เป็นข่าวฉาวขึ้นมา คดียิงกันในบ่อนภายใน สมาคมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสามัคคี องก๋งสนุ้กเกอร์คลับ ซอย ป.ณัฐพล เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ดัดแปลงอาคารไว้เปิดเล่นการพนันใหญ่กลางเมือง

คนที่เสียชีวิตทราบชื่อ พันจ่าเอกธีระพล โอ่แก้ว อายุ 27 ปี สังกัดสื่อสารฐานทัพเรือสงขลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ถูกยิงที่ศีรษะและหน้าอก ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ 1 ปลอก และหัวกระสุนปืน 1 หัว

สอบสวนคนที่เกิดเหตุ นายวรพันธ์ จุลปานะ อายุ 52 ปี มือปืนที่ลั่นไก เป็นคนพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ได้หลบหนีหลังก่อเหตุ ท่ามกลางสายตาเซียนพนันนับร้อยที่พากันวิ่งหลบหนี เพราะกลัวลูกหลง

ยิงกลางวงพนัน

พยานบอกว่า นายวรพันธ์กับพันจ่าเอกธีระพลทะเลาะวิวาทในวงพนันโปปั่น นายวรพันธ์บันดาลโทสะชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงพันจ่าเอกธีระพลล้มฟุบต่อหน้าต่อตาเซียนพนัน

ตามข่าวบ่อนนี้เพิ่งกลับมาเปิดได้ไม่นาน ก่อนหน้าเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ร่วมกับทหารเข้าจับกุมมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังลักลอบเปิดเล่นการพนัน มีกลุ่มลูกค้าเซียนพนันหน้าเดิมๆ

แต่ข่าวในโลกออนไลน์ปูดข่าวตำรวจบิดเบือน ช่วยเหลือผู้ต้องหาที่เป็นญาติตำรวจ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงว่า ผู้เสียชีวิตถูกปืนยิงเสียชีวิตในท้องที่ สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 1 คน และพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 1 คน ในส่วนประเด็นที่กังวลไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ต้องหาเป็นญาติตำรวจ ยืนยันต้องโปร่งใส ผบ.ตร. ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

ทำตรงไปตรงมา

เป็นปัญหามานานเรื่องของ “บ่อน” และ “สถานบริการ” ฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นเรื่องที่แก้ยาก เป็นเรื่องที่รู้กันของนักเล่นและเจ้าหน้าที่บ่อนที่เปิดเป็นบ่อนประจำ ที่ถูกจับ สั่งปิด แต่เปิดใหม่ได้ ทำนอง “ลักปิดลักเปิด”

...

ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ช่วงไหนนโยบาย “ไฟแดง” เคลียร์เจ้าของพื้นที่ไม่ได้ เจ้าของบ่อนต้องยอมปิดบ่อนใหญ่ชั่วคราว กระจายเซียนพนันไปลงในบ่อนเล็กๆที่เช่าดัดแปลงไว้ทำบ่อนขนาดเล็ก ไม่ให้ลูกค้าหนี

ถ้าช่วงไหน “ไฟเขียว” เจ้าของบ่อนกลับมาเปิดกันเต็มทุกพื้นที่ทุกจังหวัด เล่นกันทั้งวันทั้งคืน

แต่ที่เป็นข่าวใหญ่ใน “โลกโซเชียล” เพราะดันมีเหตุยิงกันในบ่อนพนัน คนยิงสายตำรวจ คนตายมีข่าวเป็นทหาร เรื่องแดงโผล่ประจานตำรวจ ทหาร ที่ปล่อยให้มีบ่อนใหญ่เปิดเล่นพนันกลางเมืองหาดใหญ่

แต่ไม่มีลงโทษโยกย้ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่ดูแลพื้นที่โทษฐานปล่อยให้มีบ่อน-ยิงในบ่อน

เพราะไม่มีใครคิดปราบบ่อนจริง.

“เพลิงพยัคฆ์”