ความไว้ใจพิสูจน์ได้จากการกระทำที่ทำให้เห็น
คดีพบศพหญิงสาวนิรนามถูกแทงพร้อมเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ทิ้งใต้สะพานบ้านกาหนั้วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ตำรวจเริ่มต้นแกะรอยจากลายพิมพ์นิ้วมือผู้ตายไปประสานฐานข้อมูลของกรมการปกครอง กระทั่งทราบชื่อเหยื่อคือ นางบิสมี สุหลง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182/1 บ้านบูเก๊ะกือจิ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และ ด.ญ.นัสริน มามะ ลูกสาวอายุ 5 ขวบ
ก่อนหน้าเมื่อปี 2556 นายสุเพียร มามะ สามีของเธอเป็นสมาชิกแนวร่วมก่อความไม่สงบถูก วิสามัญฆาตกรรม ทิ้งให้เธอเป็นม่ายอยู่กับลูกฝาแฝดชายหญิงเพียงลำพัง
ระยะหลังเธอติดยาเสพติดและหายออกจากบ้านไปพร้อมลูกสาวบ่อยครั้ง ครั้งละหลายวัน ญาติพี่น้องไม่ค่อยแปลกใจจนทั้งคู่เป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
พากันเข้าใจเป็น “ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ” เหมือนชะตากรรมของสามีเธอ ทำให้เกิดความไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรมว่า ตำรวจจะคลี่คลายคดีอย่างจริงจัง
ไม่ต่างจากหลายคดีที่เกิดขึ้นกับชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดภาคใต้
แต่ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ พร้อม พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส.สภ.ระแงะ และ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.ฉก.ทพ.ที่ 45 ใช้เวลาสืบสวนแค่ 4 วัน ปิดแฟ้มอำมหิต ได้สำเร็จ เมื่อตามไล่กล้องวงจรปิดพบเหยื่อกับลูกสาวไปกับ นายฮาซัน เจ๊ะหะ อายุ 30 ปี หนุ่มรับจ้างเก็บของเก่า
สุดท้ายตามตัวมาเค้นปากคำ
ทีแรกให้การภาคเสธ อ้างแค่เป็นคนช่วยนำศพมาทิ้งอำพราง พอโดนซักเจอพิรุธมากถึงยอมสารภาพหมดเปลือก เป็นคนลงมือฆ่าเหยื่อสาวที่ขัดขืนไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน เป็นจังหวะที่เด็กน้อยเห็นเหตุการณ์เลยต้อง “ฆ่าปิดปาก”
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รรท.ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ไปแถลงข่าวอธิบายแนวทางการสืบสวนสอบสวนในการคลี่คลายคดีอย่างละเอียด
...
ให้ชาวไทยมุสลิมเห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปล่อยปละละเลยเป่าคดี!!!
สหบาท