บ้านเราตื่นตัวเรื่องปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเห็นได้ชัด แม้ยังไม่เป็นรูปธรรมในเรื่องของการปลูกในครัวเรือน...แต่รู้หรือไม่หากปล่อยให้ปลูกกันสะเปะสะปะ ไม่มีมาตรฐานรองรับใดๆ นอกจากวัตถุประสงค์แท้จริงทางการแพทย์จะผิดเพี้ยนไป กัญชายังอาจหลุดรอดถูกนำไปใช้อย่างอื่น ทำให้เกิดโทษมากกว่าคุณ

เพราะกัญชาเป็นพืชที่ดูดซึมสารต่างๆในดินได้ดีมาก ปลูกมั่วไม่ถูกต้อง อาจได้รับสารตกค้างในดินแทนที่จะได้สารมีประโยชน์

แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องการปลูกสำหรับคนทั่วไป แต่น่าดีใจที่ได้เกิดความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และหน่วยงานด้านสาธารณสุข เพื่อนำมาใช้งานด้านการแพทย์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่ปลูกกัญชาได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว และมีการทำข้อตกลงร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ปลูกแล้วนำใบ ก้านใบ ดอก มาผลิตเป็นยาแผนไทย

เบื้องต้น รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร รับซื้อ กก.ละ 2–3 หมื่นบาท เพื่อไปผลิตเป็นยาแก้ลม จุกเสียดแน่น แก้นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ร่างกายชา ปวดศีรษะ ฯลฯ

เริ่มปลูกครั้งแรกเมื่อ ก.ย.ปีที่แล้ว ในโรงเรือนขนาด 10×24 เมตร จำนวน 2 โรงเรือน โรงเรือนละ 400 ต้น เป็นระบบอีแวป ใช้ระบบอัตโนมัติ ทั้งการให้น้ำ ปุ๋ย ควบคุมความชื้น มีพัดลมระบายอากาศ

มีรั้วรอบขอบชิด ภายใต้กำแพงสูง 3 เมตร พรั่งพร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ใส่รหัสผ่านก่อนเข้า กล้องวงจรปิดร่วม 50 ตัว รายรอบทั้งด้านในด้านนอก ถือเป็นแหล่งปลูกที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานแห่งหนึ่งของประเทศ

ทั้งวิธีการปลูก สถานที่ปลูก ทุกอย่างเป็นของใหม่สำหรับคนไทย จึงเตรียมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาคู่มือมาตรฐานการปลูก ให้ได้ตามมาตรฐานทางการแพทย์

...

ต่อยอดสู่การสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยอิงข้อมูลส่วนหนึ่งจากมหาวิทยาลัย รวมถึงแหล่งปลูกทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อวันหนึ่งไทยจะผงาดเป็นผู้ส่งออกกัญชาทางการแพทย์อันดับต้นๆของโลก.

สะ-เล-เต