เรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นขณะเดินทางโดยสายการบิน เป็น “บทเรียน” ให้ผู้โดยสารรายอื่นๆเพิ่มความระมัดระวังสัมภาระของมีค่าที่โหลดลงเครื่อง และสายการบินน่าจะคิดหามาตรการมาป้องกันทรัพย์สินของผู้โดยสาร
เป็นข่าวเคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งกับผู้โดยสารทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เป็นปัญหารำคาญใจ
แต่มีความเสียหาย
ล่าสุดเกิดขึ้นกับ นพ.สมภพ พระธานี ที่เลือกเดินทางกลับบ้าน จ.ขอนแก่น ด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 3256 เย็นวันที่ 9 ส.ค.ได้โหลดกระเป๋าตามที่ซื้อน้ำหนักมากับสายการบินลำดังกล่าว
พอถึงปลายทางสภาพกระเป๋าที่รับกลับมาปกติทุกอย่าง แต่พอเข้าบ้านพักพบว่า เครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้นอนกรน ยี่ห้อฟิลิป มูลค่าประมาณ 5 หมื่นบาทหายไป
ด้วยความตกใจจึงแจ้งไปที่สายการบินแอร์เอเชีย กว่าจะได้ข้อสรุปใช้เวลาครู่ใหญ่
พนักงานแจ้งกลับสั้นๆว่า จำเป็นต้องขอเวลาตรวจสอบภาพจากวงจรปิด 1 สัปดาห์ จึงจะแจ้งกลับผู้โดยสาร เท่ากับว่าระหว่างที่ไม่มี อุปกรณ์ดังกล่าว
ชีวิตก็สุ่มเสี่ยงต่อการหยุดหายใจขณะพักผ่อน
นายแพทย์ศัลยกรรมต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อเครื่องใหม่มาใช้ระหว่างที่รอผลจากสายการบิน
อีกทางหนึ่งได้ช่วยเหลือตัวเองเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านเป็ด ขอนแก่น
ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดที่ต้นทาง
เนื่องจากกระบวนการลำเลียงสัมภาระตามสายพานใช้เวลา
เริ่มจากกระเป๋าออกมาทางสายพาน และเจ้าหน้าที่ยกขึ้นรถ-ขึ้นสายพานส่งใต้ท้องเครื่อง
ง่ายต่อการลงมือของคนร้าย
อีกข้อสังเกตหนึ่งคือ เครื่องช่วยหายใจถูกเก็บไว้ในหีบห่อที่มิดชิดแน่นหนาเพื่อกันกระแทก
ทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นทรัพย์สินมีค่า เกิดไปเตะตาผู้ร้ายเข้าจึงเลือกที่จะหยิบไป
...
ทั้งที่เครื่องดังกล่าวมีความจำเป็นเฉพาะตัวสำหรับผู้หายใจผิดปกติ
หากผู้ป่วยไม่มีใช้จะเกิดอันตรายถึงชีวิต
ผู้โดยสารเลือกใช้บริการสายการบินเพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการนำสิ่งของมีค่าสำหรับช่วยเหลือชีวิตติดมากับเครื่องด้วยความมั่นใจในระบบความปลอดภัย
แต่ทรัพย์สินกลับหายไปไร้ร่องรอย
สุดท้ายยังไม่รู้ว่าใครรับผิดชอบ.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th