โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแบบไร้รอยต่อ วงเงิน ลงทุน 214,308 ล้านบาท ไฟเขียวจากรัฐบาล คสช.เรียบร้อยแล้ว

โปรดรออีก 5 ปี คนไทยจะนั่งรถไฟ ความเร็วสูงจากสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินอู่ตะเภา ภายในเวลาเพียง 45 นาที

คิดค่าโดยสารแค่จิ๊บๆ 330 บาทต่อเที่ยวเท่านั้นเอง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าโครงการนี้รัฐบาลตัดสินใจจะไม่ลุยถั่วกู้เงินลงทุนเอง แต่จะใช้การร่วมทุนเอกชนพร้อมสัมปทานยาว 50 ปี

พร้อมของแถมล่อใจอีก 3 ชิ้นโตๆ

1,ที่ดินทำเลทองมักกะสันของการรถไฟอีก 150 ไร่ ให้ไปพัฒนาหากำไรได้อีก 50 ปี

2,ที่ดินรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง 4 แห่งคือ พัทยา ศรีราชา ฉะเชิงเทรา และระยอง ให้พัฒนาทางธุรกิจอีก 50 ปี

3,ได้โครงการรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ไปบริหารจัดการอีก 50 ปี

พูดง่ายๆ เอกชนรายใดสะง่อมโครงการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ไปครอบครองจะฟันกำไรสะดือปูดไปอีก 50 ปี

ล่าสุด “แม่ลูกจันทร์” ได้รับหนังสือ ชี้แจงจาก ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) ยืนยันว่าเงื่อนไขร่วมทุนกับเอกชนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมสัมปทาน 50 ปี รัฐบาล ไม่ได้เสียเปรียบเอกชนอย่างที่ “แม่ลูกจันทร์” ทักท้วงด้วยความห่วงใย

เนื่องจากที่ดินทำเลทองย่านมักกะสัน 150 ไร่ ที่รัฐบาลจะมอบให้เอกชนไปพัฒนาหากำไร 50 ปี ไม่ใช่ยกให้ฟรีๆ

เอกชนต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่ดินเป็นเงิน 5 หมื่นล้านบาท

หรือปีละ 1,000 ล้านบาทโดยประมาณ

สำหรับที่ดินรอบสถานีรถไฟ 4 แห่ง คือ ศรีราชา พัทยา ฉะเชิงเทรา และระยอง ซึ่งรัฐบาลยกให้เอกชนไปพัฒนา เชิงพาณิชย์อีก 50 ปี ผู้ได้รับสัมปทานต้องจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐบาลระยะยาว

...

ส่วนโครงการรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ ที่ยกให้เอกชนผูกขาดหารายได้อีก 50 ปี ก็ไม่ได้แถมฟรีๆ

เอกชนต้องจ่ายเงินชดเชยอีก 10,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระหนี้การรถไฟ

“แม่ลูกจันทร์” ฟังคำชี้แจงแล้วก็เบาใจหายห่วงไป 50 เปอร์เซ็นต์

แต่...ยังมีประเด็นสำคัญที่ “แม่ลูกจันทร์” ยังคาใจ

คือเงื่อนไขที่รัฐบาลต้องควักกระเป๋า จ่ายลงขันในโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน

แยกเป็นจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน 3,784 ล้านบาท

และจ่ายค่าลงทุนก่อสร้างงานโยธา อีก 120,000 ล้านบาท

เท่ากับรัฐบาลต้องจ่ายเงินลงขัน ถึง 123,784 ล้านบาท

แต่ฝ่ายเอกชนจ่ายเงินลงขันเพียง 90,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง

คำถามคือ เหตุใดรัฐบาลต้องควักกระเป๋าลงทุนมากกว่าฝ่ายเอกชน??

ทั้งๆที่ฝ่ายเอกชนได้สัมปทานผูกขาดยาวถึง 50 ปี

อย่างไรก็ดี แม้ “แม่ลูกจันทร์” จะมองว่าเงื่อนไขร่วมทุนรัฐบาลเสียเปรียบ เอกชนมากเกินไป

แต่ยังสนับสนุนให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเกิดขึ้น โดยเร็ว!!

ส่วนกลุ่มทุนใหญ่ค่ายไหนจะได้สะง่อมโครงการนี้พร้อมสัมปทานผูกขาด ยาว 50 ปี ยังต้องแข่งขันกันสุดลิ่มทิ่มประตู

ขอฟันธงล่วงหน้าว่า...กลุ่มซีพี จะได้เค้กก้อนนี้ไปรับประทาน.

“แม่ลูกจันทร์”