รวบได้แล้ว 1 ลูกสมุน “ฉุย รักจันทร์” ร่วมทีมประกบยิงตำรวจกองปราบฯ เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย หลัง ผบช.ก.คุมทีมร่วม ผบช.ภ.9 ลุยตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่พัทลุง สงขลา ผบ.ตร.บินด่วนแถลงความคืบหน้าไล่ล่าคนร้าย ออกหมายจับแล้ว 4 คน ลั่นต้องจับคนร้ายให้ได้ทั้งแก๊ง เผยเบื้องหลังปฏิบัติการเหี้ยม “ฉุย รักจันทร์” เตรียมสู่ขอสาวให้ลูกน้องที่ถูก “จับตาย” เห็นรถตำรวจขับวนผ่านหน้าบ้าน คิดว่าเป็นคู่อริ เลยระดมสมุนประกบยิง ด้าน ผบช.ก. เป็นประธานเชิญน้ำหลวงอาบศพตำรวจกล้า ท่ามกลางญาติมิตรและเพื่อนตำรวจร่วมไว้อาลัย
ผบ.ตร. บินด่วนติดตามความคืบหน้าการไล่ล่านายจำรัส หรือฉุย รักจันทร์ อายุ 45 ปี มือปืนประวัติฉกาจ ร่วมกับพวกขับรถประกบยิงถล่มตำรวจ กก.6 บก.ป. ติดตามจับกุมนายจำรัสตามหมายจับ จากบริเวณวัดบ่วงช้าง ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จนถึงบนถนนสาย 42 ใกล้สี่แยกบ้านท่านางพรหม หมู่ 6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ระยะทางประมาณ 3 กม. เป็นเหตุให้ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. เสียชีวิต ด.ต.ชัชชัย พันธอู และ ร.ต.อ.นพดา ณัทณพงศ์ บาดเจ็บ ส่วนคนร้ายชื่อนายวัชระ รัตนสุวรรณ์ อายุ 47 ปี ถูกยิงตายคารถเก๋งฮอนด้าซีวิค เหตุเกิดเย็นวันที่ 9 มี.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้ระดมกำลังลงพื้นที่ร่วมกับ บช.ภ.9 บก.ภ.จ.พัทลุง และ ตชด.ออกล่าตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่ บก.ภ.จ.พัทลุง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการไล่ล่าแก๊งมือปืนโหด มี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง ร่วมประชุม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยก่อน พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้ร่วมสอบปากคำนายพงศกร หรือเจ สุวรรณมะโณ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหารายแรกที่ถูกจับกุมได้
...
หลังการประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน คือ นายจำรัส หรือฉุย รักจันทร์ นายอัฐพล หรือรวม ใหม่อ่อน อายุ 21 ปี นายเกรียงไกร หรือหนึ่ง ไชยพูล อายุ 27 ปี และนายพงศกร หรือเจ สุวรรณมะโณ อายุ 22 ปี ที่ถูกจับกุมได้ ข้อหาหลักร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน หากสอบสวนไปถึงใครก็จะจับกุมเพิ่มเติม พร้อมยึดของกลางรถ 4 คัน ปืน 4 กระบอก ประกอบด้วย ซีเอ็มเอ็มจีขนาด 9 มม. ปืนโคลท์ 1 กระบอก ปืนเอชเค 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และตามตรวจสอบวัตถุพยานเพิ่มเติม จัดชุดร่วม บช.ก. และ บช.ภ.9 ใช้ทุกวิธีการดำเนินการเพื่อจับกุมดำเนินคดีให้ได้ทุกราย
ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ บก.ป. และบช.ภ.9 เร่งรัดจับกุมคดีตามเครือข่ายยาเสพติด การค้าขายอาวุธปืน ผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า และผู้มีอิทธิพล หรือซุ้มมือปืน ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้เป็นลูกน้องอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดของนายจำรัสอยู่ในรถกระบะมิตซูบิชิไทรทันที่ยิงปะทะจุดแรก ส่วนการดูแลตำรวจเสียชีวิตนั้น กองทุนสวัสดิการตำรวจ จะดูแลครอบครัว ดูแลทายาท ลูกคนโตเป็นตำรวจเมื่อจบการศึกษา ดูแลเหมือนเป็นครอบครัว และได้เงินช่วยเหลือจำนวน 2,367,360 บาท ส่วนคนเจ็บได้รับเงินจำนวนหนึ่งดูแล
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุดในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา และได้เข้าจับกุมนายพงศกร ขณะซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา คุมตัวไปตรวจยึดปืนเอชเค และปืน 9 มม. อย่างละ 1 กระบอก ซ่อนอยู่ในสวนปาล์มท้ายวัดท่าควาย อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง นอกจากนี้ ตำรวจได้นำตัว น.ส.ดา แฟนสาวของนายวัชระที่ถูก “จับตาย” เป็นคนขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ที่ขับประกบรถตำรวจ และพี่ชายของ น.ส.ดา ที่นำรถไปซ่อนมาสอบปากคำในฐานะพยาน
รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ดาอ้างว่าแค่ขับตามมาไม่ทราบว่านายวัชระกับพวกที่อยู่รถอีกคันจะก่อเหตุ ขณะที่นายพงศกร ผู้ต้องหา ให้การว่า นั่งอยู่ในรถกระบะมิตซูบิชิไทรทัน ที่นายอัฐพลขับปาดหน้านำรถตำรวจ พร้อมเผยว่าที่นัดรวมตัวกันในพื้นที่บ้านท่าควาย เพื่อมาเป็นเพื่อนนายวัชระที่จะมาสู่ขอแฟนสาว นายจำรัสมาในงานฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายชาย ส่วนที่ต้องก่อเหตุ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุนายจำรัส เห็นรถตำรวจขับวนผ่านหน้าบ้านผิดสังเกตเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริเก่า รีบขับรถตามปิดหัวปิดท้ายประกบยิง นอกจากนี้ คำให้การของผู้ต้องหาและพยานยังสอดคล้องกันว่านายวัชระเป็นคนยิง ด.ต.อนันต์จนเสียชีวิต

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สถานที่ตั้งศพ ด.ต.อนันต์ มีแสง ที่พลีชีพจากเหตุปะทะจับตายแก๊งนายจำรัส หรือฉุย รักจันทร์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เป็นประธานเชิญน้ำหลวงอาบศพ ท่ามกลางญาติมิตร รวมทั้งเพื่อนข้าราชการตำรวจมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด มีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 17 มี.ค.
นางวิไล มีแสง อายุ 46 ปี ภรรยา ด.ต.อนันต์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนเช้าวันเกิดเหตุสามีได้ออกไปทำงานที่เซฟเฮาส์กองปราบฯ ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านมาเอาเสื้อเกราะบอกว่าจะไปทำงาน กระทั่งเย็นเพื่อนสามีโทร.มาบอกว่าได้ข่าวการยิงปะทะกันหรือยัง พร้อมบอกว่าสามีถูกยิงอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดี โทร.เข้าเบอร์สามีแต่ก็ไม่รับ พยายามโทร.หาเพื่อนร่วมงานถึงรู้ว่าสามีเสียชีวิต และทำใจไม่ได้เพราะจากไปเร็วเกินไป สามีเคยวางแผนหลังเกษียณจะไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนที่ ต.ควนโส อ.ควนเนียง จ.สงขลา เรื่องที่สามีห่วงที่สุดคือลูก เคยพูดว่าหากเป็นอะไรไปจะไม่ให้ลูกเดือดร้อนและลำบาก ในส่วนของคนร้ายเชื่อว่าตำรวจจะจับได้ทั้งหมด
...
สำหรับ ด.ต.อนันต์ มีลูกทั้งหมด 4 คน เป็นลูกของภรรยาของแรก 1 คน ภรรยาคนที่สอง 1 คน ส่วนนางวิไลภรรยาคนปัจจุบัน มีลูกด้วยกันอีก 2 คนคนเล็กเป็นผู้หญิงอายุ 8 ขวบ