แดงเถือกทั้งภาค ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งไม่หยุด “จิสด้า” เผย 22 จังหวัดเหนือ-อีสาน เข้าขั้นวิกฤติ หนำซ้ำพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 2,568 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ถึง 1,397 จุด มากสุดใน 3 จังหวัด “แม่ฮ่องสอน-ตาก-น่าน” ขณะที่ “เชียงใหม่” คุณภาพอากาศย่ำแย่ติดอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่อง ด้านนายกฯประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า ปลื้มค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลงกว่าปีที่แล้ว แต่ยังต้องทะเยอทะยานแก้ไข อย่าพอใจผลงานที่ทำมา ยอมรับไม่อาจก้าวก่ายการเผาป่านอกประเทศ แต่อาจต้องห้ามนำเข้าข้าวโพดในช่วงไฮซีซัน 15 ม.ค. ถึงสิ้น เม.ย. ส่วน “พิธา” รุดดูการแก้ไฟป่าที่ อ.สันป่าตอง ชี้ปีนี้จุดความร้อนพุ่งกว่าปีก่อนถึง 8 เท่า แนะวิธีแก้ปัญหา ควรเริ่มจัดทำสถานีน้ำตั้งแต่เดือน พ.ย. ก่อนเข้าช่วงฝุ่นที่จะเกิดไฟป่าตั้งแต่เดือน ก.พ.สภาพอากาศภาคเหนือของไทยวิกฤติหนัก ค่าฝุ่นพิษ หรือฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครกรัม (PM2.5) พุ่งสูงปรี๊ด โดยเมื่อวันที่ 16 มี.ค. สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” รายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 มี.ค. พบ 22 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ โดยภาคเหนือ อาทิ แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 209.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ลำพูน 203.5 มคก./ลบ.ม. เชียงใหม่ 189.8 มคก./ลบ.ม. เชียงราย 174.7 มคก./ลบ.ม. ลำปาง 160.6 มคก./ลบ.ม. พะเยา 159.7 มคก./ลบ.ม. น่าน 142.2 มคก./ลบ.ม. เป็นต้นขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู วัดได้ 104.9 มคก./ลบ.ม.ตามด้วยอุดรธานี 90.1 มคก./ลบ.ม. นครพนม 89.6 มคก./ลบ.ม. มุกดาหาร 88.2 มคก./ลบ.ม. สกลนคร 81.6 มคก./ลบ.ม.ทั้งนี้ จิสด้าเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง ณ วันที่ 14 มี.ค. พบจุดความร้อน (Hot Spot) ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 2,568 จุด ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่า จุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,397 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 790 จุด พื้นที่เกษตร 195 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก.104 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 76 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ แม่ฮ่องสอน 374 จุด ตาก 321 จุด และน่าน 251 จุดขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่พม่า 5,181 จุด ตามด้วยไทย 2,568 จุด ลาว 787 จุด กัมพูชา 477 จุด และเวียดนาม 425 จุด เมื่อดูสถานการณ์เป็นรายจังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดพะเยาสถานการณ์หมอกควันไฟป่ายังคงหนัก หลายอำเภอถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ทำให้พื้นที่ทั้งในป่าและตัวเมืองอึมครึมมืดมิดไปด้วยหมอกควัน จากการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ (AQI) ที่ ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา อยู่ที่ 243 ระดับสีแดง ปริมาณฝุ่น PM2.5 วัดได้ 168 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐาน ระดับสีแดงทั้งเมือง ซึ่งสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดพะเยามีการเผาป่าเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ ล่าสุดพบไฟไหม้ป่าใกล้วัดดอยจุก หมู่ 13 ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว ไฟไหม้ป่าทั้งคืนลุกลามลงมา และอีกหลายพื้นที่ไฟป่ายังคงลุกไหม้ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ตั้งแต่เช้าวันที่ 16 มี.ค.พุ่งสูงสุดถึง 269 ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 143.9 มคก./ ลบ.ม. สภาพอากาศมองด้วยตาเปล่าเห็นได้ชัดเจนว่ามีแต่หมอกควันปกคลุมไปทั่วเมือง ขณะที่ศูนย์ บัญชาการฯ เชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนรอบบ่ายของวันที่ 15 มี.ค. จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อน 70 จุด พบในพื้นที่ อ.อมก๋อย 46 จุด แม่แจ่ม 6 จุด พร้าว 4 จุด เชียงดาว 3 จุด ดอยสะเก็ด 2 จุด ดอยเต่า 2 จุด จอมทอง 2 จุด กัลยาณิวัฒนา 1 จุด ฮอด 1 จุด ดอยหล่อ 1 จุด สะเมิง 1 จุด หางดง 1 จุด ต่อมาเวลา 10.20 น. ที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกฯรับฟังบรรยายสรุปการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน พร้อมกล่าวเมื่อเห็นกราฟสถิติค่าฝุ่น PM2.5 ว่า จะเห็นได้ว่าปริมาณลดลงอย่างชัดเจน และแม้เชียงใหม่จะอยู่อันดับ 1 ของโลก แต่ปริมาณก็ลดน้อยลงไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทำดีแล้ว ต้องพัฒนาต่อ และจากการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมา เห็นชัดเจนว่าค่าฝุ่นลดลงอย่างชัดเจน จุดความร้อนในปัจจุบันเป็นแค่ 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา แสดงว่าเราทำงานได้ดีขึ้น 3 เท่า และยืนยันงบประมาณที่ให้ไป ปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้จริง และขอบคุณเจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคนที่เอาเรื่องของ PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ วันนี้เราไม่มีสงครามแล้ว ก็ประสานกองทัพนำอุปกรณ์มาช่วยตรงนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เราต้องพูดความจริงว่าจริงๆแล้วก็ลดลงไปมาก และอีกส่วนที่เป็นปัญหาใหญ่ ที่ตนดูอยู่เป็นเรื่องการเผาจากต่างประเทศเป็นเรื่องของทิศทางลมและอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษพูดคุยกับกัมพูชา ตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยยอมรับมีความลำบาก รัฐบาลต้องพิจารณาออกมาตรการที่เด็ดขาด โดยภายในประเทศการเผาป่าเราไม่ยอม แต่นอกประเทศอาจจะเป็นเรื่องการก้าวก่าย แต่ต้องคุยกันจะทำอย่างไร อาจต้องถึงขั้นห้ามนำเข้าข้าวโพดในช่วงไฮซีซัน 15 ม.ค.ถึงสิ้น เม.ย. คงต้องห้ามนำเข้า ขอให้รู้ว่าซีเรียสจริงๆในเรื่องนี้ แม้จะมีผลกระทบบ้างในราคาอาหารสัตว์ แต่หลายท่านก็เห็นสภาพและทิวทัศน์จังหวัดเชียงใหม่ เรื่องเหล่านี้ต้องคิดนอกกรอบ และซีเรียสได้มากกว่านี้ แม้จะลดไปได้ 1 ใน 3 หรือ 2 ใน 3 ก็ตาม จะต้องทะเยอทะยานในการแก้ไขปัญหาอย่าพอใจผลงานที่ทำมา ขอให้กำลังใจทุกท่านที่ทำงาน ขณะเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาดูสถานการณ์ไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ เช่นกัน และให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ ก่อนเดินทางไปรับฟังปัญหาสถานการณ์ไฟป่าที่ อ.สันป่าตอง ว่าไปพบปะอาสามูลนิธิกระจกเงาที่เชิญพรรคก้าวไกลมาล่วงหน้าแล้ว เป็นปีที่ 5 ของมูลนิธิกระจกเงาในการแก้ปัญหาไฟป่า จึงอยากให้ฝ่ายการเมืองมีส่วนร่วม โดยเช้าวันนี้ ค่าฝุ่นที่สนามบินเชียงใหม่อยู่ที่ 215 เป็นอันดับ 1 ของโลก เป็นวันที่สองติดต่อกันแล้ว หากดูจากดาวเทียมของจิสด้าจะเห็นจุดความร้อนมากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากเดิม 300 จุด แต่ในปีนี้มีกว่า 2,000 จุด มากขึ้น 8 เท่า ส่วนการจัดการแก้ปัญหาไฟป่านั้นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า ไฟป่าจะเกิดตั้งแต่เดือน ก.พ.ถึงช่วงฤดูฝน รู้อยู่แล้วเป็นช่วงฝุ่น มีสถานการณ์ไฟไหม้มาตลอด ควรเริ่มทำงานตั้งแต่เดือน พ.ย. จัดทำสถานีน้ำไม่ต้องใช้กำลังคนแบกน้ำขึ้นไป ก็สามารถถ่ายน้ำได้เลย แต่หากเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ต่อเนื่องแล้วไม่มีการเตรียมตัว ก็จำเป็นต้องระดมคนขึ้นไปดับไฟ ขณะนี้รัฐบาลประกาศให้ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้วหรือไม่ ช่วงนี้ของปีที่แล้วก็ไม่ประกาศ เพราะกังวลการท่องเที่ยว มาปีนี้สถานการณ์แย่แล้วยังไม่ประกาศ ทำให้ไม่สามารถใช้งบประมาณกลางได้ หากยังเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ ยังคงต้องใช้วิธีระดมพลเข้าไปดับไฟให้เร็วที่สุดจากนั้นตลอดบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศและค่าฝุ่นพิษในแต่ละจังหวัดของภาคเหนือยิ่งทวีความรุนแรง โดยที่ จ.ลำพูน หมอกควันพิษคงปกคลุมเมืองหนาแน่น เมื่อขึ้นไปที่วัดดอยติ อ.เมืองลำพูน เห็นได้ชัดว่ามีหมอกควันปกคลุมขาวโพลนเต็มไปหมด ขณะที่สำนักงาน ทสจ.ลำพูน รายงานคุณภาพอากาศจังหวัดลำพูนประจำวันที่ 16 มี.ค.คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดงส่งผลกระทบต่อสุขภาพในสองอำเภอ ได้แก่ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน วัดค่า pm2.5 ได้ 136.2 มคก./ลบ.ม. ตำบลลี้ อำเภอลี้ วัดค่า pm2.5 ได้ 144.8 มคก./ลบ.ม.ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ รายงานสถานการณ์ไฟป่าและแก้ไขปัญหาไฟป่า ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ว่า สถานการณ์ไฟป่าในปี 2567 ประเทศไทยมีจุดความร้อนสะสม 72,191 จุด อยู่ในพื้นที่ป่า 41,970 จุด แยกเป็นป่าอนุรักษ์ 23,141 จุด และป่าสงวนแห่งชาติ 18,829 จุด และนอกพื้นที่ป่า 30,221 จุด โดยจำนวนจุดความร้อนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คิดเป็นร้อยละ 32.82 ของจุดความร้อนในปี 2566 ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน ณ วันที่ 16 มี.ค. พบจุดความร้อนในประเทศไทย 394 จุด ส่วนใหญ่พบใน 17 จังหวัดภาคเหนือ215 จุด มากที่สุดที่จังหวัดตาก 34 จุด นครสวรรค์ 26จุด และกำแพงเพชร 25 จุดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในปัจจุบัน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน และอุทยานแห่งชาติแม่ปิง โซน จ.ตาก และ จ.ลำพูน ขณะที่พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 11 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติสาละวิน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่จริม อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เตรียมการอุทยานแห่งซาติถ้ำผาไท และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าอมก๋อย โดยจำนวนจุดความร้อนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 11 แห่ง ในปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 47.08 ของจุดความร้อนในปี 2566ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังมาติดตามการแก้ปัญหาไฟป่าว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าฝุ่น PM2.5 จ.เชียงใหม่ สูงติดท็อปเท็นของโลก แต่ต้องให้ความเป็นธรรมเจ้าหน้าที่ว่า ปีนี้กับปีที่แล้วช่วงเวลาเดียวกัน พื้นที่เผาป่า จ.เชียงใหม่ ลดลงร้อยละ 74 จุดฮอตสปอต 17 จังหวัดชายแดนภาคเหนือลดลง 1 ใน 3 ของปีที่แล้ว แต่ยังเป็นท็อปเท็นของโลก จึงต้องแก้ไขกันต่อไป และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันดูแล ฝุ่น PM2.5 ที่เห็นอยู่ไม่ได้เกิดขึ้นจากในประเทศอย่างเดียว เกิดจากนอกประเทศด้วย จึงต้องมีมาตรการจัดการ เชื่อว่าในฤดูฝนฝุ่น PM2.5 จะลดลงแน่นอนขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังขึ้นไปร่วมภารกิจดับไฟป่าบนเขาทุ่งปี๊ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ว่ามีความยากลำบาก จำนวนคนไม่พอ งบขอไป 1 พันล้านบาท ได้มา 50 ล้านบาท ถ้าประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินจะดีที่สุด สามารถเอางบกลางมาใช้ได้ ส่วนปัญหาฝุ่น PM2.5 กว่าร้อยละ 40 น่าจะเผาจากต่างประเทศ อีกร้อยละ 20 น่าจะเกิดจากไฟป่าในประเทศ แต่เราแก้ปัญหาไฟป่าได้แค่ร้อยละ 10 ยังไม่พอ หลังจากนี้จะนำไปอภิปราย และเข้าสู่กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร บางพื้นที่ฉีดน้ำไปแต่น้ำมีไม่พอ ถ้ามีธนาคารน้ำหรือสถานีน้ำวางอยู่จะใช้ได้เต็มทีดับไฟได้เร็วมากขึ้นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่