ชาวสังขละบุรีแตกตื่นแผ่นดินไหวขนาด 4.0 เขย่าขวัญกลางดึก บ้านเรือน หลังคาตลาดสดสั่นสะเทือนรับรู้แรงสั่นไหวถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี พ่อค้าแม่ค้าพากันวิ่งหนีออกจากอาคารโกลาหล หลังเกิดเหตุนายอำเภอสั่งเจ้าหน้าที่สำรวจสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ยืนยันมั่นใจแข็งแรงดี ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ด้านนักท่องเที่ยวไม่หวั่นแห่เที่ยวกันเนืองแน่น เผยเป็นพื้นที่รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ที่ต้องเฝ้าระวัง เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี 58เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 พ.ย.กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อเวลา 03.07 น. วันที่ 19 พ.ย.2566 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.0 จุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ความลึก 6 กิโลเมตร ผลกระทบรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จ.กาญจนบุรี สาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของกลุ่มรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ และมีรายงานว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวเป็นช่วงกลางดึก ทำให้บ้านเรือนในพื้นที่ อ.สังขละบุรี เกิดเสียงดังและสั่นสะเทือนไปทั่ว ทำชาวบ้านที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้านต่างตกใจตื่นกันทั้งอำเภอ ขณะที่ประชาชนในตัวจังหวัดกาญจนบุรีรับรู้ถึงการสั่นไหวเช่นกันต่อมาเวลา 07.08 น. นายกำฤทธิ์ ใบแย้ม ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา กองความปลอดภัยเขื่อน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แจ้งประกาศ (แก้ไข) ระบบตรวจวัดข้อมูลระยะไกลด้านความปลอดภัยเขื่อน (Dam Safety Remote Monitoring System, DS-RMS) ฝ่ายบำรุงรักษาโยธา เรื่องแผ่นดินไหวขนาด 4 บริเวณ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 เวลา 03.07 น. (ตามเวลาของประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ละติจูด 15.1850องศาเหนือ ลองจิจูด 98.4040 องศาตะวันออก ขนาด 4 ความลึก 6 กม. ห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 47.87 กิโลเมตร ในส่วนเครื่องวัดอัตราเร่งของพื้นดินจากแผ่นดินไหว เขื่อนวชิราลงกรณตรวจวัดได้ค่าสูงสุด 0.00608 g ไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนวชิราลงกรณและเขื่อนต่างๆของกฟผ.นายกำฤทธิ์เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงเขื่อนของ กฟผ. หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบวัดอัตราเร่งสูงสุดที่เขื่อนวชิราลงกรณได้ 0.00608 g ขณะที่เขื่อนถูกออกแบบรับแรงแผ่นดินไหวไว้ 0.1g เขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงเป็นปกติ ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัย ทั้งนี้ กฟผ.มีระบบการตรวจสอบติดตามและเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนตลอดเวลา ผ่านเครื่องมือวัดต่างๆที่ติดตั้งไว้ที่เขื่อนและรอบอ่างเก็บน้ำ เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลหาสถานะความปลอดภัยเขื่อนด้วยระบบเสมือนผู้เชี่ยวชาญ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลสถานะและความมั่นคงเขื่อนได้ทางแอปพลิเคชัน EGAT ONE ตลอด 24 ชั่วโมงขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เขตเทศบาลตำบลวังกะ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวพบชาวบ้านยังคงแตกตื่นถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆ สอบถาม น.ส.นาตยา นุ่มวัฒนะ แม่ค้าหมูตลาดสดเทศบาลตำบลวังกะ ต.หนองลู เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนกับสามีและคนงานกำลังช่วยกันเตรียมหมูเพื่อจะขายให้ลูกค้า จู่ๆเกิดเสียงดังบนหลังคาตลาดและมีเสียงดังในพื้นดินวิ่งผ่านตนเองไป พอตั้งสติได้คิดว่าเกิดแผ่นดินไหวแน่นอน ทุกคนต่างตกใจรีบวิ่งหนีออกมาจากตัวอาคาร มีพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่อาคารเดียวกัน พากันหนีออกมาด้านนอกด้านนายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า เมื่อคืนขณะนอนหลับในบ้านพักเกิดแผ่นดินไหว มีเสียงดังและมีการสั่นไหวสะเทือน สามารถรับรู้ได้เป็นระยะเวลาประมาณ 10 วินาทีก่อนจะสงบหยุดไป ตอนเช้าสั่งการให้ทุกพื้นที่ทุกตำบลเร่งสำรวจผลกระทบว่าพื้นที่ใดมีความเสียหายใดบ้าง ตอนนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ส่วนสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (อุตตมะ) หรือสะพาน มอญ ยังคงแข็งแรงปลอดภัยดี นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ตามปกติและปลอดภัยส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวยังคงมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาเที่ยวกันตามปกติกว่า 1,000 คน ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นประมาณ 18 องศาเซลเซียส ส่วนใหญ่ร่วมกิจกรรมแต่งกายเสื้อผ้าชุดพื้นเมืองตักบาตรทำบุญและเดินไปเที่ยวชมทัศนียภาพบนสะพานมอญที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำซองกาเลียอย่างสนุกสนาน และมั่นใจว่าสะพานไม้แห่งนี้ยังคงมั่นคงแข็งแรงดี ไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากเหตุแผ่นดินไหวผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีเป็นพื้นที่เฝ้าระวังแผ่นดินไหว เนื่องจากมีรอยเลื่อนสำคัญคือรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ที่ผ่านมาเคยเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2558 ความแรง 4.8 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางที่ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ความลึกประมาณ 4 กม. และวันที่ 20 ส.ค.2558 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 แมกนิจูด ที่ อ.สังขละบุรี ประชาชนรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายนอกจากนี้ มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/อำนวยการจังหวัด ได้มีหนังสือในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุดที่ กจ (กอปภ.จ.) 0021/319 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ถึงผู้รับปฏิบัติ หัวหน้าส่วนราชการ, ประชา สัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี, ผู้อำนวยการอำเภอ ทุกอำเภอ, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และผู้อำนวยการท้องถิ่นทุกแห่ง ให้ดำเนินการดังนี้1.ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง 2.ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน โดยประสานและบูรณาการหน่วยงานเครือข่าย จิตอาสา ภาคเอกชน ชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดความตื่นตระหนกรวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานราชการ3.สำรวจความเสียหายพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ โบราณสถาน อาคารสถานที่สำคัญต่างๆที่มีอายุการใช้งานมายาวนานว่ามีความมั่นคงแข็งแรง มีความปลอดภัยเพียงใดในการใช้งานอาคาร และให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด และ 4.สามารถแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยดำเนินการเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ทราบทันที ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-3451-5998 โทรสาร 0-3451-6795 เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่