ตำรวจจำนวนมากทำดีแทบตาย แต่ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นโฉ่ไปทั้งข้อง?
สุภาษิตนี้ยังใช้ได้ไม่ตกยุค เพราะเป็นข้อเท็จจริงในสังคม โดยเฉพาะสังคมตำรวจที่ต้องแบกหน้าที่รับผิดชอบ ด่านแรกของกระบวนการยุติธรรม
ทำให้เวลาทำความผิด จะถูกถล่มหนักเป็นพิเศษ ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่?
อย่างคดีเบนซ์ป้ายแดงขับชนรถ จยย.พ่วงข้าง จน นางสุภาพ มูลหลวง ได้รับบาดเจ็บ หน้าซอยโรงเรียนบูรพา ฝั่งมุ่งหน้าหมู่บ้านกระโดน หมู่ที่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี
เบื้องต้นรถเบนซ์น่าจะเป็นฝ่ายผิด เพราะใจร้อนต้องการแซงแต่ไม่พ้น...
ปกติช่วยพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล เรียกประกันมาดูแลค่าเสียหายก็น่าจะจบ?
แต่ที่ไม่จบเพราะว่า นายสมชาติ นิพัทธ์วรนันท์ คนขับรถเบนซ์ลงมาโวยวาย แถมมีพวกที่นั่งมาด้วยไปทำร้ายร่างกายอาสากู้ภัยที่เข้ามาช่วยคนเจ็บ?!
อวดเบ่งอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ!
ร้อนถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ออกมาแถลงว่า รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเสียหาย มีผู้โดยสารรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับบาดเจ็บ
พนักงานสอบสวนถ่ายภาพสถานที่ ทำแผนที่เกิดเหตุ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ต่อมาสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าวพร้อมคลิปบางช่วงว่า มีชายเสื้อขาวอ้างตัวเป็นตำรวจลักษณะมึนเมา โวยวาย และตบศีรษะเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นตำรวจจริง
...
ขณะนี้พนักงานสอบสวนประสานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยที่ถูกทำร้ายมาสอบปากคำ และจะประสานทั้งนายสมชาติและตำรวจคนดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
หากตรวจพบว่า ตำรวจรายดังกล่าวทำผิดจริง จะดำเนินการทางอาญา และรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปยังต้นสังกัดเพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด!
สรุปว่าจากคดีรถชนเล็กน้อย ตอนนี้บานปลายไปใหญ่ เป็นบทเรียนให้ตำรวจทั้งประเทศ?
สหบาท