หนุ่มเพื่อนบ้านปืนโหดจ่อยิงสองผัวเมียดับ หลังมีเรื่องบาดหมางผู้ตายเลี้ยงหมาไว้ในบ้าน แล้วเห่าเสียงดังน่ารำคาญ เข้าไปเตือนหลายครั้งแต่ไม่ฟังกลับถูกด่าโมโหสุดขีดเข้าไปหยิบปืน 9 มม. ในบ้านยิงระบายอารมณ์ จากนั้นขี่รถ จยย.ไปมอบตัวกับตำรวจ อ้าง สาเหตุบันดาลโทสะ

เหตุหนุ่มโหดรัวยิงสองผัวเมียดับ เปิดเผยเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 10 พ.ย. พ.ต.ท.สมนึก มุมทอง สว. (สอบสวน) สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุ ยิงกันมีผู้เสียชีวิตที่หน้าบ้านเช่าเลขที่ 14/8 หมู่ 3 ต.เสม็ด ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผกก. พ.ต.ท.พิสิฐ กิจขุนทด รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 2 แพทย์โรงพยาบาลชลบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรม

ที่เกิดเหตุพบศพนายโยธิน แก้วฝ่ายนอก อายุ 39 ปี อาชีพรับติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ถูกยิงเข้า ที่หัว 2 นัด และท้ายทอย 1 นัด บริเวณใกล้กันพบ น.ส.บุญญาณี แก้วฝ่ายนอก อายุ 38 ปี ภรรยาของ นายโยธิน ถูกยิงที่เบ้าตาขวา 1 นัด หัวไหล่ซ้าย 1 นัด และหัวไหล่ขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.มหาวิทยาลัยบูรพา แต่เสียชีวิตระหว่างทาง ตรวจสอบบริเวณรอบ ที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 หัว ปลอกกระสุนจำนวน 5 ปลอก รถกระบะถูกยิงที่ท้าย กระบะ 2 นัด เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายประจวบ อุดมกมลเสรี อายุ 57 ปี พี่ชาย น.ส.บุญญาณี ทราบว่า น้องสาวและนายโยธิน รับติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เช่าบ้านที่เกิดเหตุและเลี้ยงหมาชื่อ “ไอ้แดง” ไว้ในบ้านมักจะเห่าเสียงดังเป็นประจำ ช่วงเกิดเหตุน้องสาวและนายโยธินเลิกงาน กลับบ้าน จังหวะนั้นนายจิรัฎฐ์ หรือตูน วุฒิมานานนท์ อายุ 49 ปี เป็นเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามเดินมาบอกว่า “หมาเห่าเสียงดังมานานกว่า 1 ชั่วโมง ช่วยเตะหมาให้เงียบเสียงด้วย” ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเกิดโต้เถียงกันรุนแรง นายจิรัฎฐ์โมโหเดินกลับเข้าไปในบ้าน หยิบปืนออกมายิงน้องสาวและนายโยธินจนล้มลงจากนั้นนายจิรัฎฐ์เดินวนไปมายิงหัวนายโยธินซ้ำ อีก 1 นัด แล้วขี่รถ จยย.หลบหนีไป

...

ต่อมา นายจิรัฎฐ์เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.เสม็ด พร้อมปืน 9 มม. 1 กระบอกสารภาพว่า พักอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับผู้ตาย มักจะ ทะเลาะกันเรื่องหมาเห่าเสียงดังเป็นประจำ ช่วงเกิดเหตุหมาเห่าไม่หยุด ตนทนไม่ไหวเดินไปเตือน แต่คู่กรณีพูดย้อนกลับมาว่า “ถ้าอยากทะเลาะกับหมาก็เรื่องของมึง” ตนโมโหสุดขีดไปหยิบปืนยิงกระหน่ำทั้งคู่ เป็นเหตุให้เสียชีวิต