กล้านรงค์ จันทิก
เป็นข่าวเล็กๆที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อข่าวการเมือง
หลังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบ ร่างข้อบังคับประมวลจริยธรรม สนช. และกรรมาธิการ ท่วมท้นเป็นเอกฉันท์ 160 ต่อ 0 เสียง
เป็นร่างข้อบังคับที่ล้อกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มีทั้งหมด 45 ข้อ
ข้อสำคัญที่ สนช.หลายคนอาจมองว่าเป็นอุปสรรคปัญหาที่สุด คือข้อ 23 กำหนดให้ สนช. “อุทิศเวลาแก่ทางราชการ ไม่เบียดบังเวลาราชการไปประกอบธุรกิจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว”
ข้อกำหนดนี้กระทบถึงสมาชิก สนช.หลายคนที่ประกอบธุรกิจในภาคเอกชน อาจมีปัญหาขาดคุณสมบัติหากต้องไปประกอบธุรกิจสำคัญของตัวเองในเวลาราชการ
มีคำอธิบายจาก คุณกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างข้อบังคับประมวลจริยธรรม สนช. ว่า สมาชิก สนช.ยังสามารถยื่นลาต่อประธาน สนช. ได้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา โดยจะไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ
สำหรับร่างข้อบังคับนี้ต้องใช้ควบคู่ไปกับข้อบังคับการประชุม ของ สนช.
ที่มีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนว่า สมาชิกแต่ละคนสามารถขาดประชุมได้ปีละกี่ครั้ง
อย่างที่เห็นหากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความทุ่มเททำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ ที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภานำออกมาเปิดเผย กับรายชื่อ 7 สนช.ที่ขาดประชุมมากที่สุด ปีหนึ่งมี 365 วัน
แต่ขอลาประชุมไปค่อนปี
ยอมเสียสละเวลาอันมีค่าของพวกท่านมาประชุมเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนใกล้ตัวของท่านผู้นำเอง ที่ถูกวิจารณ์ไปทั้งบ้านทั้งเมือง
สิ่งที่ทำเอาผู้คนถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนร่างข้อบังคับประมวลจริยธรรมฯจะผ่านมติที่ประชุม สนช. มันมีคำแปรญัตติของสมาชิก สนช.ในภาคธุรกิจ เสนอให้ไม่ต้องกำหนดกฎเกณฑ์วันลา
...
พูดง่ายๆคือลาได้แบบ “Unlimited” ไร้ข้อจำกัดว่างั้นเหอะ
อยากให้ย้อนกลับไปดูคำให้สัมภาษณ์ของ นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนแต่งตั้ง สนช. ที่ถูกโจมตีหนักเรื่องการแต่งตั้งแต่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ วัยใกล้เกษียณ และบรรดาตัวแทน กลุ่มทุนทั้งหลาย
จะทุ่มเทเวลามาทำหน้าที่สำคัญ ในการออกกฎหมายปีละหลายร้อยฉบับไหวหรือ
ท่านนายกฯก็ยืนยันเสียงแข็งว่า สนช.ที่ได้รับการแต่งตั้งทุกคน ต้องทุ่มเทการทำงานให้กับสภา ให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ
ใครทำไม่ได้ก็ไม่สมควรเป็น สนช.อีก
แล้ววันนี้เป็นอย่างไร บุคคลที่ท่านแต่งตั้งมาเองกับมือ ได้ทุ่มเทเวลาทำงานให้กับสภา ให้กับฝ่ายนิติบัญญัติสมดังที่ท่านตั้งใจเอาไว้หรือไม่
แม้กรณีนี้จะไม่ถือว่าเป็นการฉ้อราษฎร์ เพราะไม่ได้กระทำทุจริตคอร์รัปชัน
แต่น่าจะถือว่าเป็นการบังหลวงได้ ที่เอาเวลาของทางราชการ ไปหาประโยชน์ทางธุรกิจ หรือทางอื่น
มันจะกลายเป็นว่าที่ได้เข้ามา ก็เพื่อสร้างเครือข่าย ขยายธุรกิจกันเท่านั้น!
เพลิงสุริยะ