อุทาหรณ์สาวท้องแก่ 8 เดือน จุดไฟเผากองขยะ ดวงถึงฆาต กระป๋องสเปรย์ระเบิดพุ่งเฉือนคอ ล้มทรุดเลือดทะลักรีบช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ยื้อไม่ได้ เสียชีวิต ทั้งแม่และลูกในท้อง แผลลึกตัดเส้นเลือดใหญ่ ตายทั้งกลมสุดสลด ญาติให้กู้ภัยช่วยผ่าเอาศพทารกออกจากท้องแม่ตามความเชื่อ แยกศพแม่ไปตั้งบำเพ็ญกุศล ส่วนศพลูกนำไปฝังที่วัด กู้ภัยฝากเตือนชาวบ้านเผาขยะต้องระวัง โดยเฉพาะกระป๋องสเปรย์ถูกความร้อน จะระเบิดอันตรายมาก

เตือนภัยใกล้ตัว สาวท้องแก่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จุดไฟเผาขยะถูกกระป๋องสเปรย์ระเบิดพุ่งเฉือนคอเสียชีวิตสลดรายนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 11 พ.ค. พ.ต.ต.ประยุทธ นุชนารถ สว. (สอบสวน) สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนจุดไฟเผาขยะถูกกระป๋องสเปรย์ระเบิดใส่คอได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านไม่มีเลขที่ บริเวณแท็งก์น้ำประปาข้างวัดละหาร ต.ศรีประจันต์ รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังตำรวจไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีเลขที่ บริเวณลานข้างบ้านมีร่องรอยเผากองขยะ พบกระป๋องสเปรย์ยาพ่นขยายหลอดลมขนาดสูง 6 นิ้ว ถูกความร้อน จากการเผาขยะจนระเบิดก้นกระป๋องฉีกขาดกระเด็นตกอยู่ มีรอยเลือดสาดกระจายเป็นจุดๆ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงสาวท้อง 8 เดือน รถพยาบาลมารับไปรักษาตัวที่ รพ.ศรีประจันต์ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ น.ส.สุธิสา ดีน้อย อายุ 19 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 137/15 หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภาพศพถูกของมีคมเฉือนที่ลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ตัดเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิตทั้งแม่และลูกในท้อง

หลังแพทย์ชันสูตรศพแล้วอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ กู้ภัยผ่าเด็กออกจากท้องแม่ เป็นทารกเพศหญิงอวัยวะครบสมบูรณ์ นำศพเด็กมอบให้นายเมธิน ทองอินทร์ อายุ 17 ปี พ่อเด็กที่อยู่ในอาการโศกเศร้า อุ้มร่างลูกน้อยใส่ในอ้อมอกร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นแม่ ก่อนนำทั้งคู่ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเถรพลาย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์

...

นายสงบ ทองอินทร์ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านเป็นตาของสามีผู้ตายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นหลานสะใภ้ตื่นมาตอนเช้ามืด ออกไปเก็บกวาดใบไม้และขยะบริเวณหน้าบ้านกับเด็กชายที่เป็นหลานอีกคนหนึ่ง หลังกวาดขยะเสร็จหลานสะใภ้จุดไฟเผาขยะและเอาไม้เขี่ยขยะบริเวณรอบๆเข้ากองไฟ ระหว่างนั้นหลานชายที่ยืนอยู่ด้วยเดินไปเข้าห้องน้ำในบ้าน สักพักได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรระเบิดพร้อมๆกับหลานสะใภ้ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด รีบตะโกนเรียกหลานชายที่เป็นสามีให้ออกไปดู ส่วนตนขาไม่ดีเดินช้าตามออกมาทีหลัง เห็นหลานสะใภ้ถูกกระป๋องสเปรย์ที่ระเบิดกระเด็นใส่ลำคอเลือดไหลทะลัก หลานชายช่วยกดบาดแผลพยายามห้ามเลือดและให้ญาติรีบโทร.แจ้งรถพยาบาลมารับไปส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายแพทย์ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้

น.ส.วิภาดา คุ้มหมู่ อายุ 35 ปี แม่ผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยทำงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์ หลังจากตั้งท้องก็ลาออกเตรียมจะคลอดลูกวันที่ 8 เดือนหน้า เมื่อสองวันก่อนลูกสาวมาอยู่กับแม่ที่ห้องพักและเพิ่งกลับไปอยู่บ้านสามีได้คืนเดียว ทราบว่าลูกสาวจุดไฟเผาขยะและมีกระป๋องสเปรย์ที่อยู่ในกองขยะระเบิดพุ่งใส่คอจนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตามความเชื่อของชาวบ้านบอกว่าต้องผ่าเอาเด็กออกก่อนจึงจะนำศพไปบำเพ็ญ กุศลได้ ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยผ่าเอาศพเด็กออกมา

ด้านนายรัตนพล อาสาเภสัช อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี คนที่ผ่าศพเด็กทารกออกจากท้องแม่เผยว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือจะมีอาถรรพณ์อะไร นึกถึงหลักทางพระพุทธศาสนาคือการดับธาตุขันธ์ ส่วนตามหลักการแพทย์ได้ขออนุญาตจากตำรวจและแพทย์แล้วเพื่อผ่าร่างเด็กออกมาตามความประสงค์ของญาติ จะนำศพแม่และลูกไปที่วัดเถรพลาย โดยศพแม่นำไปตั้งสวดอภิธรรมและฌาปนกิจ ส่วนศพลูกจะนำไปฝังในวัด เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยชุดตนมีบริการแต่งหน้าศพให้ทุกศพเพื่อให้ดูสวยงามก่อนที่ญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศล ญาติจะได้คลายความโศกเศร้าลงบ้าง พร้อมกันนี้ยังฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นหากจะเผาขยะต้องระวัง ต้องดูในกองไฟว่ามีอะไรบ้าง โดยเฉพาะกระป๋องสเปรย์ถูกความร้อนจะระเบิดได้ มีการรณรงค์ให้คัดแยกเก็บรวบรวมไปทิ้งในถังขยะไม่เอาไปเผา แต่ครั้งนี้คงเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่