ศิลปวัฒนธรรมฉบับ เม.ย. คอลัมน์แลหลังฟังเพลง คุณบูรพา อารัมภีร เขียนถึงเพลง “แม่กลอง” ที่ ชาลี อินทรวิจิตร แต่งเนื้อ สมาน กาญจนะผลิน ให้ทำนอง สุเทพ วงศ์กำแหง ร้องหลายๆเพลงที่คุณบูรพาเอามาเขียน มักเป็นเพลงของพ่อ ครูสง่า อารัมภีร แต่งทั้งเนื้อร้องทำนอง น้อยเพลงที่คู่คุณชาลี ซึ่งเพื่อนพ้องก็เรียก “พี่หง่า” แต่งกับครูสง่าสง่า ลือประเสริฐ เป็นคนท่าฉลอม คนรู้จักเป็นนักแต่งเพลงตัวเก่ง แต่หากน้องพี่มีเรื่อง สง่าก็เปลี่ยนบทเป็นนักเลง ชูกำปั้นพร้อมตะบันหน้ารู้ไว้เถิดหนา! คนแต่งเพลงท่าฉลอม แสนหวาน เป็นนักเลงท่าฉลอมตัวจริงย่าชื่อเรียม ไม่อยากให้หลานไปเต้นกินรำกิน ตอนไปประกวดร้องเพลง จึงใช้ชื่อ ส.อินพรวิจิตร ต่อมาเพี้ยนเป็นอินทรวิจิตรปี 2492 เล่นละครเวทีเรื่องเคหาสน์สีแดง เป็น น.ท.ชาลี บทบาทถูกใจ “ดวงดาว” หม่อมเจ้าสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร เจ้าของบทประพันธ์ เรียกตัวเปลี่ยนชื่อให้จากสง่า เป็นชาลี และใช้ชื่อชาลีมานับแต่นั้นโลดแล่นในวงการนักร้อง นักแต่งเพลง เพื่อนเรียก “สง่าบ้าเพลง” อยู่นานจนได้ฟังเสียงนักร้อง สุเทพ วงศ์กำแหง ชรินทร์ นันทนาคร รู้ว่าเป็นนักร้องดังคงสู้ไม่ได้ หันมาแต่งเพลงให้สองนักร้องดังแทน แล้วก็แต่งเพลงดังบันทึกแผ่นเสียงจนนับไม่ถ้วนเพลงดัง เพลงหนึ่ง “แม่กลอง” ชาลีเขียนไว้ในหนังสือ “บันเทิง บางที” หน้า 153 ว่า ไปเที่ยวแม่กลอง กับอาจินต์ ปัญจพรรค์ สง่า อารัมภีร (แจ๋ว) รงค์ วงศ์สวรรค์ (หนุ่ม) และเพื่อนอีกหลายคนชาลีเล่าว่า อาจินต์ ปัญจพรรค์ ยุให้แต่งเพลง “แม่กลอง” แล้วให้ สง่า อารัมภีร แต่งทำนองแต่ชาลีมีคติประจำใจว่า ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ให้แจ๋วแต่งทำนอง เพราะแจ๋วแต่งเพลงได้ทั้งเนื้อร้องและทำนอง ควรแยกกันแต่งดีกว่าเพราะฉะนั้น จึงมีเพลงที่ชาลีแต่งเนื้อ แจ๋วแต่งทำนองน้อยมาก แต่เพลงที่ร่วมกันแต่ง ก็ดังระเบิด เช่น เรือนแพ ทะเลไม่เคยหลับมนต์รักดอกคำใต้ กุลสตรีส่วนคนที่แต่งเพลงร่วมกับชาลีมากที่สุด คือสมาน กาญจนะผลิน ประสิทธิ์ พยอมยงค์เพลงแม่กลอง เป็นเพลงที่ชาลีแต่งร่วมกับสมาน เป็นเพลงดังระดับอมตะ ของชาลี อินทรวิจิตร อีกเพลงหนึ่งแล้วแน่นอน เป็นเพลงหนึ่งในดวงใจของคนแม่กลอง ชาลี อินทรวิจิตร ทำให้ชื่อ “แม่กลอง” มีมนต์เสน่ห์ลึกล้ำ ดึงดูดใครต่อใครให้เดินทางไปให้ถึงเนื้อร้องท่อนแรก...ที่บูรพา อารัมภีร บันทึกไว้ในล้อมกรอบ...สายชลแม่กลอง เหมือนดังละอองน้ำตก ใสดังกระจก เปรียบดังจิตใจเจ้าของ พี่ลอยรักให้ ฝากไปในสายแม่กลอง ขอเชิญให้น้องครอง ความรักไว้เถิดหนา...คำ “ครอง” ที่ผมให้ตัวดำ...ผมขออนุญาตทักนะครับ ผมเข้าใจและเชื่อหูตัวเอง ครูชาลี ใช้คำว่า “กรอง” นักแต่งเพลงหรือกวีถนัดมีลีลา “ล้อคำ” เช่น “กลอง” เป็น “กรอง”พอดีประเด็นนี้ เกิดมาตรงกับ “เพลงหิ่งห้อย” กลอนที่ผมเขียนส่งให้คุณชมัยภร บางคมบาง กลอนบทนี้ผมเขียนตีพิมพ์ในคอลัมน์ “กังวานกลอง” นสพ.ข่าวแม่กลอง คุณชมัยภรทักมาว่า “กังวานกรอง” หรือเปล่าขอยืนยัน ชื่อคอลัมน์นี้ พี่ปรีชา ขำมณี รุ่นพี่ที่นับถือตั้งกับมือ ให้พวกเราละเลงกลอนครื้นเครง สมัยวัยรุ่นผมเจตนา เอาเรื่องเพลงแม่กลองของคุณบูรพามาเขียนวันนี้ เจตนาใช้หนี้ทางใจ ติดค้างไว้นานในงานเลี้ยงของสมพงษ์ สมวงษ์ ที่ศรีราชาลอดจ์ พี่หง่าฟังผมโม้เรื่องแต่งโคลงกระทู้ ผมเขียนเป็นของขวัญให้เจ้าภาพ เดินลิ่วขึ้นเวที ร้องเพลง “แม่กลอง” ให้ฟัง ยังซึ้งเต็มหัวใจไม่ลืม แม้วันนี้ชาลี อินทรวิจิตร จะจากไปแล้ว.กิเลน ประลองเชิง