ภายหลังพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวก จากสาธารณรัฐอินเดีย ได้รับการอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง อ.เมืองอุบลราชธานี เป็นจุดที่ 3 ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค. ให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งใน จ.อุบลราชธานี และในภาคอีสาน รวมทั้ง ประชาชนชาวลาวเดินทางมาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิตกันล้นหลามกว่า 5 แสนคนต่อมาเวลา 07.00 น. วันที่ 14 มี.ค. มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ออกจากวัดมหาวนาราม ไปขึ้น เครื่องบินทหาร C130 ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อ.เมืองอุบลราชธานี อัญเชิญต่อมาให้พี่น้องประชาชนทางภาคใต้ได้สักการะเป็นจุดที่ 4 ระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล หรือวัดบางโทง ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยถึงท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่เวลา 10.45 น. มีพระเทพวชิรากร รองเจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล นางปอโลมี ตริปาฐี อุปทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผวจ.กระบี่ รวมทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาว จ.กระบี่ มารอรับผู้แทนจากอินเดียได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ ลงจากเครื่องบินไปประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญชัยมงคลคาถา ณ ห้องรับรอง ภายในสนามบิน แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานยังห้องมั่นคงภายในวัดมหาธาตุวชิรมงคล โดยเช้าวันที่ 15 มี.ค. จังหวัดกระบี่ได้จัดขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ในการเคลื่อนพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต ธาตุฯ ขึ้นประดิษฐานบนมณฑปในวัด สำหรับการเข้าสักการะจัดเป็นรอบละ 100 คน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. และในเวลา 18.00-19.00 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้ผู้ที่เข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าสักการะประมาณวันละ 100,000 คน ช่วงค่ำตลอดระยะเวลาการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จะมีการจัดตกแต่งไฟแสงสีเสริมความสวยงามให้กับเจดีย์พุทธคยาอีกด้วย จากนั้นในวันที่ 19 มี.ค.เวลา 10.30 น. จะมีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขึ้นสู่เครื่องบินของกองทัพอากาศอินเดีย ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ กลับสู่เมืองเดลี สาธารณรัฐอินเดียนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า จังหวัดมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาสักการะ คาดว่าแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาจำนวนมากทั้งใน จ.กระบี่ และอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ มีการจัดสถานที่จอดรถไว้หลายจุดอย่างเพียงพอโดยรอบของวัดมีรถอำนวยความสะดวกรับ-ส่งทุกจุดจอดรถ รวมทั้งมีจุดรักษาพยาบาลพร้อมหมอ พยาบาลขณะที่ พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิสัย รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจภูธร จ.กระบี่ ได้จัดกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดระยะการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ โดยเฉพาะตัววิหารที่ประดิษฐานจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรยามจุดละ 2 นาย ผลัดละ 1 ชม. ตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งภายในวิหารและนอกวิหาร รวมถึงห้องมั่นคง แต่ละวันจะมีตำรวจ ทหาร จิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทานและตำรวจอาสา ประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ไม่ต่ำกว่าวันละ 200 นายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ไปยัง จ.เชียงใหม่ และ จ.อุบลราชธานี มีศาสนิกชนร่วมสักการบูชากว่า 5 ล้านคน ส่วน จ.กระบี่ คาดว่าจะมีประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางมาสักการะวันละไม่ต่ำกว่า 150,000 คน และจะหารือกับสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ในการผนึกพลังจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหลอมรวมศาสนิกชนให้มีการนำหลักธรรมมายึดถือปฏิบัติ สร้างความรัก ความสามัคคี ความสงบสุขและสันติภาพ หลังจากเสร็จสิ้นงานแล้วจะรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดนำเสนอคณะรัฐมนตรี และกราบบังคมทูลถวายรายงานการดำเนินงานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ การรวมพลังความศรัทธาของศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่