เมื่อวันก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้เดินทางไปเปิดบ่อน้ำบาดาลแก้ปัญหาภัยแล้งใน ต.น้ำสวย อ.เมืองเลย
มีกลุ่มชาวบ้านจาก อ.ปากชม และ อ.เชียงคาน จ.เลย กว่า 50 คน นำโดย นายกัญจน์ วงศ์อาจ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ “ทสม.” ได้นัดกันไปชุมนุมเพื่อแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง “เขื่อนสานะคาม” ของ สปป.ลาว ห่างจากพรมแดนไทยด้าน อ.เชียงคาน ประมาณ 2 กม.
โดยก่อนหน้านั้น 1 วัน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ยื่นหนังสือต่อ นายสิริวิชญ กลิ่นภักดี ผู้ช่วยเลขาธิการ สทนช. ซึ่งเป็น 1 ในคณะกรรมการที่ร่วมรับผิดชอบดูแลปัญหาผลกระทบการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศในแม่น้ำโขง ระหว่างเดินทางไปหารือข้อราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอปากชมมาแล้ว
เรียกร้องให้รัฐบาลศึกษาพิจารณาประเด็นต่างๆที่เป็นความกังวลของประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับมาตรฐานการออกแบบ การบริหารจัดการน้ำในระบบพื้นที่ท้ายเขื่อน รวมทั้งที่ตั้งของเขื่อนซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหว รวม 6 ข้อ
เพื่อให้มีการทบทวนและนำมาซึ่งการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด โดยชาวเชียงคานและปากชมซึ่งใช้ชีวิตทำกินในลุ่มแม่น้ำโขง หวังให้มีการพิจารณาทบทวนที่ตั้งโครงการเขื่อนใหม่
รวมถึงความมั่นคงแข็งแรงของการก่อสร้างและมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งล้วนก่อให้เกิดความกังวลที่อาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชนอีกด้วย
ในขณะที่ผู้ช่วยเลขาฯ สทนช. ได้รับปากกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบยินดีที่จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่
...
สงสัยว่าเรื่องนี้น่าจะเป็น “หนังยาว” ที่ไม่จบง่ายๆ และคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าความเดือดร้อนกังวลของชาวบ้านกลุ่มนี้จะมีความคืบหน้าในการพิจารณาอย่างจริงจังหรือไม่อย่างไร...
ทีมข่าวภูมิภาค