คำสอนเรื่องนรกสวรรค์ มีในทุกศาสนา แตกต่างกันมากน้อย ศาสดาแต่ละท่าน สอนไม่เหมือนกัน
เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องของศาสดาพยากรณ์อีเลย (เรื่องง่ายๆ ความหมายดีๆ สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ เครือนานมี)
เมื่อได้พบสาวกคนนั้น ก็ตั้งคำถาม “ผมอยากรู้ว่า นรกสวรรค์เป็นอย่างไร”
ศาสดาอีเลย ไม่ตอบเลยสักคำ พาเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
ในห้องนี้ มีผู้คนมากมายเต็มไปหมด คนเหล่านี้มีทั้งคนรวยและคนจน แต่ทุกคนสภาพเหมือนกัน คือหน้าตาซีดเซียว ร่างกายซูบผอม ไร้เรี่ยวแรง
กลางห้องมีหม้อซุปหม้อใหญ่มีซุปเต็มหม้อ กลิ่นหอมหวนชวนกิน น่าประหลาด ไม่มีใครเลยสักคนที่ได้กิน
ข้างหม้อซุปมีทัพพีอันเดียว ใหญ่และยาวเท่าตัวคน แต่มันไม่เคยได้ถูกใช้ตักน้ำซุป เพราะทุกคนในห้อง ไม่มีใครยอมใคร ต่างก็พยายามยื้อแย่งทัพพีตักซุปใส่ปากตัวเอง
ไม่มีใครตักซุปเข้าปาก บางคนทำได้ใกล้ปาก แต่พอถูกแย่ง ก็โกรธสาดน้ำซุปใส่คนอื่น
ขณะที่ศาสดาอีเลยพาชายคนนั้นไปถึง คนทั้งห้องต่างตะลุมบอนกัน ทัพพีแทนที่จะใช้ตัก ถูกใช้เป็นอาวุธทำร้ายกันและกัน
ศาสดาอีเลย บอกกับสาวกคนใหม่ “นี่แหละ นรก”
ศิษย์กำลังอึ้ง แต่ไม่ทันได้คิดถามอะไรต่อ ศาสดาก็พาไปอีกห้อง
ห้องนี้มีคนเต็มห้องเหมือนกับห้องแรก กลางห้องมีหม้อซุปใหญ่ มีทัพพียาวเหมือนกัน
สิ่งที่แตกต่างกัน คือทุกคนในห้องดูอิ่มหมีพีมัน หน้าตาอิ่มเอม มีความสุข เพราะทุกคนผลัดกันทำหน้าที่ คนนั่งตรงข้ามตักน้ำแกงใส่ปากคนตรงหน้า ทำอย่างมีจังหวะ
...
คนที่กินอิ่มแล้ว ก็ทำหน้าที่ตักน้ำซุปใส่ปากคนอื่นบ้าง ผลัดกันเรื่อยไป จนอิ่มหนำถ้วนทั่วทุกตัวคน
บรรยากาศในห้องตรงหน้า ศาสดาไม่ได้สอนอะไรมาก เขาบอกกับศิษย์สั้นๆ
“นี่คือ สวรรค์”
เล่าเรื่องง่ายๆเรื่องนี้แล้ว สุริยเทพ ไตรมงคล อธิบายความหมายดีๆว่า โลกทั้งโลกนี้ มีคนยากดีมีจนมากมาย เหมือนในห้องสองห้องนั้น
ถ้าทุกคนรู้รักสามัคคี มีอะไรก็แบ่งปันกัน ไม่ยื้อแย่งแข่งดีกัน โลกก็เป็นสวรรค์นั่นเอง
เรื่องง่ายๆความหมายดีๆเรื่องนี้ ผมเคยเอามาเล่าแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง
ครั้งนี้ ผ่านขวบปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ของเรา เสด็จสู่สวรรคาลัย ผมมีชีวิตมาตลอดรัชกาลที่ 9 ตลอด 70 ปี เพิ่งได้ยินกับหู ได้รู้กับตา
คนไทยที่เคยคิดเคยทำอะไรไม่เหมือนกัน มีแต่เรื่องวิวาทขัดแย้งกันทุกเรื่อง ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ได้ทำเรื่องปาฏิหาริย์เหมือนอยู่บนสวรรค์ แห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ในอารมณ์โศกหมอง โหยหา แต่อยู่ได้ด้วยความรักอาลัยและเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกัน
หนึ่งปีผ่านไป ทางการประกาศให้ 30 ตุลาคม 2560 เป็นวันออกทุกข์ ผมกลับคิดอีกทาง พยายามคิดว่า เราจะไม่เข้าใกล้วิถีของการเมืองแบบเก่า...แบ่งพวกแยกสี ทำสงครามกันเหมือนเก่า
เราคนไทยจะต้องอยู่ในสวรรค์แห่งความรักใคร่ปรองดองกัน ให้จงได้ ไม่ว่าจะใกล้เลือกตั้ง หรือเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง.
กิเลน ประลองเชิง