หมออิทธิพร โพสต์เฟซบุ๊กอัพเดต บ้านหมอไผ่ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขายได้แล้ว หลังพ่อประกาศขายเพื่อหาเงินรักษาลูกสาว...

คืบหน้า! กรณี คุณพ่อรายหนึ่ง ประกาศขายบ้าน เพื่อหาค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกสาว หรือ หมอไผ่-พญ.ชนกสุดา มนะเกษตรธาร ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อมกราคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู (พ่อขายบ้านรักษาลูก! ชาวเน็ตหวังเกิดปาฏิหาริย์กับ พญ.ชนกสุดา ชี้ ชื่อนี้มีความหมาย)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา “พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ” รองเลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen อัพเดตว่า ขายบ้านได้แล้ว ระบุข้อความว่า

“บ้านหมอไผ่ ขายได้แล้ว ขอกราบขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ ใจบุญ ที่ช่วยแชร์ให้น้องหมอไผ่ (พญ.ชนกสุดา มนเกษตรธาร แพทย์ใช้ทุนปี 2 ที่ถูกรถชน) ด้วยครับ บ้านของคุณลุง นรินทร์ มนเกษตรธาร คุณพ่อหมอไผ่ที่ประกาศขาย โดยไม่ยอมรับเงินบริจาค "ขายได้แล้ว” โดยผู้ซื้อใจบุญ ขอซื้อโดยไม่คำนึงถึงสภาพบ้านด้วยซ้ำไป และนัดโอนอาทิตย์หน้าครับ คุณพ่อโทรมาแจ้ง และคุณพ่อขอขอบคุณทุกท่านที่ต้องการบริจาคให้ แต่ขณะนี้ขออนุญาตยังไม่รับนะครับ เพราะยังดูแลตนเองได้

คุณหมอไผ่ อินเทิร์น 2 พะเยา นอนอยู่ ICU รพ.มหาราช ขณะนี้อาการติดเชื้อดีขึ้น ลดการพึ่งเครื่องช่วยหายใจลง รอสมองหากฟื้นมาทำงานได้ ซึ่งคุณพ่อรอความหวัง แม้จะไม่มากนัก เหตุเพราะความรุนแรงของอุบัติเหตุต่อสมองมากจริงๆ ทางอาจารย์ มช."ผู้สอน"วันนี้กลายเป็น"ผู้รักษา” เพื่อนๆ หมอ และพยาบาลใน รพ.มหาราช มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้คุณพ่ออย่างมาก วันนี้ได้แต่รอคอย ให้โอกาสคนไข้ พร้อมๆ กับสร้างความเข้าใจกับคุณพ่อ โดยสื่อสารด้วยใจทุกๆวัน หมอรักษาทั้งกายคนไข้ และรักษาใจคุณพ่อ ไปพร้อมๆกันครับ

...

ในส่วนของแพทยสภา สิ่งที่เราพบจากสถิติคือ แพทย์อายุเฉลี่ยราว 74 ปี โดยมีอัตราเสียชีวิตมากที่สุด ในช่วงก่อนอายุ 30 ปี คือจบใหม่ ขับรถคันแรก เหตุมักเกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนใหญ่เกิดตอนออกเวร กลางคืน หลังทำงานหนักต่อเนื่อง และหลับใน หากอยู่รอดจนอายุเกิน 40 ไปได้ มักจะมีอายุยืนไม่ต่ำกว่า 80 ปี ครับ ดังนั้นหมอทั้งหลายพึง "อย่าหลับใน”

แต่ในรายของหมอไผ่ ยังไม่ทราบเหตุของอุบัติเหตุนะครับ เพราะข่าวถูกชนช่วงเย็นโดยรถทัวร์ตอนกลับรถ จนรถไปอัดกับเสาไฟฟ้า ที่ อ.จุน ดูไม่เหมือนหลับใน

สิ่งที่อยากฝากคือ ชีวิตบนถนน ล้วนไม่แน่นอน เราขับรถดีๆ คนอื่นอาจมาชนได้ ดีที่สุดต้องเตรียมป้องกัน นอกจากเมาไม่จับแล้ว
1. "คาดเข็มขัดนิรภัย" ทุกที่นั่งตามกฎหมายไว้ ทุกที่นั่ง ทั้งผู้นั่งหลังด้วยนะครับ บนรถตู้ และรถทัวร์ด้วย
2. หากจำต้อง"นั่งกระบะท้าย" โปรดเข้าใจว่าจะมีความเสี่ยงสูง อาจบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิตได้ง่ายๆ ที่หมอเจอกันบ่อยๆที่ห้องฉุกเฉิน เราเรียกว่า "เทกระจาด" แต่ละครั้งไม่ตาย ก็ พิการ..มาพร้อมความโศกเศร้าของครอบครัว ที่มักร้องไห้ปิ่มขาดใจกันในห้องฉุกเฉิน โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ทุกปี

ปีที่ผ่านมา(2559) สธ.รายงานว่าเสียชีวิตรวม 501 ราย ตายจากปิคอัพ 15% จักรยานยนต์ 64% เชียวนะครับ

สรุป นั่งท้ายกระบะ ถ้าเลี่ยงได้โปรดเลี่ยงเถิดนะครับ ถ้าจำเป็น ขอให้คนขับ-คนนั่งกระบะท้ายจงระวังสุดขีด ภารกิจช่วยคุณพ่อหมอไผ่ ขายบ้านเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่กรุณาช่วยแชร์ครับ โดยเฉพาะเพจแรกที่ผมแชร์ข้อมูลมาที่ต้องขอบคุณคือ คุณ @Pue pue ต้นสะพานบุญครับ"