‘ทำเนียบ’ผวา อาถรรพ์อ่าง! ปรับโคมแดง จุดธูป36ดอก ขมาองค์เทพ

ทำเนียบฯรื้อแก้ใหม่ติดโคมแดงไม่ถูกต้อง จนท.ผวาอาถรรพ์จุดธูป 36 ดอกปักกลางแจ้ง ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์เทพเทวาหน้าตึกไทยฯ “หมอภิญโญ” คอนเฟิร์มไหว้ชุดใหญ่แก้เคล็ดนายกฯ-รัฐบาล คสช.ดวงตก “โหร คมช.-ซินแสภาณุวัฒน์” ประสานเสียง “ประยุทธ์” บารมีแกร่ง พ้นเคราะห์ดวงดี ประคองรัฐบาลฉลุย ส่วน “ประวิตร” อ่วมวิบากกรรม ปัญหาสุขภาพรุมเร้าแต่ผ่านได้ “สุวพันธุ์” รับ ก.ม.ลูกค้างท่อต้นตอม็อบไล่ คสช.แต่ยังเอาอยู่ “วิษณุ” แจง มิ.ย.61 ก.ม.ลูกบังคับใช้ครบวันเลือกตั้งถึงจะชัด “บิ๊กตู่” ตีปี๊บต่างชาติชื่นชมเดินตามโรดแม็ป กมธ.ร่วมยันไร้ใบสั่งคว่ำ 2 ก.ม. ลูก “ทิชา” หอบ 8 หมื่นรายชื่อยื่นนายกฯจี้ “บิ๊กป้อม” ไขก๊อก กระทุ้งพี่ใหญ่รักน้องจริงต้องลาออก “ประวิตร” ยืดรอบ 2 แจงเพิ่มแหวนเพชร-นาฬิกาหรู “ทักษิณ-ปู” ปักหลักฮ่องกงรับลูกหาบ ปิดทริปทัวร์เอเชียที่สิงคโปร์ก่อนกลับที่ตั้ง

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้นำโคมแดงเต็งลั้งมาติดประดับประตูเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาล โดยปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับการแก้เคล็ดในช่วงรัฐบาลเผชิญปัญหารอบด้านและเกิดลางร้ายอ่างบัวแตก ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯได้ปรับแก้ไขการติดตั้งโคมแดงให้ถูกต้องตามประเพณีจีน และพบมีการทำพิธีจุดธูป 36 ดอกไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หน้าตึกไทยคู่ฟ้าด้วย

...

ทำเนียบฯรื้อใหม่โคมแดงเต็งลั้ง

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ. มีคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เจ้าหน้าที่นำโคมแดง เต็งลั้ง มาประดับบริเวณประตูทาง เข้า-ออก รอบ ทำเนียบรัฐบาลที่เปิดใช้งาน ล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เนื่องจากการติดตั้งครั้งแรกอาจเป็นไปอย่างเร่งรีบฉุกละหุก โดยได้นำลวดมาผูกยึดโคมเต็งลั้งไว้กับโคมไฟประจำเสาประตูไว้เท่านั้น ซึ่งผิดจากการติดตั้งโคมแดงตามประเพณีจีนทั่วไป ที่มีการผูกยึดโคมติดกับไม้ยาวให้ยื่นออกมาเป็นที่แขวน ดังนั้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ. จึงมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขนำไม้มาติดกับด้านบนของโคมแดงในลักษณะต่อเป็นก้านยาวออกมาทำให้โคมแดงยื่นห่างออกจากเสา มีความสวยงามมากขึ้น

ผวาอาถรรพณ์จุดธูป 36 ดอกหน้าตึกไทย

ช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาช่างภาพและผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล สังเกตพบก้านธูป 36 ดอกที่จุดแล้ว มีขี้เถ้าผงธูปล่วงอยู่บนพื้นหญ้าจำนวนมาก ปักอยู่ใต้กอดอกเข็มที่ปลูกล้อมรอบปืนใหญ่ บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จึงรุมล้อมเข้าบันทึกภาพทำข่าวกันอย่างคึกคัก สันนิษฐานว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้ทำพิธีจุดธูปไหว้กลางแจ้ง เพื่อขอขมา ขออโหสิกรรมหรือขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และองค์เทพเทวา ตามคติความเชื่อเพื่อขอพรช่วยให้ชีวิตไม่ติดขัด การงานราบรื่น ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า รวมถึงเป็นการขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งอดีตชาติ หรืออาจเคยล่วงเกินต่อเทพยดา โดยความหมายธูป 36 ดอก หมายถึงไตรภูมิ 36 ชั้นประกอบด้วย 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน อบายภูมิ 4 มนุษย์โลก 1 พิธีดังกล่าวจะต้องทำก่อนเที่ยงวันและต้องปักธูปกลางแจ้ง

จากนั้นเวลา 14.42 น.คนสวนประจำทำเนียบรัฐบาลได้มาเก็บซากธูป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลสั่งให้มาเก็บ เพราะไม่อยากให้เป็นที่สนใจแก่สื่อมวลชนมากนัก ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ ทำเนียบฯ ทราบว่าได้มีการทำพิธีตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 16 ก.พ.แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจอีกครั้ง หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์– โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. สั่งให้นำโคมแดงหรือเต็งลั้งไปห้อยทุกประตูทาง เข้า-ออก ของทำเนียบฯ หลังรถตำรวจส่งเอกสารถอยรถชนอ่างบัวแตกกระจายเมื่อวันที่ 15 ก.พ. จนตกเป็นข่าวเกิดลางร้ายกับรัฐบาล

“โหรภิญโญ” คอนเฟิร์มไหว้แก้เคล็ด

นายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์ นานาชาติ กล่าวว่า ปกติการจุดธูป 36 ดอก จะไม่ค่อยได้พบเห็น ส่วนใหญ่จะจุด 1-16 ดอก เชื่อว่าเป็นเรื่องของการแก้เคล็ด เนื่องจากช่วงนี้นายกฯและรัฐบาลดวงตก เจอปัญหาหลายเรื่องรุมเร้า

ซินแสดังชี้นายกฯพ้นเคราะห์ดวงดี

ด้านนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง กล่าวว่าตอนนี้สถานการณ์การเมืองอยู่ที่ดวงบุคคล ดวง พล.อ.ประยุทธ์ ปีนี้ดี จากปี 60 ที่ดวงเข้าเคราะห์ วุ่นวาย ส่วนดวง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม มีเคราะห์ตั้งแต่กลางปี 60 แล้ว ต้องระวังปัญหาสุขภาพ มีปัญหาอุปสรรคให้วุ่นวาย แต่ไม่มีอะไร เพราะมีโหงวเฮ้งแก้มที่สวย พูดตรงๆไม่มีอะไรตีรัฐบาลลงได้ เป็นเพียงสร้างกระแสป่วนแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะดวง พล.อ.ประยุทธ์ ยังดีอยู่ อยู่ๆมีแต่เรื่องนาฬิกาเท่านั้นที่มาตีได้ ท่านก็วุ่นวายใจเหมือนกัน เป็นกระแสหาเรื่องโจมตี เพราะมีกระบวนการโจมตีจ้องล้มรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ พล.อ.ประวิตรคงไม่น้อยใจ เสียกำลังใจจนถึงขั้นตัดสินใจลาออก เพราะไม่ได้หนักหนา ทุกคนก็รู้ถ้าตีให้ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ แยกจากกันรัฐบาลจะมีปัญหา พล.อ.ประวิตร มองเรื่องนี้ออก และคิดว่ารัฐบาลอยู่ถึงการเลือกตั้งแน่นอน โดยปลายปีนี้จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน

โหร คมช.ชูบารมี “บิ๊กตู่” ประคองได้

วันเดียวกัน นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังเจ้าของฉายาโหร คมช. กล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลและ คสช.หลังเจอมรสุมทางการเมืองอย่างหนักว่า เท่าที่ดูเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ยังมีบารมีประคองรัฐบาลต่อไปได้จนกว่ามีการเลือกตั้ง ไม่มีอะไรกังวลแม้บริวารจะทำหงุดหงิดบ้างก็ตาม รวมถึงกลุ่มม็อบต่างๆ หรือกรณี 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นการเคลื่อนไหวตามเวลา เมื่อถึงเวลาก็เงียบหายไป ไม่เกิดอะไรขึ้น

“ประวิตร” อ่วมวิบากกรรมแต่ผ่านฉลุย

นายวารินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่มองว่าเวลานี้เป็นเป้า ทำเสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอนนั้น เท่าที่เห็น พล.อ.ประวิตรยังทำงานในรัฐบาลต่อไป ยังไม่หมดหน้าที่ ถ้าหน้าที่หมดเมื่อไหร่ก็ไปตามเวลาต่อไม่ได้อีก แม้จะเจอวิบากกรรมค่อนข้างมากแต่ก็ผ่านพ้นไปได้ไม่มีอะไรหนักกว่านี้แล้ว แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือเรื่องสุขภาพ ส่วนการปรับ ครม.ที่เคยดูไว้จะปรับอีกครั้งก่อนเลือกตั้งนั้น ยืนยันมีแน่นอนเร็วสุดเดือน เม.ย.นี้ ส่วนจะมีแกนนำบางคนถูกปรับออกหรือไม่ต้องมาคอยดูกัน ทุกคนมีเวลาของตัวเองเมื่อถึงเวลาหมดหน้าที่ก็ต้องไป

“วิษณุ” ชี้ไม่แปลกตามเทศกาลโลก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีเกิดเหตุอ่างบัวในทำเนียบรัฐบาลแตกในวันตรุษจีน ถือเป็นลางร้ายของรัฐบาลว่า ส่วนตัวไม่ได้ถือเรื่องเหล่านี้ และการที่นายกฯสั่งให้ติดโคมสีแดง (เต็งลั้ง)นั้นไม่แปลก แต่ไม่มีความรู้เรื่องการแก้เคล็ดอะไร การประดับโคมจีนที่ระบุไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตรุษจีนถือเป็นเทศกาลของโลกไปแล้ว แสดงออกถึงไมตรีจิตและมิตรภาพที่เรามีต่อชาวจีน และเพื่อร่วมฉลองกับชาวไทยเชื้อสายจีน ไม่แน่ในอนาคตทำเนียบรัฐบาลอาจประดับตกแต่งในเทศกาลอื่นๆ เช่น เทศกาลสงกรานต์ คริสต์มาส เป็นต้น เมื่อถามว่า แต่ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ราชการ การตกแต่งบางอย่างเป็นเรื่องที่ดูไม่เหมาะสม อีกทั้งการประดับโคมจีนสีแดง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่แปลก การทำครั้งแรกอาจเป็นเรื่องที่แปลกบ้างแต่ครั้งต่อๆไปไม่ใช่เรื่องแปลกแล้ว

ย้ำวันเลือกตั้งจะชัดเจน มิ.ย.61

นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่าการเลือกตั้งอาจลากยาวไปจนถึงเดือน มี.ค.62 ว่า หากพูดถึงโรดแม็ปคนทั่วไปจะคิดได้อย่างเดียวกันว่าจะเกิดอะไร เมื่อไร ทุกอย่างมีวันเวลาล็อกอยู่ ตนไม่อยากจะระบุว่าเป็นวันอะไร เพราะความชัดเจนจะเกิดในเดือน มิ.ย.61 ที่คาดว่ากฎหมายลูกทั้งหมดจะประกาศใช้ โดยคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 53/2560ระบุไว้ว่าให้เชิญคนที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือกันทุกอย่างจึงจะปรากฏชัดในวันนั้น เมื่อถามว่า หากกฎหมายลูกถูกคว่ำในชั้นกรรมาธิการร่วม หน่วยงานใดจะร่างกฎหมายลูกฉบับใหม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใครก็ได้ เพราะไม่มีการเขียนล็อกเอาไว้ว่าเป็นหน้าที่ของใคร ตั้งขึ้นมาใหม่ก็ได้ หรือให้ กรธ.ชุดเดิมทำหน้าที่ก็ได้ถ้าจะให้ง่ายก็ให้ กรธ.ทำหน้าที่ เพราะเขาบอกว่าทำ 2 วันเสร็จ

ชี้ ก.ม.ลูกต้นตอม็อบเขย่าแต่เอาอยู่

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯในฐานะอดีต ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวถึงกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล คสช.และทวงการเลือกตั้งว่า ฝ่ายความมั่นคงดูแลอย่างเต็มที่ จะบานปลายหรือไม่ ต้องดูหลายอย่างทั้งเงื่อนไขเหตุผลและรูปแบบ แต่คิดว่าทุกอย่างยังอยู่ในความควบคุมของฝ่ายความมั่นคง คสช.และรัฐบาล ยังอยู่ในสถานะที่ควบคุมสถานการณ์ได้ แต่บังเอิญสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองยังมีปัจจัยที่ยังค้างอยู่ เช่น กฎหมายลูกสองฉบับที่ค้างอยู่ที่สภา ยังค้างในกระบวนการ คนเคลื่อนไหวคิดว่าต้องเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายลูกนี้ ส่วนจะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงดู ตนไม่รู้

ระทึกไฟไหม้หลัง ธ.กรุงไทยทำเนียบฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 18.15 น. ได้เกิดเหตุระทึกขึ้นภายในพื้นที่ของทำเนียบรัฐบาลอีก เมื่อปรากฏเกิดกลุ่มควันจากไฟไหม้ลอยพวยพุ่งขึ้น ที่บริเวณด้านหลังธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบฯ ใกล้ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล โดยขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่ธนาคารได้ปิดเวลาทำการไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบฯรีบวิ่งมาดูเหตุการณ์ พร้อมเร่งเข้าสกัดดับไฟที่กำลังไหม้กองลังกระดาษ จากการตรวจสอบหาสาเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนี้น่าเกิดจากมีคนโยนก้นบุหรี่ทิ้งลงมาจากชั้น 2 ของตัวอาคาร ไม่คิดว่าจะเป็นการวางเพลิง

กมธ.ร่วมเริ่มบรรเลงสัปดาห์หน้า

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ว่า การทำงานจะเริ่มในสัปดาห์หน้า มีเวลาทำงาน 15 วัน ได้พูดคุยกันเบื้องต้นว่า กมธ.ร่วม จะพิจารณาอยู่ในหลักที่เคยแสดงจุดยืนมาก่อน โดยความเห็นในหลายประเด็นแตกต่างกันตั้งแต่ชั้น กมธ.แล้ว และอาจมีการพูดคุยในประเด็นที่เพิ่มมาใหม่ สำหรับข้อมูลใหม่ที่จะถกกันหนักๆ อาทิ ในกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว.ที่ กรธ.ไม่เอาด้วย เพราะเห็นว่ายังไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ทั้งเรื่องการหั่นจำนวนกลุ่มอาชีพจาก 20 เหลือ 10 กลุ่มการปรับแก้ไขในประเด็นเลือกไขว้ รวมถึงการปรับให้มีทั้งการสมัครแบบอิสระกับการสมัครแบบเลือกตรง ส่วนเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีแค่ประเด็นมหรสพเรื่องเดียว น่าจะพอไปได้

ยันปลอดใบสั่งไร้แววคว่ำ 2 ก.ม.

นพ.เจตน์กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองบอกว่าเราพยายามทำให้วุ่นวายจนนำไปสู่การคว่ำกฎหมายลูกนั้นไม่จริง ไม่เกี่ยว เราปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนทุกอย่างไม่ได้มีใบสั่ง และไม่ได้รอสัญญาณคว่ำกฎหมายลูกจากใครด้วย เอาเป็นการ เมืองไปเสียหมดโดยไม่ฟังเหตุฟังผล ทีเรื่องขยายเวลาประกาศใช้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน ไม่เห็นมีฝ่ายการเมืองออกมาโวยวายเลย เพราะรู้ว่าได้ประโยชน์ ถ้าใช้เงื่อนเวลาเดิมจะทำขั้นตอนไพรมารีโหวตไม่ทัน เชื่อว่าหลัง กมธ.ร่วมพิจารณา แล้วส่งเข้าสภาใหญ่น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีและราบรื่น จะเป็นตัวแปรทำให้โรดแม็ปขยับเดินหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง วันเลือกตั้งจะชัดเจนขึ้นไปด้วย

“มาร์ค” ไม่เชื่อ ก.พ.62 จะได้เลือกตั้ง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ระบุถึงการขยายเวลาบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาทำไพรมารีโหวต และเตรียมพร้อม ก่อนการเลือกตั้งว่า พรรคไม่เคยร้องขอ จึงไม่สมเหตุผลที่จะนำประเด็นดังกล่าวมาเลื่อนการเลือกตั้งออกไป การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือการแก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 เรื่อง ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ การที่นายพรเพชรระบุว่าหากการขยายเวลา 90 วัน ไม่มีความจำเป็น พรรคการเมืองร้องต่อ กกต.ได้นั้นเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ สนช.และ กรธ.ต้องพิจารณาในชั้นกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ขณะเดียวกันการเพิ่มภาระขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับสมาชิกพรรคถือว่าละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ตนไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.2562 เพราะแม้แต่นายกฯและรองนายกฯก็ไม่อาจตอบได้ว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด ไม่เป็นผลดีในสายตาสังคมโลก เป็นการเลื่อนไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนกฎหมายลูกจะถูกคว่ำหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ คสช.เป็นหลัก แม้ สนช.จะแก้ไขกฎหมาย แต่ คสช.มักใช้อำนาจตามมาตรา 44 เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ที่ผ่านมา สนช.ก็ฟังคำสั่ง คสช.มาตลอด

“ทิชา”ยื่น 8 หมื่นชื่อบี้“บิ๊กป้อม”ไขก๊อก

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงาน ก.พ. นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และภาคประชาชน นำรายชื่อประชาชนที่รวบรวมตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-15 ก.พ.ผ่านทางเว็บไซต์ Change.org จำนวน 80,018 รายชื่อ ยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่ง จากกรณีไม่แสดงนาฬิกาในบัญชีทรัพย์สินราคากว่า 30 ล้านบาท ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนเป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยนางทิชากล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากยอมรับไม่ได้ ป.ป.ช.ทำหน้าที่เหมือนผงฟอกขาวให้ พล.อ.ประวิตรคำกล่าวที่ว่าถ้านาฬิกายืมมาไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน หากเป็นบรรทัดฐานที่ถูกวางไว้จริงในประเทศ ต่อไปจะเป็นช่องทางเอื้อให้นักการเมืองระดับสูงและข้าราชการใช้ สร้างความเสียหายร้ายแรง

กระทุ้งพี่ใหญ่รักน้องจริงต้องออก

นางทิชากล่าวว่า นายกฯเคยกล่าวไว้ในวัน ต่อต้านคอร์รัปชันสากลวันที่ 9 ธ.ค.60 บอกว่าคนไทยไม่ทนต่อการโกง และคนไทยเชื่อว่าต้องเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์แสดงว่าผู้นำประเทศไทยไว้วางใจไม่ได้เลย และนายกฯยังขอร้องให้คนไทยลดราวาศอกลงบ้างอีก ทำให้รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวกับผู้นำที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยและไม่โปร่งใส หลายเดือนที่ผ่านมาเป็นความไม่เชื่อมั่นอย่างรุนแรง ส่วนที่ว่ามีกลุ่มคนเข้าชื่อสนับสนุน พล.อ.ประวิตรแสนกว่าชื่อนั้น นักวิเคราะห์และคนติดตามข่าวสารบ้านเมืองคงวิเคราะห์ได้ว่าถูกจัดตั้งมาด้วยกระบวนการใดบ้าง และหากการยื่นครั้งนี้ไม่มีผลต่อรัฐบาล เพราะรัฐบาลอาจเหลิงอำนาจคิดว่าไม่มีใครทำอะไรได้ หากเป็นอย่างนั้นจริงลางแห่งหายนะก็มาเช่นกัน ถ้าหากรัฐบาลยังทระนงในอำนาจแสดงว่าฝ่ายที่ปรึกษาและตัวรัฐบาลประเมินสถานการณ์ผิดพลาดก็ได้ “ที่สำคัญหากคุณประวิตรรักรัฐบาลนี้ แล้วเป็นพี่ที่ดีเป็นบูรพาพยัคฆ์ที่รักน้องจริงควรลาออก ก่อนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลนี้เสียหายกว่าเดิมอย่างในต่างประเทศทำผิดนิดเดียวลาออกแล้ว”

อัด ป.ป.ช.ไร้เดียงสาสอบทุจริตเหลว

นางทิชากล่าวต่อว่า บัดนี้แม้คำว่ายืมไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นแค่คำพูดที่ ป.ป.ช.ปล่อยออกมานั้นยังไม่เขียนเป็นกติกา ยังไม่ถูกเอามาตัดสิน แต่เป็นเหตุผลที่ภาคประชาชนอย่างเราต้องออกมาปกป้องมาตรฐานที่สูงกว่านั้นอย่าออกมาล้ำเส้นเข้ามา ถ้าเมื่อไหร่การยืมเพื่อนไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินจะทำให้องค์กรตรวจสอบทุกทุจริตล่มสลาย จากการตีความอย่างไร้เดียงสามาก การออกมาส่งสัญญาณนี้เพื่อบอก ป.ป.ช.อย่าทำไร้เดียงสากับเครื่องมือที่ดีที่สุดของประเทศ ที่ออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เราเริ่มมีองค์กรอิสระ เพราะเราไม่เคยจัดการกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับข้าราชการระดับสูงได้ ไม่เข้าใจ ป.ป.ช.จะทำให้มาตรฐานนี้ต่ำลงไปเพื่ออะไร ไม่อย่างนั้นประเทศนี้ไม่จำเป็นต้องมี ป.ป.ช.เพราะการมี ป.ป.ช.ต้องใช้เงินมหาศาล

“จาตุรนต์” สับระบบปราบโกงพิการ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า การปราบการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐธรรมนูญปราบโกง คือกำหนดโทษให้หนัก เพิ่มอำนาจองค์กรที่ทำหน้าที่ กำหนดคุณลักษณะของบุคคลเข้มงวดเป็นพิเศษ เป็นจุดเด่นที่ใช้มาอวดอ้างอยู่เสมอ แต่จุดเด่นกลับกลายเป็นจุดตาย เมื่อเกิดเรื่องนาฬิกาเจ้าปัญหา เพราะประธาน ป.ป.ช.เป็นคนที่ คสช.แทรกแซงแต่งตั้ง ทั้งยังเป็นผู้ใกล้ชิดกับคนที่ถูกสอบ ระบบอันสวยหรูที่โอ้อวดกันมาตลอดก็พังทลายลงในพริบตา เมื่อระบบปราบทุจริตพิกลพิการ การทุจริตที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อาจไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องจริงจัง และยิ่งนานไปการทุจริตคอร์รัปชันจะเกิดขึ้นมากมายมหาศาล

“วิษณุ” ไม่แน่ใจมีผลทางกฎหมาย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางทิชา ณ นคร อดีต สปช. นำรายชื่อประชาชน 80,000 รายชื่อ มายื่นเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม แสดงความรับผิดชอบลาออกกรณีครอบครองนาฬิกาหรูว่า ไม่แน่ใจว่าจะมีผลอะไรทางกฎหมายหรือไม่ เพราะอยู่ที่ว่าคำลงท้ายที่นางทิชายื่นระบุว่าขออะไร ถ้าจะยื่นเพื่อให้ผู้ถูกร้องต้องออกจากตำแหน่ง ต้องไปยื่นที่สภา ไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีกฎหมายลูกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวออกมาแล้วหรือไม่ แต่โดยหลักการดำเนินการอย่างนั้นได้ ส่วนจะต้องรวบรวมรายชื่อจำนวนเท่าไหร่ไม่แน่ใจ ขอให้ไปดูในรัฐธรรมนูญดีกว่า เมื่อถามว่าการที่มีประชาชนที่ต้องการให้ พล.อ.ประวิตรลาออกมากถึง 80,000 รายชื่อ จะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นหรือสปิริตของรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุตอบว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา ไม่กระทบอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่สะทกสะท้าน แต่ถือว่าเป็นการทำไปตามสิทธิหน้าที่ของแต่ละคน

“ประวิตร” ยืดอีกรอบแจงนาฬิกาหรู

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชี้แจงข้อมูลนาฬิกา 25 เรือนเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 3 ที่ครบกำหนดการชี้แจงในวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า พล.อ.ประวิตรส่งหนังสือขอขยายระยะเวลาการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนาฬิกาหรูและแหวนเพชรต่อ ป.ป.ช.ออกไปอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า ยังติดปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องและมีเอกสารที่เกี่ยวข้องหลายอย่างที่ต้องรวบรวมนำมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติม จึงขอขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้น เมื่อครบกำหนดในวันที่ 2 มี.ค.นี้ พล.อ.ประวิตรจะต้องยื่นคำชี้แจงต่อ ป.ป.ช. จะไม่สามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก เนื่องจาก ป.ป.ช.ให้ขยายเวลาได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่า จากการขอขยายระยะเวลาในรอบล่าสุดนี้ ทำให้ ป.ป.ช.ไม่สามารถจะตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรูดังกล่าวได้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.พ.ตามที่เคยบอกไว้ได้

ป.ป.ช.ยังไม่ตั้งอนุฯสอบ “หมอธี”

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่น ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบกรณีการถือหุ้นสัมปทานเอสซีซีจำนวน 5,000 หุ้นของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เข้าข่ายต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ถือหุ้นสัมปทานรัฐหรือไม่ว่า เรื่องหุ้นเอสซีซีของนายธีระเกียรตินั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนปกติแล้ว ยังไม่ต้องตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน

ปลื้มต่างชาติชมเดินตามโรดแม็ป

เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ว่าได้มีโอกาสต้อนรับอาคันตุกะจากประเทศอิตาลี สหราช อาณาจักร สเปน และฝรั่งเศส มีการพบปะสร้างความเข้าใจแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและได้รับการชื่นชมในการดำเนินการตามแผนของรัฐบาลถึงการพัฒนาการของประเทศไทย ทั้งยังแสดงความพร้อมที่จะช่วยให้ข้อมูลเชิงบวกของไทยในเวทีสหภาพยุโรป อาทิ การแก้ไขปัญหาไอยูยูและอีอีซี ทั้งยังเชื่อมั่นในพัฒนาการทางประชาธิปไตยของไทยสู่การเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนตามโรดแม็ป

ฟุ้งยกระดับจัดงบฯโปร่งใส

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องที่น่ายินดีภาคภูมิใจที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศด้านงบประมาณ ได้รายงานผลการสำรวจงบประมาณ หรือดัชนีการเปิดเผยงบประมาณ ในรอบปี 2017 ประเทศไทยได้รับการประเมินสูงขึ้นมีคะแนนเพิ่ม 14 คะแนน ทำให้อันดับดีขึ้น 28 อันดับจากปี 2015 ด้านความโปร่งใสทางงบประมาณ โดยคะแนนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนความโปร่งใสของกระบวนการงบประมาณของไทยในทางบวก

รัฐรับฟังดัชนีคอร์รัปชันไทยพุ่ง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย พบว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันสูงขึ้น ว่ารัฐบาลรับทราบและยินดีรับฟัง เป็นตัวชี้วัดหนึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปเร่งปรับปรุงว่าปัญหาอยู่ตรงจุดไหน แต่ไม่เกี่ยวกับการประเมินประเทศไทยโดยองค์กรตรวจสอบความโปร่งใสนานาชาติ เป็นตัวชี้วัดคนละตัว รัฐบาลมั่นใจว่าได้แก้ปัญหานี้ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เอาจริงเอาจัง แต่อาจมีบางจุดที่คนในสังคมยังสงสัยหรือตั้งข้อสังเกต เช่น กรณีล่าเสือดำในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตนและสังคมติดตาม ต่างจากกรณีทุจริตหลายเรื่องกล่าวหาเลื่อนลอยทำให้เกิดความรู้สึก เราจะเอาสิ่งที่เป็นคดีแล้วไปปะปนกับเรื่องทุจริตที่เป็นการกล่าวหาคงไม่ได้

“ทักษิณ–ปู” ปิดทริปเอเชียที่สิงคโปร์

ด้านความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตรและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมายังแถบเอเชีย ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า อดีตนายกฯทั้งสองคนจะอยู่ที่เกาะฮ่องกง จนถึงวันที่ 18 หรือ 19 ก.พ. โดยระหว่างนี้จะมีแกนนำ พรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางเข้าพบ จากนั้นอดีตนายกฯทั้งสองคนจะเดินทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งยังจะมีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วนเดินทางไปพบอีกเช่นกัน โดยจะเป็นลักษณะของการนัดหมายผ่านแกนนำของแต่ละกลุ่ม ใครสะดวกไปพบที่ประเทศไหนก็จะเดินทางไปในช่วงวันที่ทั้งสองอยู่ที่ประเทศนั้น ตั้งแต่ประเทศจีน เกาะฮ่องกง และมาปิดท้ายที่สิงคโปร์ และหลังจากนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์เสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์แล้วจะเดินทางต่อไปยังดูไบหรืออังกฤษต่อไป

ผบ.ตร.น้อมรับเลิกขวาง “we walk”

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง ให้ผบ.ตร.สั่งการให้ ผบช.ภ.3 และ ผบช.ภ.4 ไม่ปิดกั้นขัดขวางการชุมนุมและคุ้มครองความสะดวกของประชาชนในกิจกรรม “we walk เดินมิตรภาพ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.น้อมรับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมทุกคน ที่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่ต้องไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 หากเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ามีการกระทำใด อันนำไปสู่การชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะพิจารณากำหนดเงื่อนไขหรือมีคำสั่งหรือประกาศให้แก้ไขหรือร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเลิกชุมนุมหรือสั่งให้ยุติการกระทำนั้น หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

สิ้นสุดกิจกรรมเดินมิตรภาพ

เมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มเครือข่ายประชาชน people go walk ในกิจกรรมเดินมิตรภาพ ทั้ง 4 สาย ทยอยเข้ามารวมตัวที่ด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณวงเวียนศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้แสดงออกทางสัญลักษณ์ด้วยการปักธงที่ต้องการสื่อสารต่อสาธารณชนใน 4 ประเด็น รวมทั้งการประทับรอยเท้าลงบนผืนผ้า และการประกาศว่าได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของการจัดกิจกรรมที่ จ.ขอนแก่นแล้ว ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปรวมตัวที่วัดป่าอดุลยาราม เพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ ต่อไป โดยนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ผู้ประสานงานเครือข่าย we walk กล่าวว่า วันนี้ได้กำหนดรูปแบบการเดิน 4 เส้นทาง เพื่อสะท้อนปัญหาผลกระทบนโยบายรัฐ 4 ประเด็น คือ รัฐสวัสดิการ ความมั่นคงทางอาหาร ทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิชุมชน และเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

ส่งศาลฝากขัง กปปส.ยิงตำรวจ

ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง คุมตัวนายเอกชัย พลภักดี อายุ 38 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐานฆ่าและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเข้าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ขณะจับสลากหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง จนเกิดการปะทะกับตำรวจ ทำให้ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ถูกยิงที่หน้าอกเสียชีวิต ส่วน ส.ต.ต.พงษ์พันธ์ จันทร์ชัย ถูกยิงที่ขาซ้ายบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.56 มายื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-27 ก.พ. ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขัง โดยไม่มีญาติผู้ต้องหามายื่นประกันตัว

ใช้ ม.44 ต่อวีซ่าบอร์ดประกันสังคม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการประชุมร่วมกับตัวแทนกระทรวงแรงงาน หารือการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม หรือบอร์ดประกันสังคมเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ว่า ที่ประชุมเห็นว่าจะให้บอร์ดชุดปัจจุบันทำงานต่อไป โดยไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ แม้ พ.ร.บ.ประกันสังคมปี 2558 จะกำหนดให้ต้องเลือกภายใน 2 ปี ตามระเบียบที่รัฐมนตรีเป็นผู้กำหนด แต่การเลือกตั้งต้องหาเสียงอาจขัดคำสั่ง คสช.ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง อีกทั้งกระทรวงแรงงานระบุว่าถ้าเลือกตั้งเลยจะเสีย เวลาและใช้งบสูงอาจถึง 2,000 ล้าน คิดว่ามากไปจะคิดเหมือนเลือกตั้ง ส.ส. 500 คนไม่ได้ บอร์ดประกันสังคมมีเพียง 14 คน 100 ล้านบาทก็ไม่ให้ จึงเห็นว่าควรจะใช้คำสั่งมาตรา 44 ให้บอร์ดชุดเดิมปฏิบัติหน้าที่ต่อไประยะหนึ่ง เพื่อรอ พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับใหม่ ที่จะแก้ไขปรับเปลี่ยนวิธีเลือกบอร์ด อาจใช้วิธีสรรหา แบ่งคนออกเป็นกลุ่ม จึงให้แนวทางไปศึกษาการสรรหา ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน และการไม่ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่เป็นเพราะรัฐบาลหมกเม็ดอะไร เราให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเท่าที่จำเป็น