ตำรวจจับหนุ่มวางเพลิงโรงพักปากเกร็ด ย่องลงมือตอนค่ำแอบขึ้นไปชั้น 2 ใช้น้ำมันราดห้องเก็บสำนวนการสอบสวนก่อนจุดไฟเผาวอดเสียหาย แล้วหนีไปขี่รถ จยย.ที่จอดทิ้งไว้ตรงร้านกาแฟข้างสถานีตำรวจ จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า หวังตบตาเจ้าหน้าที่ตามจับกุม แต่หนีไม่รอด ชุดสืบสวนแกะรอยจากกล้องวงจรปิดบุกตะครุบตัวได้พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุถึง 9 รายการ สารภาพอ้างโดนแม่ด่าคิดว่าทำผิดโดนหมายจับ โมโหบุกเผาล้างแค้น ชุดสืบสวนไม่ปักใจเชื่อหลังพบวางแผนแยบยลกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณทางเดินชั้น 2 หน้าห้องอำนวยการและห้องเก็บเอกสารสำนวนการสอบสวนอาคารที่ทำการธุรการของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือเป็นการลอบวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วย พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด และ พ.ต.ท.แสงระวี ภูสอาด สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ร่วมกันสอบปากคำนายปฏิวัติ จูบ้วนกิม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150/32 หมู่ 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาลอบวางเพลิงเผาโรงพัก สภ.ปากเกร็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.661/2567 ลงวันที่ 24 ก.ค.2567 ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสืบเนื่องจากชุดสืบสวนร่วมกันสืบหาข้อมูลและตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนได้หลักฐานแน่ชัดว่านายปฏิวัติเป็นผู้วางเพลิงเผาโรงพัก พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาในช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาบริเวณหน้าร้านเสื้อนครบาลวินเทจ เลขที่ 202 ซอยนวมินทร์ 70 แยก 1 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุง เทพฯ จากนั้นพาไปตรวจค้นหาหลักฐานที่บ้าน พร้อมยึดของกลางประกอบด้วยรถ จยย.ฮอนด้า ซูมเมอร์เอ็กซ์ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 5 กฬ 9844 กรุงเทพมหานคร และอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ 9 รายการจากการตรวจสอบเส้นทางตั้งแต่เริ่มก่อเหตุพบว่านายปฏิวัติขี่รถ จยย.ไปซื้อน้ำมันเบนซิน 40 บาทมาจากปั๊มหยอดเหรียญ ซอยทานสัมฤทธิ์ ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จากนั้นขี่รถไปถอดทะเบียนในเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด ก่อนขี่มาจอดก่อนถึงโรงพักประมาณ 200 เมตรแล้วเดินเข้าไปในสถานีตำรวจไปยังจุดเกิดเหตุก่อน 1 ครั้ง เพื่อดูลาดเลา ไม่นานผู้ต้องหาเดินย้อนกลับไปอีกครั้งตรงขึ้นไปบนชั้น 2 อาคารที่เกิดเหตุ แล้วใช้น้ำมันราดจุดไฟแช็กใส่ลังกระดาษที่เตรียมไว้เป็นเชื้อไฟจนเพลิงลุกไหม้ จากนั้นรีบหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุขี่รถมุ่งหน้าไปทางดอนเมือง กทม. เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก 2 ครั้งก่อนหลบหนีและถูกตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุดด้านนายปฏิวัติ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างสาเหตุที่ก่อเหตุมาจากมีอาการเครียดเรื่องปัญหาส่วนตัวกรณีทราบข่าวว่ามีตำรวจหน่วยอื่นส่งเอกสารทางราชการไปส่งให้แม่ของตน ทำให้แม่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นหมายจับและคิดว่าตนมีความผิด ถูกแม่ด่าอย่างรุนแรง เกิดความโกรธแค้น วันเกิดเหตุนำรถ จยย.ไปจอดตรงร้านกาแฟด้านข้างโรงพัก เดินถือขวดน้ำมันเบนซินอ้อมด้านข้างขึ้นตึกเก่าบริเวณชั้น 2 ลงมือราดน้ำมันจุดไฟเผา เสร็จแล้วหนีไปทางบันไดปีกซ้ายของตึกลงบันไดย้อนกลับไปทางเดิมและขี่รถไปเปลี่ยนชุดใหม่หลบหนี เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้ ยืนยันว่าไม่มีบุคคลใดว่าจ้าง หรือวาน หรือให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดให้มาลงมือก่อเหตุ หรือบังคับขู่เข็ญให้มาลงมือก่อเหตุวางเพลิงอย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อตามคำให้การทั้งหมดของนายปฏิวัติ อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลว่ามีมูลเหตุแรงจูงใจอะไรที่ทำให้ผู้ต้องหากล้าหาญบุกเผาโรงพักในครั้งนี้อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่