จนท.ตรวจสอบพื้นที่น้ำตกโตนงาช้าง หลังพายุถล่มจนต้นไม้หักโค่นกว่า 40 ต้น อาคารเสียหายแบบเฉี่ยวๆ ด้านแม่ค้าเผย ลมพายุน่ากลัวมาก หลังอธิษฐานต่อ “ทวดตาขุนดำ-ทวดป๊ะหวา” ลมพายุหยุดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้จุดประทัดพันนัดแก้บน

ความคืบหน้าเหตุการณ์พายุพัดถล่มในพื้นที่น้ำตกโตนงาช้าง และภายในบริเวณที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ ทำให้รถยนต์ถูกต้นไม้ล้มทับ 3 คัน และต้นไม้ล้มระเนระนาดทับอาคารเสียหายบางส่วน

ล่าสุดเวลา 10.30 น. วันที่ 13 ก.ย. 60 นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายอิศราพันธ์ บุญมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ลงตรวจสอบและสรุปความเสียหายทั้งหมด พบว่ามีต้นไม้โค่นล้มทั้งหมด 42 ต้น 25 ชนิด ทั้งไม้เนื้ออ่อนและไม้เนื้อแข็ง โดยต้นที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดคือ ต้นยมหอม อายุประมาณ 40 ปี นอกจากนี้ ยังมีอาคารที่เสียหายบางส่วนอีก 4 อาคาร คือ โรงอาหาร ที่ละหมาด อาคารสำนักงาน ห้องน้ำ 2 หลัง และป้อมยามจุดตรวจ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ เพราะระบบสื่อสารต่างๆ ล่มทั้งหมด เนื่องจากระบบไฟฟ้าเสียหาย

นายอิศราพันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดมเจ้าหน้าที่เกือบ 100 นาย ตัดต้นไม้และเคลียร์พื้นที่ รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.หาดใหญ่ ซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานโดยเร็วที่สุดเพื่อสะดวกต่อการติดต่อสื่อสาร และจำเป็นต้องปิดน้ำตกโตนงาช้าง อย่างน้อย 3 วัน หรือจนกว่าจะเคลียร์พื้นที่เสร็จ รวมถึงสำรวจต้นไม้ที่เอนเอียงและเสี่ยงที่จะล้ม เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนรถยนต์ 3 คันที่ถูกต้นไม้ล้มทับ จะให้ช่างประเมินความเสียหายและทำเรื่องเสนอไปทางจังหวัด ผ่านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพิจารณาช่วยเหลือ เพราะกรณีเหตุภัยธรรมชาติ ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อยู่ในระเบียบที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะจ่ายเงินช่วยเหลือได้ 

...

สำหรับเหตุการณ์นี้ ลักษณะของพายุหมุนพัดถล่ม เป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปีนับตั้งแต่มีการก่อตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เมื่อปี 2521 เนื่องจากก่อนเกิดเหตุทุกอย่างเป็นปกติเพียงแต่อากาศร้อน อยู่ๆ ก็มีลมและฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงราว 20 นาที และลักษณะม้วนตัวอยู่รอบๆ ที่ทำการและบริเวณน้ำตกชั้น 1 ทำให้มีต้นไม้ที่โค่นล้มทั้งต้นและขาดกึ่งกลาง นับเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก แต่เมื่อดูสภาพความเสียหายไม่มาก ที่สำคัญไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่และพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า เป็นเพราะบารมีของ “ทวดตาขุนดำ หรือ ทวดงูจงอาง และทวดป๊ะหวา หรือทวดเสือดำ” ที่อยู่บนศาลบริเวณน้ำตก คุ้มครองดูแล ทำให้ทุกคนปลอดภัย ทิศทางที่ต้นไม้สูงใหญ่ล้มก็เฉี่ยวๆ เสียหายไม่มาก โดยเฉพาะ ศาลทวดตาขุนดำและทวดป๊ะหวา ซึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่หักโค่น แต่ก็ล้มไปทางอื่นเช่นกัน หรือแม้แต่รถตุ๊กๆ ที่ถูกต้นไม้ล้มทับขณะเกิดเหตุ แม้คนขับนั่งอยู่ในรถแต่ก็ปลอดภัย

"ทวดตาขุนดำ-ทวดป๊ะหวา"

ต้นไม้หักแต่ไม่โดนศาล
ต้นไม้หักแต่ไม่โดนศาล


 
ด้าน นางเครือวัลย์ ศรีสุวรรณ อายุ 48 ปี ซึ่งเปิดร้านอาหารอยู่ที่น้ำตกโตนงาช้าง มา 25 ปี และอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า รู้สึกตกใจและหวาดกลัวมาก เพราะมีเสียงลมและฝนดังแรงมาก ต้นไม้ทยอยล้ม ตนจึงบนบาน ทวดตาขุนดำและทวดป๊ะหวา ให้ฝนและลมหยุด หลังอธิษฐานทั้งลมและฝนก็ค่อยๆ หยุดลงทันที และเหตุการณ์ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในวันนี้จึงได้จุดประทัด 1,000 นัด เพื่อแก้บน.