(ภาพจากเพจบันทึกหญิงอ้วน)

ญาติน้องยุสาวอุดรฯ โดดทัวร์เกาหลี เผยเจ้าตัวติดต่อผ่านเพื่อนแจ้งว่า อยากอยู่ทำงานสัก 3 เดือน เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ที่พ่อไปกู้มาเป็นค่าเดินทาง ขณะที่คนอุดรฯ เห็นใจครอบครัว มอบเงินช่วย จัดหางานจังหวัดเตือนไปทำงานแบบผิดกฎหมายแสนลำบาก...  

วันที่ 13 มิ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีสองสาวอุดรธานีหนีทัวร์ไปทำงานเกาหลีใต้ คือ น.ส.ยุพิน จันทะแสน หรือ ยุ อายุ 34 ปี และ น.ส.ชุติมา เรืองภัทรเวช อายุ 32 ปี ล่าสุด น.ส.ยุพิน ได้ติดต่อทางเฟซบุ๊กมาหาเพื่อนในประเทศเกาหลี และเพื่อนได้ติดต่อมาแจ้งทางญาติว่า น.ส.ยุพิน ทราบข่าวแล้ว และบอกว่าตัวเองดังขนาดนี้เลยหรือ ใจจริงอยากกลับบ้านเพราะเป็นห่วงทางบ้าน และทำให้คนอื่นลำบากใจ โดยเฉพาะไกด์

ทั้งนี้ น.ส.ยุพิน ได้แชตมาปรึกษาเพื่อนว่าจะกลับดีไหม แต่ไม่มีค่าตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน จึงอยากจะขอทำงานสัก 3 เดือนตามที่วีซ่านักท่องเที่ยวเขาอยู่ได้ เพื่อได้เงินสักก้อนกลับบ้าน เพราะต้องนำเงินไปใช้หนี้ที่พ่อขายวัวและกู้เงินนอกระบบเป็นค่าเครื่องบินมาให้ โดย น.ส.ยุพิน ได้ฝากผ่านไปถึงคุณเอริก ไกด์ที่พาไป ว่า ขอเวลาสัก 3 เดือนได้ไหม เพื่อทำงานหาเงินกลับบ้านด้วย หากคุณเอริกยอมรับตรงนี้ก็จะทำงานก่อน หากไม่ได้ น.ส.ยุพิน จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าจะตัดสินอย่างไรต่อไป

อีกด้านหนึ่งก็มีเรื่องราวดีๆ เห็นถึงน้ำใจคนไทยด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีประชาชนที่ดูข่าว และเห็นอกเห็นใจครอบครัวของน้องยุที่พ่อแม่กู้เงินนอกระบบมาเพื่อให้ลูกสาวเดินทางไปประเทศเกาหลี มีผู้ใจบุญ 2 คนมอบเงินผ่านมาทางผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวน้องยุที่ไปกู้นอกระบบ

ด้าน นางวนิดา จารีย์ จัดหางานจังหวัดอุดรธานี ได้ออกมาเตือนประชาชนที่อยากไปทำงานประเทศเกาหลีว่า ระวังจะโดนหลอก เพราะตอนนี้ในโซเชียลมีการโพสต์ชักชวนให้ไปทำงานเกาหลี เช่น "อยากมีเงินล้าน มีงานโรงงาน งานสวนมากมาย เงินเดือนดี" ซึ่งจริงๆ แล้วการไปทำงานอย่างผิดกฎหมายมีปัญหามากมาย ทั้งเวลาทำงานต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ไม่มีเวลาพักผ่อน เดือนหนึ่งหยุดให้แค่ 2 วัน คือต้องทำงานกันจริงๆ หากเจ็บป่วยก็ไม่สามารถเข้าไปรักษาโรงพยาบาลของรัฐที่นั่นได้ ต้องหาซื้อยากินเอง หากเจอนายจ้างโหดก็ต้องฝืนทำงานต่อไป หรือหากต้องการไปหาหมอ ต้องไปหาหมอในคริสตจักรที่ไม่มีค่าใช้จ่าย

...

"คนอีสานส่วนใหญ่หากต้องการไปทำงานเกาหลีแบบหนีทัวร์ก็ต้องกู้เงินนอกระบบมา พอผ่าน ตม.เกาหลีไปแล้วก็หนีไปทำงานแต่เสี่ยงมาก เพราะหากโดนจับได้จะถูกส่งกลับทันที และถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศเกาหลีอีกเป็นเวลา 5 ปี เสียทั้งเงินและเวลา ถือว่าการไปทำงานเหมือนหนีทัวร์ไม่ใช่สวรรค์อย่างที่คิด แม้เงินเดือนจะสูงแต่ความเสี่ยงก็มีสูงเช่นกัน หากต้องการไปทำงานจริงๆ ควรติดต่อจัดหางานจังหวัดแต่ละแห่งเท่านั้น เพราะในปีหนึ่งๆ จะมีการประกาศรับคนงานไทยเพื่อไปทำงานที่ประเทศเกาหลี และไปอย่างถูกต้องตามระเบียบจะสบายมากกว่า ไม่ต้องคอยหลบซ่อน" นางวนิดา กล่าว. 

อ่านข่าว