ขอนแก่นยังหนัก ทั่ว กทม.คลี่คลายไม่เกินมาตรฐาน!

กรมควบคุมมลพิษเผยสถานการณ์ PM 2.5 ที่ จ.ขอนแก่น ยังวิกฤติ ส่วนค่าฝุ่นพิษใน กทม.และปริมณฑลเริ่มลด ขณะที่หลายจังหวัดยังคงผนึกกำลังสู้กับปัญหาฝุ่นพิษต่อเนื่อง ทั้งสั่งห้ามนำวัสดุที่ก่อให้เกิดไฟหรือเชื้อไฟเข้าป่า จี้ตรวจเข้มโรงงานปล่อยมลภาวะ เมืองหมอแคน ครูนักเรียนนับพันคนร่วมสวมหน้ากากอนามัยเข้าร่วมงานรณรงค์สู้ฝุ่น ด้าน “บิ๊กตู่” เผยเตรียมผลักดันโครงการรถยนต์ไฟฟ้าหวังแก้ปัญหาระยะยาว ห่วงโลกร้อนทำน้ำทะเลสูงทำกรุงเทพฯจมใต้บาดาล

สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ยังคงเป็นปัญหา ระดับชาติที่ทุกฝ่ายกำลังเร่งแก้ไข เมื่อวันที่ 7 ก.พ. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่าลดลงจากเมื่อวันที่ 7 ก.พ.เกือบทุกพื้นที่ มีค่าฝุ่นละอองที่ 12-38 มคก./ลบ.ม. ปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมานั้น 1.บก.จร.ตั้งจุดตรวจวัดมลพิษจากยานพาหนะทั้งหมด 20 ชุด ยอดการจับกุม 602 ราย แบ่งเป็นรถใหญ่ ไม่ผ่าน 377 คัน รถเล็กไม่ผ่าน 225 คัน 2.กทม.ร่วมกับโรงเรียนการบินกรุงเทพ จัดเครื่องบินเล็กโปรยละออง น้ำบริเวณเขต บางขุนเทียน รวม 6 เที่ยวบิน พร้อม ดำเนินมาตรการลดฝุ่นละอองอื่นๆอย่างต่อเนื่อง 3.กรมการขนส่งทางบกตรวจจับรถบรรทุกและรถโดยสารควันดำ บนถนนสายหลัก-สายรอง ที่เข้าสู่ กทม.ทุกวัน จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของ คพ. พบว่าในวันที่ 9 ก.พ. PM2.5 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดี คพ.กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่ กทม.และปริมณฑลเริ่มดีขึ้น แต่ที่ จ.ขอนแก่น ถือว่าค่อนข้างอันตรายต่อสุขภาพ คาดว่ามาจากการเผาในที่โล่ง และการจราจรติดขัดรถปล่อยควันดำ ซึ่งตนได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ตามคำสั่งของ รมว.มหาดไทยแล้ว ให้มีการกวดขันเรื่องการเผาในที่โล่ง สำหรับปรากฏการณ์หมอกควันไฟในพื้นที่ 9 จังหวัดภาค เหนือนั้น คาดว่าปีนี้จะดีขึ้นขณะนี้ยังไม่พบว่ามีพื้นที่ใดมีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หลายจังหวัดเริ่มประกาศห้ามเผาอย่างเด็ดขาดแล้ว

...

ส่วนสถานการณ์ฝุ่นพิษในจังหวัดต่างๆ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ ในพื้นที่ จ.แพร่ พบปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 สูงถึง 88 ไมโครกรัมเกินค่ามาตรฐาน จึงได้เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง ที่มีการเผาและมีจุดความร้อนมากที่สุดในช่วงวันที่ 1-5 ก.พ. พร้อมเรียกประชุม หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเน้นย้ำให้บูรณาการแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม นอกจากนี้อาศัยอำนาจตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ออกประกาศห้ามมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าไปกระทำการใดๆ ในพื้นที่ป่าแม่เติ้ก ป่าแม่ถาง และป่าแม่คำปอง เขตติดต่อ อ.ร้องกวาง และ อ.เมืองแพร่ ตั้งแต่ 6 ก.พ.- 15 เม.ย. หากมีความจำเป็นจริงๆต้องแจ้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่พิจารณาเป็นรายๆไป และห้ามนำวัสดุอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดไฟหรือเชื้อไฟเข้าไปด้วย

ที่ จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับทหาร สาธารณสุขจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงงานรับซื้อและผลิตยาพาราศรีตรัง อ.เมือง โรงงานแอสฟัลท์ติก หจก.พงษ์พิศกาฬสินธุ์ อ.ดอนจาน และโรงงานแป้งมันบางนา จำกัด อ.ยางตลาด โดยเน้นการตรวจสอบเรื่องฝุ่นละอองการปล่อยควันดำไอเสียบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่จะมีผลกระทบกับประชาชน ทั้งนี้จากการตรวจสอบโรงงานยางศรีตรัง มีบ่อบำบัดน้ำเสีย 1 บ่อ คุณภาพน้ำยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จึงแจ้งให้แก้ไขและจะกลับมาตรวจสอบใหม่ เนื่องจากเป็นโรงงานที่มีระบบเผาไหม้ โดยใช้เศษไม้เป็นเชื้อเพลิงและปล่อยควันขึ้นสู่อากาศ

อีกด้านหนึ่งที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดนิทรรศการ KNW Open House “ Play and Learn,Plearn to Know 2019” โดยบรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีครู นักเรียน และผู้ปกครอง จำนวนมากสวมหน้ากากอนามัยมาเข้าร่วม ทั้งนี้กิจกรรมในงานมีการสาธิตการสวมใส่หน้ากากอนามัย การแจกจ่ายหน้ากากอนามัยและการให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของฝุ่นละออง นายวีระเดช ซาตา ผอ. โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้ติดตามสถานการณ์มลพิษทางอากาศมาโดยตลอด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง สวมใส่หน้ากากอนามัย ล่าสุดพบว่า จ.ขอนแก่น มีระดับค่า PM 2.5 อยู่ที่ 106 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI อยู่ที่ 216 ถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา จึงเร่งแก้ปัญหาด้วยการฉีดน้ำเข้าไปในชั้นบรรยากาศรอบบริเวณโรงเรียนและตามอาคารเรียนทุกชั่วโมง นอกจากนี้ ยังคงมีการเปิดน้ำพุทุกจุดของโรงเรียน ทั้งให้นักเรียนจิตอาสา ทำการฉีดน้ำในพื้นที่โล่ง พื้นที่เล่นกีฬาเพื่อชำระล้างฝุ่นละออง

...

ต่อมาเมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในปัจจุบัน ดัชนีชี้วัด คุณภาพอากาศ (เอคิวไอ) ชี้ว่าPM2.5 จะส่งผลกระทบต่อบุคคลทั่วไปในระยะยาว 10-20 ปีข้างหน้า แต่การที่รัฐบาลจะออกมาตรการอะไรต้องเห็นใจเกษตรกร ธุรกิจเอกชน การขนส่ง ต้องพิจารณาให้ครบทุกมิติ ที่ผ่านมาได้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจระดมสมองและความคิดในการแก้ปัญหาอย่างน่าประทับใจ ตนขอเสนอมาตรการระยะยาว โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่การเป็นฐานการผลิต และส่งออกยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเป็นอีวี ฮับของภูมิภาค และโครงการวิจัยและพัฒนาดัดแปลงรถยนต์ใช้แล้วให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 แสนบาท เพื่อเป็นทางเลือก นอกจากประหยัดน้ำมันยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เกือบ 50%

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่ากลัวกำลังจะส่งผลรุนแรงในปลายศตวรรษนี้ คืออุณหภูมิเฉลี่ยของมหาสมุทรสูงขึ้น และระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้นถึง 1 เมตร ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าอาจทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯหรือเมืองใหญ่ พื้นที่เกษตรกรรมจะเกิดปัญหาน้ำกิน-น้ำใช้เริ่มจะไม่บริสุทธิ์ ทั้งนี้ การประชุม ระหว่างประเทศเวทีต่างๆชี้ชัดว่าจะต้องป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายใน 12 ปีข้างหน้า ทุกประเทศต้องลงมือปฏิวัติรูปแบบ ทั้งเศรษฐกิจ การผลิต และการบริโภคให้พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลน้อยที่สุด