สินค้าแบรนด์เนมชั้นนำของโลก มีการทำรองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้นมามากมาย ราคาก็คงไม่ต้องพูดถึง ที่ขึ้นชื่อก็มีรองเท้าไม้ก๊อก รองเท้าจากเส้นใยพืช...ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก ยังทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกนุ่มสบาย ปรับตัวให้เข้ากับแต่ละสภาพเท้าได้อัตโนมัติ ระบายความอับชื้นได้ดี ช่วยในเรื่องของสุขภาพ ทำให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยให้กล้ามเนื้อกระดูกสันหลังจัดเรียงดีขึ้น
ไทยเราไม่น้อยหน้า...มีรองเท้า เปลือกทุเรียนที่มีดีไม่แพ้กัน ใส่แล้วนุ่มเท้าแถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆของทุเรียนอีกด้วย
“ศรีสะเกษมีการปลูกทุเรียนเยอะ แต่เปลือกทุเรียนกลับถูกทิ้งเป็นของเหลือใช้ที่ไร้ประโยชน์ ปีละกว่า 5,000 ตัน 3 ปีที่แล้วเลยมองว่าน่าจะทำอะไรกับเปลือกทุเรียนให้เกิดมูลค่า พอเห็นต่างประเทศมีรองเท้าไม้ก๊อก จึงคิดว่าบ้านเราก็น่าจะมีรองเท้าทุเรียนบ้าง เพราะเส้นใยจากเปลือกทุเรียนน่าจะให้ความนุ่มไม่แพ้ไม้ก๊อก จึงไปปรึกษากับแผนกเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พัฒนารูปแบบการผลิตจนได้รองเท้าทุเรียนออกมา”
...
จำเนียร นนทะวงษ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเศรษฐกิจแนวคิดใหม่ในอาเซียน ต.ไผ่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ บอกถึงที่มาของรองเท้าทุเรียนหนึ่งเดียวของไทย...หลังได้องค์ความรู้ รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน เก็บเปลือกทุเรียนตามแผงขายทั่วไป และตามงานต่างๆของจังหวัด ถือเป็นการแบ่งเบาภาระอย่างดีให้กับเทศบาล และแผงขายทุเรียนก็พอใจที่มีคนมาเก็บให้ไม่ต้องเป็นภาระเก็บเป็นขยะ
ส่วนวิธีการทำ...นำเปลือกทุเรียนมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็กลง ตากแห้งทิ้งไว้ 3 แดด จากนั้นนำมาตีในเครื่องให้เป็นเส้นใย เปลือกทุเรียน 1 ลูก จะได้รองเท้า 1 คู่
ขั้นต่อมานำเส้นใยที่ได้ผสมกับยางพารา พร้อมกับใส่แคลเซียม เพื่อเป็นตัวยึดจับระหว่างเปลือกทุเรียนกับยางพารา ขั้นตอนต่อไปก็นำมาขึ้นรูปกับแม่แบบ ทิ้งไว้ 2 วัน ให้จับตัวกันสนิท แล้วติดหนังแท้บริเวณเท้าสัมผัส
เมื่อได้แผ่นรองเท้าแล้ว จะกระจายให้เครือข่าย กลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชนผลิตผ้าทอมือทั่วภาคอีสาน นำผ้าลวดลายต่างๆ มาเย็บประกอบเป็นหูที่สวมเท้า ภายใต้แบรนด์ KMY ที่ใส่แล้วเบา สบายเท้า นุ่ม และกลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุนเกินไป ส่วนคุณประโยชน์ต่างๆไม่ได้ต่างจากรองเท้าไม้ก๊อกราคาแพงของเมืองนอก
ส่วนตลาดยังขายภายในประเทศเป็นหลัก ราคาคู่ละ 250 บาท แต่ขณะนี้เป็นที่น่าดีใจเมื่อกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เข้ามาสนับสนุนเพื่อผลักดันให้รองเท้าเปลือกทุเรียนไปเฉิดฉายในตลาดต่างประเทศ สนใจสอบถามได้ที่ 06–3708–4574.
กรวัฒน์ วีนิล