ไปหานายทุนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งด้วย แทรกแซงสื่อหรือไม่ ทั้งนี้ ได้เช่าตู้ ปณ.1 ปณฝ.รัฐสภา ดุสิต กทม. 10305 ที่ตั้งอยู่ในอาคารรัฐสภา 1 เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่มีหลักฐานการทุจริตต่างๆในรัฐสภา มาส่งข้อมูลให้ ภายใต้ชื่อ “ศูนย์รับเรื่องการทุจริต”
“บิ๊กฉัตร” สั่งเพิ่มกำลังคนศูนย์ปีโป้
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการแก้ปัญหาทำการประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มอัตรากำลังคน ทั้งตำรวจ ทหารเรือ กรมเจ้าท่าและแรงงานของศูนย์แจ้งการเข้าออกเรือประมง (ศูนย์ปีโป้) ให้มีเจ้าหน้าที่ประจำทุกศูนย์ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. เป็นต้นไป ส่วนการตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวผ่านระบบสแกนม่านตา จะเก็บข้อมูลเสร็จสิ้นภายใน มี.ค. เชื่อว่าจะลดปัญหาแรงงานประมงผิดกฎหมายได้มากขึ้น ที่ประชุมยังรับทราบผลการจัดสัมมนาระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการและศาล มีผู้แทนจากสหรัฐฯเข้าร่วมด้วย เป็นครั้งแรกของไทยที่มีการพูดคุยถึงกระบวนการยุติธรรมด้านประมง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจไปในทางเดียวกัน การดำเนินคดีจะรวดเร็วยิ่งขึ้น

ศาลเลื่อนสอบพยานม็อบ กปปส.
ที่ศาลอาญา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน อดีตแกนนำ กปปส.และพวกรวม 9 คน นางอัญชลี ไพรีรัก และพวกรวม 14 คน ที่ถูกอัยการฟ้องฐานเป็นกบฏและข้อหาอื่นๆ กรณีก่อความไม่สงบขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556-57 ได้เดินทางมาศาลเพื่อสอบถามคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า จำเลยทุกคนไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา บางคนแค่ขึ้นเวทีปราศรัย บางคนแค่ไปชุมนุม อยากให้ศาลพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ จะให้อัยการถอนฟ้องไปก่อนและไปสอบสวนใหม่ว่าพฤติกรรมของแต่ละคนว่ามีอะไร แล้วฟ้องไปตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อัยการขอเลื่อนการตรวจพยาน เพราะมีเอกสารเชื่อมโยงหลายคดี ขณะที่จำเลยยื่นคำร้องขอตัดฟ้อง และขอให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 212 ว่าเคยมีการพิจารณาประเด็นการชุมนุมแล้วว่า เป็นไปโดยสงบและเปิดเผย จึงเป็นการวินิจฉัยในเนื้อหาอันเป็นกรณีคดีเสร็จเด็ดขาด ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) คดีอาญาย่อมระงับ หากนำคดีมาฟ้องซ้ำอีก จะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 5 ศาลจึงให้จำเลยทำคำร้องมายื่นต่อศาลอีกครั้ง และนัดตรวจพยานหลักฐานใหม่วันที่ 25 มิ.ย.
โผล่ขอตั้งพรรคคอมมิวนิสต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดให้กลุ่มการเมืองยื่นคำขอจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง จนถึงวันที่ 19 มี.ค. มียอดรวม 65 พรรค ขณะที่นายปฐม ตันธิติ ได้ขอจดชื่อจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สำนักงานได้รับเอกสารไว้แต่ยังไม่บรรจุในบัญชีการยื่นคำขอจดแจ้งจัดตั้งพรรค โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการนายทะเบียนพรรค การเมืองกล่าวว่า ชื่อที่ขอเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่สามารถรับจดแจ้งได้ จะลงนามในคำสั่งนายทะเบียนไม่รับคำขอจดแจ้ง ทั้งนี้ ชื่อพรรคฯอาจเข้าข่ายตามมาตรา 18 วรรคสามของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ขอจดจัดตั้งต้องไม่มีลักษณะตามมาตรา 14 คือ 1.ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ 2.ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน 3.อาจก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างชนในชาติ 4.ครอบงำหรือเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระของ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ
ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯได้ฤกษ์เข้า ครม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เห็นชอบให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน นำเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ สาระสำคัญได้แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติองค์ประกอบอำนาจหน้าที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ให้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ตำรวจ ยกเลิกอำนาจการคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร. แก้ไขปรับปรุงหน้าที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีอำนาจพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร. แก้ไขกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจทุกระดับและกำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระดับกองบัญชาการ ทำหน้าที่แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ กำหนดพิจารณาบำเหน็จความชอบเลื่อนเงินเดือนเป็นรูปแบบคณะกรรมการ กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาร้องทุกข์ เป็นหลักประกันการตรวจสอบการใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้าย